Worldpay บุกไทย! ยกระดับระบบรับชำระเงินออนไลน์ หนุนผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดโลก
นายฟิล พอมฟอร์ด (Phil Pomford) ผู้จัดการทั่วไป ฝ่าย Global Enterprise ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ของ Worldpay ผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีและโซลูชันการชำระเงิน เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า มองภาพรวมของการชำระเงินทั่วโลกในอีก 3-5 ปีข้างหน้า (69-73) คาดว่าจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในมูลค่าการชำระเงินทั่วโลก โดยเฉพาะการโอนเงินระหว่างบัญชี
โดยการเติบโตของกระเป๋าเงินดิจิทัล ซึ่งครองตลาดในเอเชียและกำลังขยายตัวไปทั่วโลก Worldpay สังเกตว่าร้านค้าที่เคยพึ่งพาการชำระเงินผ่านบัตรกำลังมองหาวิธีการชำระเงินที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งสองประเด็นสำคัญคือ stablecoin และวิวัฒนาการของการชำระเงินที่ไม่ใช่แค่การโอนเงิน แต่รวมถึงการส่งเงินข้ามพรมแดนอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า
ที่มักเชื่อมโยงกับ crypto โลกกำลังก้าวข้ามพรมแดนมากขึ้น และทั้งร้านค้าและผู้บริโภคต้องการวิธีการชำระเงินที่รวดเร็วและมีต้นทุนต่ำ โดยการเติบโตของ “agentic commerce” หรือการซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านตัวแทนอัตโนมัติที่ใช้ AI ครอบคลุมตั้งแต่การชำระค่าสาธารณูปโภคไปจนถึงการชอปปิง คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
“พฤติกรรมการชำระเงินของผู้บริโภคในประเทศไทยกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากเดิมที่นิยมใช้เงินสด มาสู่การใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลและการโอนเงินระหว่างบัญชี (Account-to-Account หรือ A2A) มากขึ้น ดังนั้น ผู้ประกอบการในตลาดไทยจึงต้องปรับตัวเพื่อมอบประสบการณ์การชำระเงินที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยให้กับลูกค้า ทีมผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมให้คำปรึกษาและช่วยผู้ประกอบการเลือกวิธีการชำระเงินที่เหมาะสม เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจและการเติบโตอย่างยั่งยืน”
ทั้งนี้ ในแง่ของผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยนั้น ประเมินว่าไทยจะได้รับผลกระทบจากแนวโน้มระดับโลกเหล่านี้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงมองว่าทั้งผู้ใช้งานรวมไปถึงผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ เองก็ต้องเริ่มปรับตัวให้ทันต่อกระแสและพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปนี้ด้วย โดยจะเห็นได้ว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลที่เริ่มต้นจากจีนกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วไปทั่วโลก และไทยก็เป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มนี้
ขณะที่ "ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง" หรือ "Buy Now, Pay Later (BNPL)" ก็เป็นกระแสที่นำโดยออสเตรเลีย คาดว่าจะได้รับความนิยมมากขึ้นในไทย โดยการชำระเงินระหว่างบัญชีได้รับความนิยมอย่างมากในไทยอยู่แล้ว และคาดว่าจะขยายตัวต่อไปทั่วโลก จากรายงาน Global Payment Report ระบุว่า ไทยเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้สำหรับการชำระเงินระหว่างบัญชี
จากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นเป็นผลให้ทาง Worldpay จึงได้ประกาศการเปิดให้บริการรับชำระเงินในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อขยายการให้บริการในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก การขยายบริการครั้งนี้เป็นส่วนสำคัญในแผนธุรกิจของ Worldpay
เพื่อช่วยให้ร้านค้าทั่วโลกสามารถรับชำระเงินด้วยวิธีที่ลูกค้าในแต่ละประเทศนิยมใช้ พร้อมระบบที่ช่วยให้อนุมัติการชำระเงินได้รวดเร็วขึ้น มีระบบป้องกันการฉ้อโกงที่ปลอดภัย จัดการเงินเข้าบัญชีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบัน Worldpay ให้บริการรับชำระเงินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกรวม 9 ตลาด ได้แก่ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ ฮ่องกง ญี่ปุ่น มาเลเซีย อินเดีย เกาหลีใต้ และล่าสุด คือ "ประเทศไทย" โดยการขยายบริการครั้งนี้ Worldpay นำเสนอบริการรับชำระเงินผ่านบัตรชั้นนำระดับโลกในประเทศไทย
ที่พร้อมรองรับการชำระเงินในสกุลเงินบาทสำหรับผู้ประกอบการไทย นอกจากนี้ ยังเปิดให้บริการวิธีการชำระเงินทางเลือกชั้นนำ 4 รูปแบบ ผ่านพันธมิตรทางธุรกิจในตลาด ได้แก่ LINE Pay, TrueMoney, PromptPay และการชำระเงินผ่านธนาคารออนไลน์
ผู้ประกอบการไทยจะได้รับบริการเสริมที่ครบวงจรจาก Worldpay ไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกันการฉ้อโกงแบบหลายชั้น บริการจัดการข้อพิพาท รวมถึงคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญที่มีข้อมูลเชิงลึกระดับโลก สำหรับธุรกิจระดับโลกที่ต้องการขยายไปยังหลายประเทศ Worldpay มีจุดเชื่อมต่อเดียวที่ครอบคลุมการทำธุรกิจในกว่า 170 ประเทศ
"ธุรกิจทั้งในและต่างประเทศที่ดำเนินงานในประเทศไทยกำลังมองหาโอกาสในการเข้าถึงส่วนแบ่งตลาดอีคอมเมิร์ซที่เติบโตอย่างรวดเร็วของประเทศ ซึ่งคาดว่าจะเติบโต 9% ต่อปีจนถึงปี 73 ตามรายงาน Worldpay Global Payments Report ฉบับล่าสุด โดย Worldpay ได้ประกาศการขยายบริการในโคลอมเบีย เม็กซิโก และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ในการขยายความสามารถการรับชำระเงินภายในประเทศทั่วโลก"
ไทยคือตลาดสำคัญ
ส่วนเหตุผลทำไม Worldpay ถึงเลือกทำตลาดในประเทศไทยนั้น เนื่องจากไทยถือเป็นตลาดสำคัญของ Worldpay โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Worldpay ต้องการช่วยให้ร้านค้าของพวกเขาเติบโตในภูมิภาคนี้ อีกทั้งร้านค้าหรือผู้ประกอบการที่ใช้บริการของ Worldpay ต้องการความสามารถในการรับชำระเงินทั้งในประเทศและทั่วโลก
แม้ว่า QR code จะถูกใช้อย่างแพร่หลายในไทยและประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ระบบการชำระเงินผ่าน QR เหล่านี้ไม่สามารถใช้งานข้ามประเทศได้เสมอไป Worldpay จึงมุ่งเน้นที่จะเชื่อมช่องว่างนี้ เพื่อให้สามารถชำระเงินข้ามประเทศผ่าน QR ได้
เป้าหมาย คือ การช่วยร้านค้า ทั้งร้านค้าไทยที่ต้องการเติบโตในระดับสากล และร้านค้าทั่วโลกที่ต้องการเข้าสู่ตลาดไทย ให้เข้าถึงผู้บริโภคด้วยตัวเลือกการชำระเงินที่หลากหลาย Worldpay พร้อมสนับสนุนการเติบโตในทั้งสองด้าน
