โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ยานยนต์

ดีต่อใจคนรักสัตว์เลี้ยง ‘ไปรษณีย์ไทย’ ผนึกกำลัง ‘จุฬาฯ’ ส่งยาน้องหมาน้องแมวถึงหน้าบ้านทั่วไทยในโครงการ ‘พี่ไปรฯ ส่งยา สัตวแพทย์ จุฬาฯ ส่งรัก’

Manager Online

เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • MGR Online

ดีต่อใจคนรักสัตว์เลี้ยง ‘ไปรษณีย์ไทย’ ผนึกกำลัง ‘จุฬาฯ’ ส่งยาน้องหมาน้องแมวถึงหน้าบ้านทั่วไทยในโครงการ ‘พี่ไปรฯ ส่งยา สัตวแพทย์ จุฬาฯ ส่งรัก’

เพราะสำหรับหลายคน สัตว์เลี้ยงไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยง แต่เปรียบเสมือนสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวที่แสนรักและอยากมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ ซึ่งจะดีกว่าไหม? ถ้าไม่ต้องลางานเพื่อพาน้องหมาน้องแมวไปหาหมอและต้องรอคิวนานแสนนาน หรือบ้านอยู่ไกลโรงพยาบาลสัตว์ เดินทางแต่ละครั้งก็เหนื่อยล้าทั้งคนทั้งสัตว์เลี้ยง หรือกังวลว่ายาที่สั่งทางออนไลน์จะมาไม่ทันวันที่ต้องใช้หรือเกิดการตกหล่นเสียหายเสื่อมสภาพระหว่างทาง

ด้วยความเข้าใจในความรู้สึกของคนรักสัตว์เลี้ยง “ไปรษณีย์ไทย” จึงได้จับมือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยคณะสัตวแพทยศาสตร์ และโรงพยาบาลสัตว์ กรุงเทพฯ เปิดตัวแคมเปญ “พี่ไปรฯ ส่งยา สัตวแพทย์ จุฬาฯ ส่งรัก” พลิกโฉมการดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยให้สะดวก รวดเร็ว และเข้าถึงง่ายยิ่งขึ้น ชูระบบส่งด่วน EMS ส่งต่อยาและเวชภัณฑ์สำหรับน้องหมาน้องแมวให้กลุ่มคนรักสัตว์เลี้ยง ด้วยบริการทางเลือก 2 ช่องทาง ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เพิ่มความสะดวกสบาย มั่นใจ ช่วยลดภาระคนรักสัตว์เลี้ยง เซฟทั้งเงิน เวลา และพลังงาน

เมื่อ 2 แบรนด์ชั้นนำผนึกกำลัง ผสานจุดแข็งสร้าง ‘ห่วงโซ่คุณค่าใหม่’ ฟูใจคนรักสัตว์เลี้ยง

โครงการ ‘พี่ไปรฯ ส่งยา สัตวแพทย์ จุฬาฯ ส่งรัก’ ถือเป็นการจับมือครั้งสำคัญระหว่างแบรนด์ระดับประเทศอย่าง ‘จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย’ และ ‘ไปรษณีย์ไทย’ ที่นำจุดแข็งของทั้งสองแบรนด์มาบูรณาการกันอย่างลงตัว เพราะในขณะที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นเสาหลักทางวิชาการและความเชี่ยวชาญด้านสัตวแพทย์ ไปรษณีย์ไทยก็แข็งแกร่งด้วยเครือข่ายการขนส่งระดับประเทศ

โดยประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนคือการสร้างห่วงโซ่คุณค่าต่อวงการสุขภาพสัตว์ในประเทศ ซึ่งนอกจากจะยกระดับคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยงแล้ว ยังสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่อาศัยอยู่นอกเขตเมืองที่ยังอาจเข้าไม่ถึงบริการสุขภาพสัตว์ในรูปแบบดั้งเดิม

ในมุมมองของ ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เห็นว่า นี่คืออีกหนึ่งก้าวที่สำคัญของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในการร่วมเป็นพลังผลักดันการสร้างระบบนิเวศใหม่ให้กับสังคม ขณะที่ไปรษณีย์ไทยก็แสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญในการเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่คุณค่าที่แท้จริง เพราะไม่ใช่แค่เพียงรับส่งพัสดุ แต่สามารถกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบบริการสุขภาพที่เท่าเทียม ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นสำหรับประชาชนทุกภูมิภาค และขยายผลไปถึงสัตว์เลี้ยง

