โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

จากชุดชาวบ้านขึ้นแท่นสุพรรณหงส์ “มายน์ ชญานุช” อาชีพเบื้องหลังตะเข็บตัวละคร

a day magazine

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว • a day magazine

กว่าภาพยนตร์หนึ่งเรื่องจะลุล่วงมาจ่อหน้าโรง เบื้องหน้าที่ถูกฉาบไว้ มีเบื้องหลังเป็นกองทัพคนทำงานอยู่ และกว่าภาพยนตร์หนึ่งเรื่องจะขึ้นแท่นรางวัลสุพรรณหงส์ ที่เปรียบเสมือนออสการ์สร้างขวัญกำลังใจให้ผู้คนในอุตสาหกรรม ต่างเกิดจากความหิวกระหายของกองทัพคนเหล่านี้ คนที่คอยผลักดันให้ภาพยนตร์ของตัวเองไปถึงฝั่งฝัน ไม่ว่าพวกเขาจะได้รับบทบาทอะไรก็ตาม ราวว่าผ่านการแคสติง ฝึกปรือฝีไม้ฝีมือตัวเองมาอย่างดี

และหนึ่งในนั้นคือนักเล่าเรื่องบนผืนผ้าของตัวละคร อาชีพคอสตูมดีไซน์ที่เป็นมากกว่าการออกแบบแฟชัน เพราะต้องคอยถอดรหัสบทภาพยนตร์ กระโดดเข้าไปอยู่ในหัวของตัวละครไม่ต่างจากนักแสดง

หากพอคุ้นหูคุ้นตากับภาพยนตร์ “ร่างทรง” ที่มีสาวน้อยร่าเริงสวมเสื้อโทนสีเรียบ กางเกงยีนส์ทะมัดทะแมงอย่างวัยรุ่นธรรมดาที่อาศัยในชนบท เธอดำเนินชีวิตไปอย่างเรียบง่าย โดยหารู้ไม่ว่ากำลังต้องเผชิญกับชะตาอันโหดร้ายที่จะทำให้เธอไม่ใช่แค่เด็กสาวธรรมดาอีกต่อไป

ในภาพยนตร์เธออาจเป็นเช่นนั้น แต่นอกบทแล้ว เธอได้รับรางวัลสุพรรณหงส์ครั้งที่ 30 ด้วยฐานะนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม และอีกหนึ่งรางวัลในคราวนั้น ตกเป็นของคนเบื้องหลังที่ออกแบบเครื่องแต่งกายให้ตัวละคร “มายน์-ชญานุช เสวกวัฒนา” ผู้เดินบนอาชีพออกแบบเสื้อผ้ามาร่วม 20 ปี และภาพยนตร์ที่นักแสดงสวมเสื้ออย่างชาวบ้าน ดูจะธรรมดาในเรื่องนี้ ทำให้เธอได้จับรางวัลเป็นครั้งแรก ยืนยันได้เลยว่านี่มันชักจะไม่ธรรมดาแล้ว

ทว่ามายน์ไม่ได้เรียนจบด้านแฟชันโดยตรง ก่อนหน้านี้เธอเข้าเรียนในคณะศิลปศาสตร์ หลักสูตรรัสเซีย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่อาจช้าไปเสียหน่อยกว่าจะรู้ตัวว่าไม่ชอบมันเลย เธอถึงต้องหาทางรอดให้ตัวเอง ด้วยการขอฝึกงานเป็นสไตลิสต์ในนิตยสารที่พี่ชายทำงานอยู่ เพราะคุ้นเคยกับผ้าผ่อนมาตั้งแต่เด็ก ชอบที่จะแต่งเนื้อแต่งตัว ทั้งคลุกคลีกับแม่ที่ทำงานด้านนี้ เธอเชื่อสนิทใจว่าตัวเองจะอยู่กับสิ่งนี้ได้ และเป้าหมายสำหรับมายน์มีไว้พุ่งชน วงเล็บว่าแม้ครอบครัวจะไม่เห็นด้วยเท่าไรก็ตาม

หลังจากลองฝึกงานสไตลิสต์แล้ว เรียกว่าเจอทางของตัวเองเลยไหม

เจอ เราชอบมากกว่าที่ต้องไปเรียนนะ เคยร้องไห้จนขอลาออกเลย แต่สุดท้ายก็เรียนไปทำงานนี้ไป รู้สึกปลอดภัยและหมกมุ่นกับสิ่งนี้มาก แรกๆ ก็รู้แค่ต้องแต่งตัวให้เขาตามสัดส่วนที่เขาใส่ได้พอดี แต่ไม่รู้ว่ามีส่วนช่วยอะไรได้อีกบ้าง พออยู่ไปเรื่อยๆ ทำให้รู้ว่ามันมากกว่านั้น เราช่วยให้คนได้งาน ไม่ใช่แค่ใส่แล้วพอดี แต่ใส่แล้วดูดีขึ้นหรือเปล่า

