โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

“หมอตุลย์” บุกตร.ค้านเลื่อนตำแหน่ง 2 แพทย์ตำรวจ ปมช่วย”ทักษิณ” ชั้น 14

INN News

อัพเดต 7 กรกฎาคม 2568 เวลา 21.50 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • INN News

"หมอตุลย์" ยื่นหนังสือ ผบ.ตร. ค้านเลื่อนตำแหน่ง 2 นายแพทย์ตำรวจ ปมชี้มีมติแพทยสภาผิดจริยธรรม-ถูก ป.ป.ช. สอบปม"ทักษิณ"ชั้น 14

วันที่ 7 ก.ค.68 เวลา 13.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะอดีตแกนนำกลุ่มเสื้อหลากสี ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ขอคัดค้านการเลื่อนตำแหน่ง พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ให้ดำรงตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.นพ.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. เนื่องจากทั้งสองนายอยู่ระหว่างถูกสอบสวนในคดีสำคัญและมีมติชัดเจนจากแพทยสภาว่ากระทำผิดจริยธรรมทางการแพทย์

นพ.ตุลย์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากกรณีการส่งตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องขังในคดีอาญา มารับการรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2566 ถึง 18 กุมภาพันธ์ 2567 โดยไม่มีการส่งตัวกลับเรือนจำตามคำพิพากษาของศาลฎีกา สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างกว้างขวาง ขณะนั้น พล.ต.ท.โสภณรัชต์ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ใหญ่ และ พล.ต.ท.นพ.ทวีศิลป์ เป็นผู้บริหารโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการตัดสินใจเรื่องดังกล่าว

ต่อมา เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2568 คณะกรรมการแพทยสภามีมติชัดเจนว่าทั้งสองนายแพทย์ตำรวจ กระทำผิดตามข้อ 16 ของข้อบังคับแพทยสภาว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2565 กรณีให้ข้อมูลและเอกสารทางการแพทย์เกี่ยวกับอาการของนายทักษิณ ไม่ตรงกับความเป็นจริง โดยมีคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแพทย์ของ พล.ต.ท.โสภณรัชต์ เป็นเวลา 3 เดือน และของ พล.ต.ท.นพ.ทวีศิลป์ เป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งคำสั่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2568 เป็นต้นไป

ขณะเดียวกัน ยังมีผู้ร้องเรียนทั้งสองนายไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ในข้อหากระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่บุคคลอื่น และอยู่ระหว่างการสอบสวน

นพ.ตุลย์ ระบุว่า การปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจทั้งสองนาย เป็นผลให้นายทักษิณไม่ต้องรับโทษในเรือนจำตามคำพิพากษา และได้รับการรักษาในโรงพยาบาลตำรวจ โดยอ้างข้อมูลเท็จเกี่ยวกับอาการป่วย ซึ่งเข้าข่ายผิดวินัยร้ายแรง ตาม พ.ร.บ. ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 มาตรา 112 และหากมีการเลื่อนตำแหน่งในช่วงที่ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างร้ายแรง

การมายื่นหนังสือในวันนี้จึงเรียกร้องให้ ผบ.ตร. ดำเนินการ 3 ประการ คือ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว และหากพบมูลความผิด ให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงต่อไป, สั่งย้ายข้าราชการตำรวจทั้งสองนายออกจากตำแหน่งเดิม ไปอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลตำรวจโดยเด็ดขาด เพื่อเปิดโอกาสให้บุคลากรในโรงพยาบาลตำรวจที่มีข้อมูลสามารถให้ข้อมูลกับ ป.ป.ช. และศาลได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องเกรงกลัว และให้ข้าราชการตำรวจทั้งสองนายทำรายงานชี้แจงกรณีการถูกสอบสวนโดยแพทยสภา และ ป.ป.ช. รวมถึงกรณีการเป็นพยานในศาลฎีกา เพื่อส่งประกอบการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายประจำปีของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ

นพ.ตุลย์ ยังกล่าวด้วยว่า การแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ควรเป็นไปอย่างโปร่งใสและยึดหลักคุณธรรม ไม่ควรปล่อยให้เกิดข้อครหา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจในขณะนี้คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งศาลมีคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ และถือเป็นบุตรสาวของนายทักษิณ ชินวัตร ผู้เกี่ยวข้องโดยตรงกับกรณีนี้ ยิ่งทำให้ประชาชนจับตามองการแต่งตั้งโยกย้ายของตำรวจครั้งนี้อย่างใกล้ชิด

นพ.ตุลย์ กล่าวด้วยว่า ในความเป็นจริงโรงพยาบาลตำรวจยังมีข้อมูลสำคัญที่ถูกปิดบังอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อกระบวนการสืบสวนสอบสวนของศาลและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เช่น กรณีระบบกล้องวงจรปิดบริเวณชั้น 14 ของโรงพยาบาลที่ระบุว่ามีปัญหาเสียหายไม่สามารถใช้งานได้ ทั้งที่กล้องในจุดอื่นๆ ของโรงพยาบาลยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ นอกจากนี้ ยังมีบุคลากรของโรงพยาบาลตำรวจหลายรายที่มีข้อมูลสำคัญและต้องการให้การกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากเกรงกลัวอิทธิพลและอำนาจของ พล.ต.ท.โสภณรัชต์ และ พล.ต.ท.นพ.ทวีศิลป์ ซึ่งยังคงดำรงตำแหน่งบริหารระดับสูง

ทั้งนี้ นพ.ตุลย์ เปิดเผยว่าหลังจากยื่นหนังสือที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว จะเดินทางไปยังศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีในเรื่องนี้อีกครั้ง เพื่อให้ตรวจสอบและป้องกันไม่ให้มีการเลื่อนตำแหน่งบุคคลที่อยู่ระหว่างการสอบสวน และถูกชี้มูลว่ากขระทำผิดจริยธรรม ทั้งจากแพทยสภาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก INN News

“ปัฐษพงษ์” กวาด 3 เหรียญเงิน รุ่นเยาวชนชาย 65 กิโลกรัม

16 นาทีที่แล้ว

“โค้ชแอม-โค้ชเบน-โค้ชธามไท” ปิดดีล!! รอบ Blind Audition

19 นาทีที่แล้ว

7 ชาติร่วมดวลศึกฟุตซอล ไทยลับคมก่อนบู๊งานใหญ่

20 นาทีที่แล้ว

ANT DPU เปิดโลกอนาคตผ่านเทคโนโลยี AI และ XR

22 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

"สมชัย" วิเคราะห์ข้อเสนอ 7 ประการจากพรรคประชาชน ฝันหรือจริง?

สยามรัฐ

OlaOlu Slawn ศิลปินคนแรกที่ได้สร้างผลงานบนรถแข่ง F1

THE STANDARD

อัปเดตเส้นทาง "พายุดานัส" คาดขึ้นฝั่งประเทศจีน 8-9 กรกฎาคมนี้

TNN ช่อง16

สสจ.บึงกาฬ สำรวจรพ.บุ่งคล้า ฝ้าถล่ม ชี้เสียหายไม่ถึงหมื่น สั่งซ่อมด่วน

ข่าวช่องวัน 31

“จตุพร” แบ่งงาน รมช.ดูแลคนละ 4 หน่วย เร่งขับเคลื่อนนโยบาย ก.พาณิชย์

สำนักข่าวไทย Online

แม่ค้าเฉียดตาย เล่านาทีเก๋งเสียหลัก พุ่งชนร้านพังเละ

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

ถอดรหัสโอกาสไร้พรมแดนกับ SCB Julius Baer ต่อยอดความมั่งคั่งครั้งประวัติศาสตร์ในมือ Gen Y [ADVERTORIAL]

THE STANDARD
วิดีโอ

ชื่นชมเด็กชายเก็บพลาสติกกลางถนน หวั่นรถสัญจรไปมาเกิดอันตราย

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...