ดอยคำผนึกกำลังฟื้นฟูชายหาดพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ปลูกไม้ป่าชายเลนคืนสมดุลสู่ธรรมชาติ
บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด นำโดย นายพิพัฒพงศ์ อิศรเสนา ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการใหญ่ ร่วมกับกับสำนักงานมูลนิธิพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี จัดกิจกรรม “ปลูกต้นไม้ของสังคมพืชสันดอนทรายชายฝั่ง พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน” ประจำปี 2568 เพื่อร่วมกันอนุรักษ์ ฟื้นฟู และคืนสมดุลของระบบนิเวศชายหาดที่เสื่อมโทรมจากกิจกรรมของมนุษย์
กิจกรรมจัดขึ้น ณ บริเวณชายหาดหน้าพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี โดยมี คณะทำงานและเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิฯ ร่วมกันปลูกพันธุ์ไม้พื้นเมือง อาทิ ต้นพลองเหมือด ต้นเกด ต้นข่อย ต้นกระทิง ต้นหูกวางและต้นมะพลับ ซึ่งล้วนเป็นพืชของ “สังคมพืชสันดอนทรายชายฝั่ง” ที่มีบทบาทสำคัญในการรักษาน้ำใต้ดิน ยึดโครงสร้างของสันดอนทรายชายฝั่ง ลดความรุนแรงของลม และไอเกลือที่พัดเข้าสู่ฝั่ง และฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพบริเวณชายหาด
กิจกรรมในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนกล้า “ต้นพลองเหมือดและพลองกินลูก” จำนวน 100 ต้น จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตอกย้ำความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน ภาครัฐ และภาคประชาสังคม ในการดูแลผืนป่าชายหาด การสร้างสวนพฤกษศาสตร์ และหอพรรณไม้ของพืชชายหาดของประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน
“สิ่งแวดล้อมที่ดี เริ่มได้จากทุกคน”
นายพิพัฒพงศ์ อิศรเสนา ณ อยุธยา กล่าวว่า “การฟื้นฟูระบบนิเวศชายฝั่งเป็นเรื่องของความมั่นคงทางธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศ โดยเฉพาะแนวชายฝั่งทะเลของไทยที่เผชิญปัญหาการสร้างโครงสร้างเพื่อป้องกันการเซาะ ตลอดจนสิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่รุกล้ำเข้าไปในเขตถอยร่นตามชายฝั่ง จนเกิดความเสียหายกับระบบนิเวศอย่างต่อเนื่องในวงกว้าง การปลูกพันธุ์ไม้พืชเมืองของสังคมพืชบนสันดอนทรายชายฝั่งจึงเป็นทางออกสำคัญที่ทั้งเรียบง่าย ประหยัด และยั่งยืน”
“กิจกรรมในวันนี้ไม่ใช่เพียงการปลูกต้นไม้ลงบนพื้นทรายแต่ยังเป็นการปลูกจิตสำนึกด้านธรรมชาติและนิเวศวิทยาในหัวใจของฅนดอยคำรวมทั้งคู่ค้าและสื่อมวลชนที่มีบทบาทเป็นกระบอกเสียงส่งต่อแนวคิดและความเข้าใจอย่างแท้จริงของการอนุรักษ์ระบบนิเวศตามธรรมชาติไปยังสังคมวงกว้าง”
ต่อยอดแนวทาง “ธุรกิจเพื่อสังคม” และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)
ดอยคำตระหนักดีว่าธุรกิจจะเติบโตอย่างยั่งยืนได้ ก็ต่อเมื่อดำเนินไปเคียงคู่กับธรรมชาติและชุมชน กิจกรรมในครั้งนี้สอดคล้องกับแนวทาง "ธุรกิจเพื่อสังคม" ที่ดอยคำยึดถือมาตลอด และตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ ได้แก่