"แม้ว่าตลาด QR code จะใหญ่และเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสำหรับอีคอมเมิร์ซ แต่ช่องทางอื่นๆ อาจยังต้องการการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต ดังนั้น Worldpay จึงมุ่งเน้นให้ครอบคลุมวิธีการชำระเงินทุกรูปแบบ"
สำหรับประเด็นว่าด้วยสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันของไทยนั้น Worldpay ยังคงมั่นใจในการลงทุนในประเทศไทยหรือไม่ ตอบได้อย่างมั่นใจว่า Worldpay มุ่งเน้นที่ร้านค้าและการเติบโตของผู้ประกอบการ มากกว่าสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศใดประเทศหนึ่ง
มองว่าโอกาสทางธุรกิจระดับโลกกำลังก้าวข้ามพรมแดนมากขึ้นเรื่อยๆ และบทบาทของ Worldpay คือ การช่วยให้ร้านค้าและผู้ประกอบการสามารถเติบโตและขายสินค้าและบริการได้ทั่วโลก โดยไม่ขึ้นกับสถานการณ์ภายในประเทศ
ความปลอดภัยในการชำระเงินออนไลน์
ในส่วน Worldpay จะยังมีนวัตกรรมหรือฟีเจอร์พิเศษใดที่จะเปิดตัวเฉพาะสำหรับตลาดไทยหรือไม่นั้น ก็ต้องบอกว่าบริการหลักของ Worldpay สำหรับตลาดไทย คือ ขนาดและความครอบคลุมในระดับโลก ซึ่งช่วยให้ร้านค้าไทยสามารถขยายธุรกิจไปต่างประเทศได้ โดยทำหน้าที่เป็น “เฟือง” (gear) ที่ช่วยผู้ประกอบการไทยเติบโตในระดับสากล
Worldpay ให้บริการที่ครอบคลุมเช่น
- บริการตรวจจับการฉ้อโกงและการยืนยันตัวตน
- โซลูชันการชำระเงินที่ปลอดภัย
- การปรับปรุงประสิทธิภาพการชำระเงินโดยใช้ AI และ Machine Learning เพื่อเพิ่มอัตราความสำเร็จของธุรกรรม
ซึ่งบริการเหล่านี้เป็นประโยชน์ทั้งต่อผู้ประกอบการและผู้บริโภค
ขณะที่โซลูชันในการรักษาความปลอดภัยและป้องกันความเสี่ยงในการชำระเงินออนไลน์นั้น Worldpay ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยหลายรูปแบบ ทั้งที่เป็นมาตรฐานในอุตสาหกรรมและที่กำลังพัฒนา ดังต่อไปนี้
- 3D Secure Authentication : ระบบนี้ช่วยยืนยันตัวตนผู้บริโภคระหว่างการซื้อสินค้าออนไลน์
- การตรวจจับการฉ้อโกงแบบหลายชั้น : Worldpay ใช้วิธีการแบบครอบคลุมในการตรวจจับการฉ้อโกง
- การซื้อกิจการ Ravelin : Worldpay เพิ่งซื้อกิจการ Ravelin ซึ่งเป็นบริษัทด้านข้อมูลและ AI ที่เชี่ยวชาญด้านการตรวจจับการฉ้อโกง เทคโนโลยีนี้ช่วยระบุ อาทิ ความน่าเชื่อถือของธุรกรรม, การถูกยึดบัญชี (การใช้บัญชีโดยไม่ได้รับอนุญาต) และการใช้โปรโมชันในทางที่ผิด (การใช้รหัสส่วนลดในทางที่ผิด)
- ใช้อัลกอริทึมและวิเคราะห์ข้อมูลธุรกรรมเพื่อให้แน่ใจว่าการชำระเงินถูกต้องและเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้บริโภค
- ใช้ Machine Learning และ AI ในเครื่องมือตรวจจับการฉ้อโกง และมุ่งเน้นการปรับปรุงประสิทธิภาพการชำระเงินโดยใช้เครื่องมือเช่น Stream Network Token เพื่อเพิ่มอัตราการยอมรับสำหรับร้านค้า
อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าการเข้ามาของ Worldpay ในประเทศไทยไม่เพียงแต่จะช่วยยกระดับโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินของประเทศให้ทันสมัยขึ้นเท่านั้น แต่ยังเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ สำหรับผู้ประกอบการไทยในการเข้าถึงตลาดโลกได้อย่างไร้รอยต่ออีกด้วย