ขณะที่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เอกก์ ภทรธนกุล กรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวด้วยความยินดีว่า โครงการนี้คือหลักไมล์สำคัญที่ทำให้ ‘ไปรษณีย์ไทย’ ก้าวสู่บทบาทโครงสร้างพื้นฐานด้านสุขภาพของประเทศ ทั้งจากการเป็นผู้นำการขนส่งพัสดุ การเป็นพันธมิตรด้านสุขภาพที่เชื่อมโยงการรักษา-บริการและเวชภัณฑ์ได้ถึงหน้าบ้าน รวมถึงมาตรฐานการขนส่งที่ไว้วางใจได้ ทั้งยังสะท้อนภาพลักษณ์ของการเป็นหน่วยงานสื่อสารและขนส่งของชาติที่ยืนอยู่เคียงข้างคนไทยในทุกมิติ

“นอกจากนี้ เมื่อโครงการนี้สามารถขยายผลไปยังภูมิภาคอื่น ๆ หรือกลุ่มโรงพยาบาลสัตว์ในเครือข่ายเพิ่มเติม ก็จะยิ่งตอกย้ำภาพลักษณ์ของไปรษณีย์ไทยในฐานะแบรนด์ที่ขับเคลื่อน Well-being ของสังคมไทยอย่างแท้จริง ขณะเดียวกันยังสะท้อนบทบาทของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในฐานะผู้สร้างระบบสุขภาพสัตว์ที่มีมาตรฐาน เข้าถึงได้ และสามารถต่อยอดโอกาสไปสู่ระดับนโยบายประเทศต่อไปได้ในอนาคต” ดร.เอกก์ กล่าวย้ำด้วยน้ำเสียงเชื่อมั่น

ด้าน ศาสตราจารย์ สพ.ญ.ดร.สันนิภา สุรทัตต์ คณบดีคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า จุฬาฯ มีทรัพยากรที่เพียบพร้อม ทั้งโรงพยาบาลสัตว์ กรุงเทพฯ ที่ให้บริการทางคลินิกที่ครอบคลุมและเฉพาะทางสำหรับสัตว์เลี้ยงหลากหลายชนิด การดูแลฉุกเฉิน การวินิจฉัยขั้นสูง (CT-Scan, MRI) และคลินิกเฉพาะทาง โดยยังได้รับการยอมรับในฐานะโรงเรียนสัตวแพทย์แห่งแรกและเป็นผู้นำในประเทศไทย และได้รับการยกย่องในระดับโลก ตอกย้ำความน่าเชื่อถือของระบบการรักษาที่พร้อมให้บริการผู้ใช้บริการทั่วประเทศ

ด้วยศักยภาพด้านการขนส่งที่แข็งแกร่งของไปรษณีย์ไทย ผสานกับความเชี่ยวชาญด้านสัตวแพทย์ของคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ความร่วมมือครั้งนี้จึงเป็นสิ่งที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงสามารถเชื่อมั่นได้ และเป็น “โมเดลต้นแบบ” ที่จะพลิกโฉมการดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงในอนาคต อีกทั้งสามารถขยายผลไปสู่ภาคส่วนอื่น ๆ เพื่อขับเคลื่อนสุขภาพสัตว์เลี้ยงไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน

สัตว์เลี้ยงก็แฮปปี้ เจ้าของก็สะดวกสบาย

ด้วยบริการ 2 ทางเลือก ตอบโจทย์ Pain Point ตรงจุด

กล่าวได้ว่า โครงการความร่วมมือครั้งนี้สามารถแก้ Pain Point ให้กับเหล่า “ทาสหมา” “ทาสแมว” หรือ “คุณพ่อคุณแม่” ของน้อง ๆ สัตว์เลี้ยงแสนรัก

อันดับแรก คือช่วยลดภาระการเดินทางเพื่อพาสัตว์เลี้ยงไปรับยาที่โรงพยาบาล ตัดปัญหาไม่ต้องฝ่ารถติด ซึ่งทำให้เสียทั้งเวลาและพลังงาน คนก็เหนื่อย สัตว์เลี้ยงก็ล้า อันดับต่อมาคือลดภาระค่าใช้จ่าย เพราะช่วยประหยัดค่าน้ำมัน และค่าเดินทางได้ไม่น้อย นอกจากนั้น ยังช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาลสัตว์ที่มีผู้เข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน

โดยบริการภายใต้โครงการนี้มี 2 ช่องทางหลักให้เลือกเพื่ออำนวยความสะดวกสูงสุด ได้แก่

1. บริการส่งยาถึงบ้านสำหรับผู้มาใช้บริการที่โรงพยาบาลสัตว์ กรุงเทพฯ: หลังจากการตรวจรักษา เจ้าของสัตว์เลี้ยงสามารถเลือกให้ไปรษณีย์ไทยจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ตรงถึงบ้านได้เลย ไม่ต้องเสียเวลารอรับยาที่โรงพยาบาล

2. บริการส่งยาถึงบ้านสำหรับผู้ใช้บริการผ่านช่องทางออนไลน์ (Televet): สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกเดินทางมายังโรงพยาบาล สามารถปรึกษาสัตวแพทย์ผ่านระบบ Televet ของโรงพยาบาลสัตว์ จุฬาฯ และให้ไปรษณีย์ไทยจัดส่งยาถึงบ้านได้ทันที ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล หรือมีข้อจำกัดด้านการเดินทาง

และที่สำคัญคือมั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพ เพราะไปรษณีย์ไทยที่มีบริการส่งด่วน EMS การันตีมาตรฐานการจัดส่งภายใน 1-2 วันทำการ ส่งตรงถึงบ้านด้วยบรรจุภัณฑ์ และวิธีการขนส่งที่เหมาะสมในการช่วยรักษาประสิทธิภาพของยาและเวชภัณฑ์ อีกทั้งผู้ใช้บริการยังสามารถตรวจสอบสถานะการจัดส่งได้แบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกันนี้ยังมีเครือข่ายกว่า 50,000 จุด ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และบุรุษไปรษณีย์กว่า 25,000 คน ที่มีความ ชำชาญทุกเส้นทาง ขณะที่ค่าบริการจัดส่งก็ช่วยประหยัดได้เยอะมาก เพราะเริ่มต้นที่ราคาเพียง 120 บาทต่อครั้งเท่านั้น

ทั้งนี้ ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ระบุว่า ความร่วมมือกับคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ในครั้งนี้ เป็นการต่อยอดความเชี่ยวชาญของไปรษณีย์ไทยในด้านการขนส่งด้วยแนวคิด “Parcel Defined Logistics” ที่ออกแบบระบบขนส่งให้เหมาะสมกับสิ่งของทุกประเภท รวมทั้งการขนส่งยาและเวชภัณฑ์ที่ไปรษณีย์ไทยได้เริ่มให้บริการตั้งแต่ปี 2555 เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ป่วย และโรงพยาบาล

โดยปัจจุบันมีโรงพยาบาลที่ใช้บริการส่งยาและเวชภัณฑ์ผ่านไปรษณีย์ไทยกว่า 400 แห่งทั่วประเทศ อาทิ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลกรุงเทพ โรงพยาบาลวชิรพยาบาล โดยมีการขนส่งไปแล้วกว่า 2.32 ล้านชิ้น ซึ่งเป็นสิ่งยืนยันถึงมาตรฐานของไปรษณีย์ไทยได้เป็นอย่างดี

วางรากฐาน Pet Health Infrastructure

รองรับการเติบโตของตลาดสัตว์เลี้ยง

ปัจจุบัน เทรนด์คนรักสัตว์เลี้ยงมาแรงสุด ๆ ในประเทศไทย ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทำให้หลายคนหันมาเลี้ยงสัตว์คู่ใจเป็นเหมือน “สมาชิกคนสำคัญในครอบครัว” ส่งผลให้ตลาดสัตว์เลี้ยงบ้านเรามีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องและน่าจับตามองเป็นอย่างมาก

จากการให้ข้อมูลโดย ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ระบุว่า ปี 2567 ตลาดสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะในกลุ่มบริการรักษาสัตว์มีมูลค่าตลาดสูงถึง 6.64 แสนล้านบาท สำหรับปี 2568 นี้คาดการณ์ว่าจำนวนสัตว์เลี้ยงของไทยมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมาราว 6% โดยคิดเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีเจ้าของประมาณ 5.38 ล้านตัว ซึ่งสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ สุนัข และแมว