SDG 12 : การผลิตและบริโภคที่ยั่งยืน (Ensure sustainable consumption and production patterns)
SDG 14 : การอนุรักษ์ทะเลและทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน (Conserve and sustainably use the oceans, seas and marine resources)
SDG 15 : การปกป้อง ฟื้นฟู และใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศบนบกอย่างยั่งยืน (Protect, restore and promote sustainable use of terrestrial ecosystems)
เสียงจากมูลนิธิฯ : ฟื้นฟูระบบนิเวศอย่างเคารพธรรมชาติ
ด้าน นางสาวเกล้ามาศ ยิบอินซอย ผู้อำนวยการสำนักงานมูลนิธิพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน กล่าวว่า พื้นที่ชายหาดของพระราชนิเวศน์ฯ เคยเป็นระบบนิเวศหาดทรายที่สมบูรณ์ มีหาดทรายขาวสะอาดไปจนจรดชะอำ และหัวหิน มีระบบน้ำจืดใต้สันดอนทรายที่สามารถหล่อเลี้ยงทั้งระบบนิเวศ และชุมชนในอดีตที่นี่ ไม่มีแม่น้ำขนาดใหญ่ที่พาตะกอนเลนมาทับถม ซึ่งในบันทึกเก่าของพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน พูดถึงหาดทรายขาว สะอาด ละเอียด สุดลูกหูลูกตา
แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากกิจกรรมของมนุษย์หลากหลายแบบ การปลูกพืชของสังคมพืชสันดอนทรายชายฝั่งดั้งเดิม เช่น พลองเหมือด เกด ข่อย มะนาวผี แจง กุ่มบก หูกวาง รักทะเล ไปจนกระทั่งพืชขนาดเล็กที่อยู่ติดกับแนวน้ำขึ้นน้ำลง เช่น หญ้าลูกลม คนทีสอทะเล ผักบุ้งทะเล ถั่วผี ถั่วคล้า ฯลฯ จึงเป็นการฟื้นคืนระบบนิเวศเดิมที่สอดคล้องกับความเป็นธรรมชาติ เคารพธรรมชาติ ซึ่งนำไปสู่การฟื้นฟูระบบนิเวศอย่างยั่งยืน ต่อไป
เดินหน้ากิจกรรมเพื่อระบบนิเวศตามธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง
กิจกรรมปลูกต้นไม้ของสังคมพืชชายหาดครั้งนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ถือเป็นอีกหนึ่งความต่อเนื่องของพันธกิจด้านสิ่งแวดล้อมที่ดอยคำให้ความสำคัญมาโดยตลอด อาทิ โครงการ “แกะ ล้าง เก็บ” โครงการ “ทิ้ง เพื่อ ให้” กิจกรรมแยกขยะ ลดปริมาณขยะพลาสติกหน้าร้านดอยคำ การจัดการทรัพยากรน้ำในโรงงานหลวงฯ อย่างมีประสิทธิภาพ ไปจนถึงการส่งเจ้าหน้าที่ส่งเสริมเกษตรลงพื้นที่ให้ความรู้เกษตรกรในการงดใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม
ภาพโดย: ธนาชัย ประมาณพาณิชย์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- นับถอยหลัง “สมรสเท่าเทียม” เตรียมจดทะเบียนพร้อมกันทั่วประเทศ 1,000 คู่
- “เสริมศักดิ์” ยัน โอซีเอ ไม่แบนไทยร่วม เอเชียนเกมส์-ซีเกมส์ หลังเหตุยกเลิกการเป็นเจ้า เอเชียนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6
- นิทรรศการศิลปกรรมเฉลิมพระเกียรติ “บวร ๑๐” ในหลวง ครบ 6 รอบ 72 พรรษา
- “จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์” กินกันไม่ลงครองแชมป์บอลสานสัมพันธ์ ร่วมกัน
- ไอคอนจัดใหญ่เทศสงกรานต์ ริมเจ้าพระยาขานรับเฟสติวัลระดับโลก