หมอหัวใจ เปิดสาเหตุเกิดหลอดเลือดตีบตัน โรคฮิตคร่าชีวิตรายชั่วโมง

หมอหัวใจ เปิดสาเหตุเกิดหลอดเลือดตีบตัน โรคฮิตคร่าชีวิตคนไทยรายชั่วโมง เผย ความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดหัวใจตีบตันอันดับต้น ๆ ของไทย

วันที่ 29 มิ.ย.2568 ที่ชั้น 5 สามย่านมิตรทาวน์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ‘เครือมติชน’ พร้อมด้วยพันธมิตรด้านสุขภาพ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เดินหน้าเปิดงานแฟร์สุขภาพอันดับ 1 ของประเทศ Thailand Healthcare 2025 ภายใต้ธีม ‘A Better Life : สร้างสุขทุกช่วงวัย’ ระหว่างวันที่ 26-29 มิ.ย. ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.

เวลา 13.00-13.45 น. Highlight Talk : ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน (Coronary Heart) โดย นพ.คมปิยะ กนกพัชรกุล อายุรแพทย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) กล่าวว่า ประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจว่าเป็นโรคหัวใจแล้วจะเสียชีวิต แต่จริง ๆ โรคหัวใจมีหลาย 10 โรค

หมอหัวใจ เปิดสาเหตุเกิดหลอดเลือดตีบตัน โรคฮิตคร่าชีวิตคนไทยรายชั่วโมง เผย ความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดหัวใจตีบตันอันดับต้น ๆ ของไทย

แต่โรคสำคัญที่เรามักจะพูดกันคือ โรคเส้นเลือดหัวใจตีบตัน คือการที่หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจตีบตันเนื่องจากสาเหตุต่าง ๆ ซึ่งพอเส้นเลือดตีบ เลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่ได้ กล้ามเนื้อหัวใจส่วนนั้นก็ตาย บีบรัดเลือดไม่ได้ ร่างกายก็ช็อก แล้วก็เสียชีวิตจึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนเสียชีวิตได้

ซึ่งจริง ๆ เรียกว่าเป็นภัยเงียบก็ได้ เพราะก่อนที่จะมีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ถ้าโชคดีจะมีสัญญาณเตือน แต่ส่วนหนึ่งโชคไม่ดี อยู่ดี ๆ เกิดหัวใจวายเฉียบพลันได้ บางรายอาจจะมาหาแพทย์ด้วยอาการอย่างหนึ่งนำก่อน ถ้าไม่ได้รับการรักษาก็จะเสียชีวิต เช่น ไปออกแรงเยอะ หรือตกใจมาก ๆ หรือบางรายก็เกิดอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออกก็เสียชีวิตทันทีก็มี

นพ.คมปิยะ กล่าวว่า ข้อมูลในปี 2567 พบว่า สาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของโลก คือ โรคหัวใจและหลอดเลือด และภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ซึ่งพบผู้เสียชีวิตปีละกว่า 20.5 ล้านราย ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่เยอะมาก

ส่วนอุบัติการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุข ได้เก็บข้อมูลเมื่อปี 2566 พบว่ามีผู้ป่วยสะสมด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดมากกว่า 2.5 แสนราย และเสียชีวิต 40,000 ราย หรือเฉลี่ยทุก ๆ ชั่วโมงมีคนเสียชีวิต 5 ราย ซึ่งเราไม่รู้หรอกว่าจะเป็นคนในครอบครัวเราหรือไม่ และแนวโน้มของโรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากสังคมผู้สูงอายุ ที่หลอดเลือดเสื่อมมาก

นอกจากนั้น ยังพบว่าสาเหตุที่หลอดเลือดหัวใจตีบตัน เกิดจากไขมันที่ไปเกาะในชั้นกล้ามเนื้อหัวใจ เกิดเป็นหินปูนในเส้นเลือด เมื่อหินปูนแตกก็จะไปอุดตันในเส้นเลือด ทำให้เกิดภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบ แต่ก็มีบางคนที่เจอตอนอายุน้อย มาจากหลอดเลือดหดเกร็งเฉียบพลัน ซึ่งอาจจะเกิดจากการใช้สารเสพติด หรืออาจเกิดตั้งแต่เกิดความผิดปกติของร่างกายตั้งแต่เกิด

