จับตา “หุ้นส่งออกสินค้า” ไปสหรัฐเด้ง! หลังทรัมป์เก็บภาษีนำเข้าไทยเหลือ 19% เดิม 36%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (1 ส.ค.68) รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้ประกาศคำสั่งบริหารจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แก้ไขอัตราภาษีศุลกากรแบบต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) สำหรับหลายประเทศคู่ค้าของสหรัฐฯ โดยกำหนดให้ประเทศไทยถูกเก็บภาษีการนำเข้าใหม่ในอัตรา 19% จากเดิมที่ 36% หลังจากที่มีการประกาศในวันที่ 2 เมษายน 2568
โดยการปรับปรุงนี้เป็นส่วนหนึ่งของการปรับบัญชีรายการพิกัดศุลกากรของสหรัฐฯ (Harmonized Tariff Schedule of the United States - HTSUS) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้กับสินค้าจากประเทศไทยที่นำเข้ามาเพื่อการบริโภคในสหรัฐฯ ตั้งแต่เวลา 12:01 น. ของวันที่ 7 สิงหาคม 2568 (ตามเวลาในเขตตะวันออก - EDT) เป็นต้นไป หลังจากวันที่ออกคำสั่ง
สำหรับรายละเอียดสำคัญสำหรับผู้ส่งออกไทย ซึ่งสินค้าจากประเทศไทยจะถูกจัดอยู่ในพิกัดศุลกากรที่เกี่ยวข้องหมายเลข 9903.02.61 ซึ่งกำหนดให้อัตราภาษีเป็น “ภาษีปกติในพิกัดย่อย + 19%” ทั้งในช่องอัตราทั่วไป (General) และอัตราพิเศษ (Special)
อัตราภาษีใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้กับสินค้าที่นำเข้าหรือนำออกจากคลังสินค้าเพื่อการบริโภคในสหรัฐฯ ตั้งแต่เวลา 12:01 น. ของวันที่ 7 สิงหาคม 2568 (ตามเวลาในเขตตะวันออก - EDT)
สำหรับสินค้าที่อยู่ระหว่างการขนส่งมายังสหรัฐฯ จะมีข้อยกเว้นตามเงื่อนไขดังนี้
-สินค้าต้องถูกบรรทุกลงเรือ ณ ท่าเรือต้นทางเพื่อการขนส่งเที่ยวสุดท้าย ก่อนเวลา 12:01 น. ของวันที่ 7 สิงหาคม 2568
-สินค้าต้องถูกนำเข้าหรือนำออกจากคลังสินค้าเพื่อการบริโภคในสหรัฐฯ ก่อนเวลา 12:01 น. ของวันที่ 5 ตุลาคม 2568
บริษัท หลักทรัพย์ กรุง ไทย เอ็กซ์ สปริง จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ก่อนหน้านี้ว่า ปัจจุบันไทยส่งออกหลักไปยังสหรัฐฯคิดเป็นสัดส่วนราว 18% (ข้อมูล ณ 2 เดือนแรกของปี 2568) และสินค้าหลักๆที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯได้แก่อิเล็กทรอนิกส์ (31% ของสัดส่วน) เครื่องจักร (24%) ยาง (9%) ชิ้นส่วนยานยนต์ (4%) และอื่นๆ โดยมีหุ้นประกอบไปด้วย AH, SAT, STA, HANA, DELTA, KCE และกลุ่มอื่นๆได้แก่ท่องเที่ยว (AOT, CETEL ,MINT) ค้าปลีก (BJC ,CRC, CPALL , HMPRO) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB) นิคม (WHA)
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ได้ระบุว่าบทวิเคราะห์ก่อนหน้าว่า มาตรการภาษีนำเข้าใหม่ของสหรัฐฯ จะส่งผลโดยตรงต่อตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะสินค้าส่งออกสำคัญของไทยที่ส่งไปยังสหรัฐ อย่างเช่น
ยานยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ เนื่องจากไทยส่งออกรถยนต์ไปสหรัฐฯ คิดเป็น 9% ของการส่งออกรถยนต์ทั้งหมด และ 6% ของการผลิตรถยนต์ในประเทศ หุ้นที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ AH, SAT, STANLY, NYT รวมถึงกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้อง เช่น KCE, DELTA, HANA
เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ หุ้นที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ DELTA, HANA, KCE
ยางและผลิตภัณฑ์ยาง กระทบต่ออุตสาหกรรมยางและถุงมือยางโดยตรง หุ้นที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ STA, STGT ซึ่งมีการส่งออกไปสหรัฐฯ โดยตรง ขณะที่ NER ได้รับจากลูกค้าจีนที่ส่งออกยางไปยังสหรัฐฯ
สินค้าเกษตร โดยเฉพาะสินค้าประเภท ข้าว, อาหารสัตว์เลี้ยง, ทูน่าและผลิตภัณฑ์ทูน่า, กุ้งและผลิตภัณฑ์กุ้ง, มะพร้าวและผลิตภัณฑ์มะพร้าว, สับปะรดกระป๋อง หุ้นที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ TU, CFRESH, COCOCO, PLUS, MALEE, AAI, ITC
อัญมณีและเครื่องประดับ ผู้ส่งออกเครื่องประดับ หุ้นที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ PDJ