โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

Silicon Gold: อำนาจใหม่ในสงครามเศรษฐกิจโลก ตอนที่ 3 บทสรุปของการลงทุนในศตวรรษที่ 21

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 10 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

หลังจากที่เราได้เห็นชัดเจนในสองตอนแรกว่า โลกกำลังเข้าสู่ยุคของภูมิรัฐศาสตร์ การแข่งขันทางเศรษฐกิจไม่ได้เกิดจากเพียงตัวเลขในงบการเงินอีกต่อไป แต่เกิดจากการช่วงชิงทรัพยากรและอำนาจในเวทีโลก เมื่อเส้นแบ่งระหว่างประเทศเริ่มชัดขึ้น โลกไม่ได้เป็นหนึ่งเดียวอีกต่อไป หากแต่แตกออกเป็นขั้วที่ขับเคลื่อนด้วยพันธมิตรและเทคโนโลยี

ในศตวรรษที่ 21 พลังงานยังคงสำคัญ แต่ไม่ใช่เชื้อเพลิงเพียงอย่างเดียวที่กำหนดเสถียรภาพของโลกอีกต่อไป ซิลิคอน หรือชิป เซมิคอนดักเตอร์ กำลังกลายเป็นเชื้อเพลิงแห่งเศรษฐกิจใหม่ ขับเคลื่อนทุกอุตสาหกรรม และกำหนดทิศทางการลงทุนในโลกที่กำลังแบ่งขั้วอย่างรวดเร็ว

ในโลกที่สงครามไม่ได้วัดกันด้วยกระสุนปืน แต่ตัดสินกันด้วยการควบคุมทรัพยากรเชิงยุทธศาสตร์ ซิลิคอนกำลังกลายเป็นอาวุธเศรษฐกิจที่ทรงอานุภาพที่สุด ชิปขนาดเล็กเหล่านี้ไม่เพียงขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล แต่ยังขับเคลื่อนเกมอำนาจระหว่างประเทศได้อย่างที่น้ำมันเคยทำในศตวรรษที่ผ่านมา

นักลงทุนที่มองเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้ก่อน ย่อมมีโอกาสวางกลยุทธ์เพื่ออยู่รอดและเติบโตในศตวรรษแห่งซิลิคอนได้ก่อนใคร

หลังจากที่เราได้เห็นในตอนที่แล้วว่า พลังงานและเทคโนโลยีได้กลายมาเป็นเสาหลักของการแข่งขันทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ โลกไม่ได้เดินหน้าด้วยทรัพยากรแบบเดิมอีกต่อไป แต่กำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่เศรษฐกิจขับเคลื่อนด้วยสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า - ซิลิคอน ชิปขนาดเล็กที่อยู่รอบตัวเรา แม้กระทั่งในสนามรบ

หากย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ ศตวรรษที่ 20 คือ ยุคน้ำมัน เมื่อใดก็ตามที่กลุ่มอาหรับและโอเปกใช้พลังของน้ำมันเป็นอาวุธทางการเมือง โลกต้องเผชิญกับความผันผวนทางเศรษฐกิจอย่างหนัก

เศรษฐกิจทั่วโลกตกอยู่ในความไม่มั่นคง เงินเฟ้อพุ่งสูง ตลาดหุ้นดิ่งลงเหว และสังคมโลกต้องปรับตัวรับมือกับราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นอย่างไร้ความแน่นอน วิกฤตน้ำมันปี 1973 คือเครื่องเตือนใจว่า "พลังงาน" คือแก่นของอำนาจเศรษฐกิจในยุคนั้น

แต่โลกที่ไม่เคยหยุดนิ่ง เมื่อเทคโนโลยีพัฒนา และเศรษฐกิจโลกขยายตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล ตำแหน่งของทรัพยากรยุทธศาสตร์ก็เปลี่ยนแปลงไป น้ำมันยังคงมีความสำคัญ แต่กำลังถูกแทนที่ด้วยสิ่งที่เล็กกว่า แต่ทรงพลังยิ่งกว่า - ชิปเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นองค์ประกอบหลักในการขับเคลื่อนทุกอุตสาหกรรม ตั้งแต่โทรศัพท์มือถือ รถยนต์ไฟฟ้า โครงข่ายการสื่อสารระดับโลก ไปจนถึงปัญญาประดิษฐ์ (AI)

การควบคุมเทคโนโลยีการผลิตชิปในวันนี้ จึงไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของการค้าเสรีอีกต่อไป แต่มันกลายเป็นเกมแห่งอำนาจที่มีเดิมพันสูงกว่าทองคำหรือค่าเงิน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวัน ได้รวมตัวกันสร้างแนวร่วมที่เรียกว่า "Chip 4 Alliance" เพื่อจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงของจีน ในขณะที่จีนเองก็เร่งทุ่มงบมหาศาลเพื่อสร้างอุตสาหกรรมชิปพื้นฐานให้พึ่งพาตนเองให้ได้โดยเร็วที่สุด