นพ.คมปิยะ กล่าวต่อว่า ความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดหัวใจตีบตันอันดับต้น ๆ ของไทย คือ โรคเบาหวาน เป็นปัจจัยอันดับต้น ๆ ที่ทำให้หลอดเลือดเสื่อมและมีโอกาสตีบสูงมาก, การสูบบุหรี่ ที่ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด มีความเสี่ยงที่จะเกิดอัมพาตมากและรวดขึ้น, ความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นภัยเงียบ หากค่าความดันไม่สูงมาก ก็จะไม่มีอาการอะไร แต่เป็นสาเหตุที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้,

ความเครียด คนไทยเริ่มเครียดเยอะขึ้น ก็เสี่ยงเป็นโรคหัวใจมากขึ้น และ ภาวะหยุดหายใจระหว่างนอน รวมถึงภาวะโรคนอนกรน เนื่องจากกล้ามเนื้อคอหย่อน แล้วอุดทางเดินหายใจเราก็จะหยุดหายใจ หรือกรน แต่ร่างกายจะกระตุ้นให้เราตื่นมาหายใจ ทำให้ตื่นกลางดึก

ซึ่งเมื่อเราหยุดหายใจบ่อย ๆ ร่างกายจะตื่นมาทำงานตลอด หัวใจก็จะทำงานทั้งที่ควรจะหยุดพัก ถ้าเป็นหลายครั้งในคืนเดียว และเป็นทุกวัน หลอดเลือดหัวใจทำงานหนัก ก็ทำให้เสื่อมไวขึ้นด้วย

ค่ารักษาโรคหัวใจ ซึ่งเป็นโรคฮิตที่มีค่าใช้จ่ายสูง โดยข้อมูลค่ารักษาโรคหัวใจของประเทศไทย เกือบ 7 พันล้านบาทต่อปี เป็นตัวเลขที่ไม่ใช่น้อย ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องทำความเข้าใจและเน้นการป้องกัน เพื่อช่วยประเทศชาติด้วย

นอกจากนั้น ยังมีผลกระทบต่อบุคคล อันดับแรกคือ ผู้ป่วยจะเจ็บ ทุกข์ทรมาน เกิดภาวะซึมเศร้า เพราะทันทีที่หมอบอกว่าเป็นโรคหัวใจ หรือกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เขาจะไม่สามารถกลับทำงานแบบเดิมได้แล้ว คุณจะต้องลดการทำงานลง เพราะมีโอกาสหัวใจวายสูง ก็จะเกิดปัญหากับบุคคล เนื่องจากรายได้หายไป เพราะต้องไปหาหมอบ่อย ๆ

แล้วผลกระทบต่อไปก็ถึงครอบครัวที่จะต้องดูแล ต้องพามาไปหมอ บางคนต้องหาเงินเลี้ยงครอบครัวแทนผู้ป่วย ดังนั้น ผู้ป่วยเพียงคนเดียวไม่ได้เกิดกระทบเพียงแค่บุคคลแต่ยังมีผลกระทบต่อหลายคน

นพ.คมปิยะ กล่าวว่า สัญญาณเตือนของโรคหัวใจ ถ้าโชคดีก็จะมีสัญญาณเตือน แต่บางคนก็ไม่โชคดี อาการเตือนเริ่มต้นจะรู้สึกเหนื่อยมาก แต่อาการเหนื่อยมีหลายปัจจัยที่เราต้องสังเกต เริ่มทำงานได้น้อยลง เพราะออกแรงแล้วจะเหนื่อย แน่นหรือเจ็บหน้าอก ออกแรงแล้วหน้ามืด จะเป็นลม มีตัวเย็น หายใจไม่อิ่ม ใจสั่น