หาความรู้ให้ตัวเองในด้านการออกแบบอย่างไรบ้าง

พูดไปแล้วก็ตลก เราใช้เซนส์! เวลาหา Reference ทีนี่หาเป็นหมื่นรูป อย่างแอป Pinterest คือสำคัญสำหรับเรามาก มีบอร์ดที่เป็นซีเคร็ตอยู่ในนั้นด้วย แต่ไม่ใช่ก๊อปมานะ แค่ดูไว้เป็นภาพประมาณหนึ่ง แล้วเราก็เป็นคนหมกมุ่นเรื่องสี เป็นคนแมตช์คู่สีได้เชี่ยวชาญ เรื่องเมกอัปถึงจะต้องบรีฟเขาอย่างเดียว แต่เราเองก็ต้องรู้ คนอื่นจะได้ทำงานง่าย ไม่อย่างนั้นก็เหมือนโยนเขาลงไปว่ายน้ำคนเดียว โชคดีหน่อยที่ทีมแก๊งแต่งหน้า ช่างทำผมเขาเข้าใจ เพราะเป็นคนพูดจาเข้าใจยาก (หัวเราะ)

ภาพยนตร์ที่ดูส่งผลกับวิธีคิดของเราด้วยไหม

ส่งผลมาก อย่าง “Sofia Coppola” และ “Greta Gerwig” เราชอบเขาเพราะไม่ค่อยมีผู้กำกับผู้หญิงที่เล่ามุมมองแบบผู้หญิงออกมาได้แบบไม่เลี่ยน มุมผู้หญิงไม่ได้มีแค่ว่าทำไมเธอไม่โทรมา แต่มีอีกว่าการที่ถูกทอดทิ้งอย่างโดดเดี่ยวต้องเผชิญอะไรบ้าง หรือความซัฟเฟอร์ของการเติบโตเป็นผู้หญิงเป็นอย่างไร เราชอบที่เขาไม่เล่าแค่มุมงี่เง่า แต่ลงลึกถึงรายละเอียด เราได้ซึมซับจากตรงนั้นมา

จากสไตลิสต์พลิกเป็นคอสตูมดีไซน์ได้อย่างไร

เริ่มจากเป็นผู้ช่วยทำโฆษณาให้แมกกาซีน ค่อยๆ ขยับมาเป็นตัวหลักการออกแบบเสื้อผ้า นับได้ว่าอยู่ในวงการโฆษณามาเกือบสิบปี แต่มีช่วงหนึ่งที่ท้อมาก ปกติเราจะทำชุดกับเอเจนซีที่เป็นนายหน้าโปรดักต์ พอได้รับคอมเมนต์มาแต่ละครั้ง ในใจจะมีคำถามกลับไปตลอด คือโดนคอมเมนต์อัดมาจนน่วมเลย

ทำอย่างไรเมื่อไอเดียไม่ถูกยอมรับ

ช่างมัน! ทำๆ ไปก่อน แต่ก็มีวันที่รู้สึกไม่ไหวแล้ว เพราะไม่ได้คิดเองเลย ไม่ได้พูดด้วยอีโก้นะ ในเมื่อเราทำอาชีพนี้แล้ว เราเป็นสเปเชียลิสต์ด้านนี้ ทำการบ้านมา คิดมาแล้วว่าเขาต้องแต่งตัวอย่างไรถึงจะเหมาะและทำให้นักแสดงมั่นใจด้วย พอโตขึ้นก็เริ่มเข้าใจว่าคงทำอาชีพกันคนละอย่าง งานใครงานมันไป แค่มา Merge ให้มีตรงกลาง แต่อาจจะยากหน่อย เราทำอย่างที่เขาต้องการได้แหละ แต่ใจก็ฝ่อไปเลยเหมือนกัน

ตอนไหนที่ทำให้รู้สึกว่าฉันเป็นสเปเชียลิสต์ด้านคอสตูมดีไซน์แล้ว

คงเพราะได้รางวัลสุพรรณหงส์ เราไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าการได้รับรางวัลจะมีความหมายอะไร แต่ตอนนั้นรู้สึกว่าเนี่ย! ฉันทำให้พ่อแม่เห็นได้แล้ว ฉันเป็นคนที่ทำอาชีพนี้จริงๆ เพราะเคยทำแต่แฟชัน โฆษณา ซึ่งไม่มีรางวัลสำหรับอาชีพนี้ ความท้าทายคือการมาทำแสงกระสือ สยามสแควร์ ร่างทรง ต้องทำให้เสื้อผ้าธรรมดามีดีเทลที่คาแรกเตอร์ตัวละครจะชัดเจนขึ้นได้