ท่ามกลางการเติบโตของตลาดสัตว์เลี้ยง การให้บริการดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงยุคใหม่จึงต้องออกแบบให้ครบวงจรตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ทั้งการเข้ารับคำปรึกษาผ่านระบบ Televet การวางแผนการรักษา ติดตามอาการ การสื่อสารกับสัตวแพทย์ ไปจนถึงระบบการส่งยาถึงบ้านที่ปลอดภัยและมีมาตรฐาน ซึ่งโครงการ ‘พี่ไปรฯ ส่งยา สัตวแพทย์ จุฬาฯ ส่งรัก’ ถือเป็นหนึ่งฟันเฟืองสำคัญที่เข้ามาเติมเต็มระบบนี้ให้สมบูรณ์

ยิ่งกว่านั้น ในมุมมองของ อาจารย์ น.สพ.ชัยยศ ธารรัตนะ ผู้ช่วยคณบดี และผู้อำนวยการโรงพยาบาลสัตว์ กรุงเทพฯมีความเชื่อมั่นว่า แคมเปญนี้กำลังนำไปสู่โครงสร้างพื้นฐานของ Pet Health Infrastructure ที่เชื่อมต่อบริการสุขภาพสัตว์เลี้ยงทุกขั้นตอนเข้าด้วยกันแบบไร้รอยต่อ และถือเป็นทิศทางใหม่ของการดูแลสัตว์เลี้ยงในประเทศไทย ตอบโจทย์กลุ่มคนรักสัตว์ในยุคดิจิทัลที่ครอบคลุมทั้งกลุ่มครอบครัวเมือง พื้นที่ห่างไกล ที่ต้องการบริการสุขภาพที่เชื่อถือได้แต่ไม่จำเป็นต้องพาสัตว์เลี้ยงเดินทางไปยังโรงพยาบาลสัตว์ อีกทั้งยังช่วยเปลี่ยนไลฟ์สไตล์คนไทยต่อการดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงที่สามารถดำเนินการได้ทุกที่อีกด้วย

‘พี่ไปรฯ ส่งยา สัตวแพทย์ จุฬาฯ ส่งรัก’ จึงเป็นอีกหนึ่งแคมเปญดี ๆ ที่เปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับสังคมไทยซึ่งให้ความสำคัญกับการดูแลสัตว์เลี้ยงมากยิ่งขึ้นทุกวัน และบริการภายใต้แคมเปญนี้ก็ช่วยยกระดับการดูแลคุณภาพชีวิตทั้งสัตว์เลี้ยงแสนรักและเจ้าของ เพราะเมื่อสัตว์เลี้ยงสบายกาย เจ้าของสัตว์เลี้ยงก็สบายใจ

น้องแมวน้องหมาไม่สบายคราใด นึกถึง “พี่ไปรฯ ช่วยส่งยา สัตว์แพทย์ จุฬาฯ ส่งรัก” พร้อมบริการถึงประตูบ้านด้วยความห่วงใย

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Manager Online

“บิ๊กเล็ก” แจง เขมรเริ่มหันมาพูดคุย ไม่ได้เอ่ยชื่อ “เตีย เสฮา”

38 นาทีที่แล้ว

กกล.บูรพา รวบ 6 แรงงานเขมรลอบใช้ช่องทางธรรมชาติอรัญประเทศหวังกลับบ้านเกิด

50 นาทีที่แล้ว

“รวมมิตรมังกร” นิทรรศการศิลปะปลุกความคึกคักเมืองราชบุรี

57 นาทีที่แล้ว

ฟอสซิลไดโนเสาร์ยังคงอยู่ให้เห็นได้อย่างไร? แม้เหล่ากิ้งก่ายักษ์จะสูญพันธุ์ไปแล้วเมื่อหลายล้านปีก่อน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความยานยนต์อื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม

รู้จักเจ้าของทรงผมสุดเบียว Shotaro Odate คีย์แมนปั้นรถไร้คนขับจาก Honda

Manager Online

ส่องราคาโน้ตบุ๊กงานคอมมาร์ต 3-6 ก.ค. 68 ที่ไบเทค

Manager Online

เปิดตัว “LINE GIFT” สร้างเทรนด์ให้ของขวัญผ่านแชท

Manager Online
ดูเพิ่ม
Loading...