ซึ่งจริง ๆ การตรวจวินิจฉัยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เส้นเลือดหัวใจตีบ จำเป็นต้องซักประวัติ หาอาการเฉพาะจงเจาะ เป็นสิ่งที่หมอต้องคิดให้เยอะ เพราะเป็นเรื่องใหญ่ ต้องตรวจต่อเนื่อง จากนั้นก็ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจเครื่อฝ EKG หรือ ECG

ควบคู่กับการเอกซเรย์ การการทำเอคโค่หัวใจ (Echo) หรืออัลตราซาวด์หัวใจ (Echocardiogram) การทำ CT-Coronary การทำ Cardiac MRI ซึ่งวิธีที่กล่าวมาจะเป็นการวินิจฉัยโรค แต่การจะวินิจฉัยพร้อมการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบคือ การฉีดสีเพื่อสวนหัวใจและทำบอลลูนเพื่อรักษา

"ปัจจุบันการสวนหัวใจทำบอลลูน มี รพ. ที่ทำได้หลายแห่ง ดังนั้นเรื่องการรักษาสำหรับคนไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ค่อยข้างเพียงพอ เยอะอยู่ แต่ต้องยอมรับว่าในต่างจังหวัด ในที่ทุรกันดารยังยากอยู่ เพราะรักษาคนหนึ่ง แม้จะมีห้องสวนหัวใจ ที่ใช้เงินมากกว่า 20-30 ล้านบาท แต่ต้องมีเจ้าหน้าที่อย่างน้อย 7-8 คน ต้องมีทีมที่พร้อม ซึ่งจะสามารถช่วยคนไข้สวนหัวใจได้" นพ.คมปิยะ กล่าว

นพ.คมปิยะ กล่าวว่า อีกหนึ่งวิธีในการรักษาคือ การผ่าตัดบายพาสเส้นเลือด (CABG) เป็นการต่อเส้นเลือดจากจุดที่ดีจุดหนึ่ง ไปยังจุดที่ดีอีกจุด เพื่อให้เลือดไหลเวียนได้ ซึ่งการทำบายพาสจะทำในผู้ป่วยที่ไม่สามารถทำบอลลูนได้ เช่น มีการตีบตันเลยอะ เป็นหลายเส้น หรือมีภาวะหลอดเลือดหัวใจแตก

อย่างไรก็ตาม การรักษาหลอดเลือดหัวใจ เวลาเป็นเรื่องสำคัญ เรารู้เสมอว่าโรคหัวใจที่รอไม่ได้ ต้องทำให้เร็วที่สุดเท่าที่ศักยภาพจะทำได้ ทุกอย่างแข่งกับเวลา เพราะเมื่อมีผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจยังไม่ตาย ยังแค่สลบ เรามีเวลาไม่นานที่จะทำให้เขาฟื้นกลับมา ถ้าเราทำชเรา โอกาสที่เขาจะฟื้นกลับมาก็จะน้อย จึงมีมาตรฐานสากลที่ รพ. ต้องรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจให้ไวที่สุด

นพ.คมปิยะ กล่าวว่า การป้องกันและส่งเสริมสุขภาพ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ อันดับแรกคือ ให้ความรู้ประชาชน เริ่มตั้งแต่อายุน้อย ตั้งแต่อยู่ในโรงเรียน กระทรวงศึกษาธิการ ควรจะเอาเรื่องนี้ไปใส่ในการเรียน

เมื่อเขาโตมาก็จะสามารถดูแลครอบครัวได้ ต่อมาคือ การควบคุมความเสี่ยง เช่น ออกกำลังกาย หลีกเลี่ยงอาหารหวาน มัน เค็ม ควบคุมน้ำหนัก หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ลดความเครียด และตรวจสุขภาพประจำปี

‘Thailand Healthcare 2025’ ภายใต้ธีม ‘A Better Life : สร้างสุขทุกช่วงวัย’ จัดใหญ่จัดเต็ม 4 วัน ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน ถึง วันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน 2568 ที่ชั้น 5 สามย่านมิตรทาวน์ เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า MRT สถานีสามย่าน ทางออกที่ 2

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : หมอหัวใจ เปิดสาเหตุเกิดหลอดเลือดตีบตัน โรคฮิตคร่าชีวิตรายชั่วโมง

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th