แนวโน้มอุตสาหกรรมชิปจึงกลายเป็นศูนย์กลางใหม่ของโลกการลงทุน ไม่ต่างอะไรกับยุคน้ำมันที่ใครควบคุมแหล่งพลังงานได้มากกว่าก็สามารถกำหนดอนาคตเศรษฐกิจได้ นักลงทุนที่ยังคิดว่าการเลือกหุ้นเทคโนโลยีเป็นเพียงการดูยอดขายหรืออัตรากำไร อาจกำลังก้าวเดินไปยังขอบหน้าผาโดยไม่รู้ตัว

เพราะในโลกปัจจุบัน การวิเคราะห์หุ้นเทคโนโลยีต้องมองลึกถึงระดับห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) โลจิสติกส์ทางภูมิรัฐศาสตร์ และการสนับสนุนเชิงนโยบายจากรัฐมหาอำนาจ

เมื่อซิลิคอนกลายเป็นพลังงานใหม่ การลงทุนในยุคภูมิรัฐศาสตร์จึงต้องพลิกวิธีคิดใหม่ นักลงทุนที่ต้องการอยู่รอดและเติบโตในศตวรรษที่ 21 จำเป็นต้องปรับพอร์ตให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้

การลงทุนในหุ้นกลุ่ม Semiconductor จึงไม่ใช่แค่การคาดหวังการเติบโตของยอดขายเท่านั้น แต่คือการเดิมพันใน "เส้นเลือดใหญ่" ของเศรษฐกิจโลกยุคใหม่ และของประเทศมหาอำนาจทั้งหลาย

บริษัทผู้ผลิตชิป เช่น TSMC, Samsung Electronics หรือผู้ผลิตเครื่องจักรขั้นสูงอย่าง ASML กำลังเป็นที่หมายตาของนักลงทุนทั่วโลก ไม่ใช่เพียงเพราะตัวเลขกำไรในงบการเงิน แต่เพราะบทบาทที่พวกเขามีต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจโลก

ขณะเดียวกัน กลุ่มเทคโนโลยีที่พึ่งพาชิปขั้นสูง เช่น AI, Cloud Computing, Cybersecurity ก็กลายเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะพวกเขาคือกลุ่มที่จะขับเคลื่อนการเติบโตใหม่ในโลกหลังการระบาดของโควิด-19 และในยุคที่ภูมิรัฐศาสตร์กำลังมีความตึงเครียดสูง

อย่างไรก็ตาม การกระจายความเสี่ยงยังคงเป็นหัวใจของการจัดพอร์ตในยุคความเสี่ยงสูง นักลงทุนไม่ควรเทหมดหน้าตักกับบริษัทใดบริษัทหนึ่ง แต่ต้องกระจายการลงทุนอย่างมียุทธศาสตร์ เพื่อเกาะเทรนด์เศรษฐกิจใหม่โดยไม่แบกรับความเสี่ยงเฉพาะตัวเกินไป

นอกจากนี้ ความเข้าใจเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ของห่วงโซ่อุปทานชิปยังสำคัญยิ่ง นักลงทุนต้องรู้ว่า บริษัทที่ตนถือครองมีโรงงานหรือฐานการผลิตตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อความขัดแย้งระหว่างประเทศหรือไม่ เพราะในยุคที่ช่องแคบไต้หวันกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์ และแหล่งของความตึงเครียด การถือหุ้นบริษัทที่พึ่งพาฐานการผลิตในพื้นที่เสี่ยง อาจหมายถึงการถือระเบิดเวลาทางการลงทุนไว้ในพอร์ต

การจัดพอร์ตในยุค Silicon Gold จึงต้องเปลี่ยนวิธีคิดแบบสิ้นเชิง จากเดิมที่นักลงทุนอาจเลือกหุ้นกลุ่มพลังงานหรือกลุ่มธนาคารเพื่อสร้างรายได้ปันผลสม่ำเสมอ วันนี้ การเลือกหุ้นในห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยีกลายเป็นเข็มทิศใหม่ของความมั่งคั่งระยะยาว

หุ้นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ Semiconductor เช่น TSMC, Nvidia, ASML หรือผู้ผลิตวัตถุดิบและเครื่องมือทางเทคโนโลยี กำลังกลายเป็นหัวใจใหม่ของเศรษฐกิจโลก เช่นเดียวกับที่บริษัทน้ำมันอย่าง ExxonMobil และ Chevron เคยครองโลกในศตวรรษที่ผ่านมา

หากการลงทุนในหุ้นรายตัวดูเสี่ยงเกินไป ท่านผู้อ่านอาจพิจารณาใช้กองทุน ETF ธีมเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ เช่น SOXX, SMH หรือ PHLX เพื่อเกาะแนวโน้มเศรษฐกิจใหม่โดยไม่ต้องเลือกหุ้นเจาะจงเป็นรายตัว

อย่างไรก็ตาม การลงทุนในยุคนี้ต้องมีความยืดหยุ่น และมีกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับโครงสร้างอำนาจใหม่ของโลก เช่น การกระจายตามห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ การกระจายตามภูมิภาคที่มีเสถียรภาพ เช่น สหรัฐฯ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวัน และการลงทุนในเทคโนโลยีที่ได้รับการสนับสนุนเชิงนโยบาย เช่น AI, EV Infrastructure และ Defense Tech ล้วนเป็นหัวใจสำคัญที่นักลงทุนยุคใหม่ต้องคำนึงถึง

และที่สำคัญที่สุด นักลงทุนต้องกล้าเปลี่ยนตามโลก แทนที่จะคาดหวังให้โลกกลับไปเหมือนเดิม เพราะในโลกที่ซิลิคอนกลายเป็นทรัพยากรใหม่ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การยึดติดกับโครงสร้างเศรษฐกิจเก่าไม่ต่างอะไรกับการลงทุนในเหมืองถ่านหินในวันที่โลกกำลังเดินหน้าสู่พลังงานสะอาด

ในศตวรรษที่ 21 นี้ ไม่ใช่แค่การเลือกหุ้นให้ดี แต่คือการเลือกข้างให้ถูก และพอร์ตที่กล้าเคลื่อนไหวตามเส้นทางของอำนาจโลกเท่านั้น ที่จะมีสิทธิ์รอดและเติบโตได้ในระยะยาว

Silicon is the New Oil.
จึงเป็นบทสรุปของการลงทุนในศตวรรษที่ 21

หน้า 14 หนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,113 วันที่ 13 - 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

ท่องเที่ยวเลื่อนเก็บ “ค่าเหยียบแผ่นดิน” นักท่องเที่ยวต่างชาติ ออกไปเป็นปีหน้า

21 นาทีที่แล้ว

ส่องเทรนด์งานมาแรง คำค้นหายอดฮิต ครึ่งปีแรก บน Jobsdb by SEEK

29 นาทีที่แล้ว

“ภาษีทรัมป์” เขย่า SME! ฉุดส่งออกร่วง 30% กระทบลงทุน-แรงงานไทย

38 นาทีที่แล้ว

กัมพูชาเล็งใช้กฎหมาย "บังคับเกณฑ์ทหาร" เริ่มปี 2569 เสริมแกร่งกองทัพ

46 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่นๆ

"อินเตอร์โกลด์" คาดราคาทอง "พักฐาน" รอบใหญ่ ครึ่งปีหลังเสี่ยงหลุด 50,000 แนะ DCA ระยะยาวเป็นขาขึ้น

TNN ช่อง16

จีน ส่งออก “แร่หายาก” พุ่งสูงสุดรอบ 15 ปี สะท้อนดีมานด์โลกแย่งชิงวัตถุดิบผลิตแม่เหล็ก

การเงินธนาคาร

‘อาหารอุ่นร้อน’ โอกาสทอง 8.2 หมื่นล้านในจีน รับเทรนด์คนโสด-ขี้เกียจ

SMART SME

ททท. ปลุกความเชื่อมั่นเที่ยวไทยคนละครึ่ง ปชช.แห่ลงทะเบียน 1.7 ล้านคน คาดสิทธิหมด ส.ค.นี้แน่

MATICHON ONLINE

ตลาดหุ้นไทยปิดพุ่ง 22.18 จุด เกาะติดสหรัฐฯ เก็บภาษีไทย

PostToday

“แบงก์ชาติจีน” หนุนแบงก์เล็กลงทุนพันธบัตรรัฐอย่างเหมาะสม เตือนความเสี่ยงที่มากเกินไป

การเงินธนาคาร

หุ้นไทยปิดทะยาน 22.18 จุด วอลุ่ม 3.3 หมื่นล้าน ตอบรับความคาดหวังเจรจาภาษีทรัมป์ หุ้นไทยอยู่ในโซนไม่แพง

สยามรัฐ

พาณิชย์ปลื้ม ‘SMART Local ME-D’ปั้นผู้ค้าชุมชน 233 ราย สร้างรายได้100 ล้าน

Khaosod

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...