ในทุกปีที่ผ่านมา ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคนที่ได้รางวัลจะเป็นหนังนเรศวร สุริโยทัย บุพเพสันนิวาส เพราะเขาทำชุดที่ยากมาก แล้วทำออกมาได้สวยงาม เราเป็นแคนดิเดตทำชุดชาวบ้าน แต่ว่าฉันทำได้แล้ว! มันมีคุณค่าด้วยนะ ถึงจะเป็นเสื้อผ้าธรรมดาก็ตาม

บทบาทคอสตูมดีไซน์ในภาพยนตร์เป็นอย่างไรบ้าง

เราทำหนังเรื่องแรกคือ “สยามสแควร์” ของผู้กำกับ “ปกป้อง-ไพรัช คุ้มวัน” ด้วยอายุ 30 ปี สักพักก็มีผู้กำกับ “โดม-สิทธิศิริ มงคลศิริ” เรื่อง “แสงกระสือ” มาชวนไปทำ ตามด้วย “ร่างทรง” ของ “โต้ง-บรรจง ปิสัญธนะกูล” พร้อมๆ กับซีรีส์ “แปลรักฉันด้วยใจเธอ” ของ “บอส-นฤเบศ กูโน” ตอนนั้นรู้สึกเหมือนคนเห็นเราจากงานจริงๆ เพราะปกติเวลาเช็กคิวทำงานมักจะโดนบรีฟเป็นคนสุดท้าย เขาจะบรีฟว่าเสื้อผ้าง่ายๆ ไม่มีอะไร แค่อยากให้ใส่ใจสิ่งนี้เพิ่มเติม เพื่อให้ทุกอย่างสวยงามมากขึ้น มันไม่ใช่แค่แต่งแล้วออกมาสวย แต่ทำให้บทที่ตัวละครได้รับกลมขึ้นด้วย ช่วยเขาพูดโดยไม่ต้องพูด เราจะไม่ทำเสื้อผ้าเด่นกว่านักแสดง แต่จะให้เบลนด์ไปกับเขา

ทุกวันนี้ยังถูกมองข้ามอยู่ไหม

ก็มีอยู่บ้าง เราแค่อยากทำงาน อยากให้เขาบรีฟเพิ่มว่าคนๆ นี้เป็นอย่างไร อยู่ที่ไหน อยากให้ภาพออกมาเป็นอย่างไร น้อยมากเลยที่จะคุยกันถึงเรื่องนี้ แต่พอมาทำหนังแล้ว ก็เลือกไล่บี้ถามเขาแทน (หัวเราะ)

กระบวนการของคอสตูมก่อนถ่ายทำจริงเป็นอย่างไร

นอกจากหาเสื้อผ้าก็จะมาฟิตติงกัน ซึ่งในแต่ละครั้งเราจะบอกเลยว่าห้ามรบกวนการทดลองของเรานะ ถ้านักแสดงใส่แล้วถ่ายรูป อย่าเพิ่งมาบอกว่าไม่สวย เราเห็นเหมือนกัน แต่ขอเวลาคิดก่อนว่าเป็นเพราะอะไร ตัวประกอบก็จับมาฟิตติงด้วย เพื่อลดความเสี่ยงเวลาออกกอง ทุกอย่างต้องพร้อมเดินเข้าเซ็ต ค่อยแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันไป ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น

มีวิธีแยกคาแรกเตอร์ตัวละครอย่างไร เมื่อเขาต้องใส่เสื้อผ้าคล้ายกันแทบทั้งหมด

เรื่อง “สยามสแควร์” เรารีเสิร์ชด้วยการลงพื้นที่จริง เดินดูว่าเด็กที่อยู่แต่ละโรงเรียนเป็นอย่างไรบ้าง ถ้าเป็นเด็กคอนแวนต์จะคุณหนูหน่อยๆ ต้องมีโบว์ สะพายกระเป๋าผ้า หรือถ้าเป็นเด็กผู้ชายซ่าๆ ก็จะใส่กางเกงเอวต่ำแบบผิดระเบียบ ถ้าตั้งใจดูจะเห็นว่าคาแรกเตอร์แต่ละคนชัดมากแค่ซ่อนไว้อยู่

แต่ตอนรีเสิร์ช “ร่างทรง” จะยากกว่า เพราะเป็นช่วงโควิดที่ไปไหนไม่ได้ วิธีที่ใช้คือเข้าอินสตาแกรมแล้วกดที่โลเคชัน สมมติกดไปที่ผับของจังหวัดนั้น ก็จะดูว่าเขาแต่งตัวกันอย่างไร คนพื้นที่เป็นอย่างไร คาแรกเตอร์พวกเขาเป็นอย่างไร เราเลือกซ่อนลายพรินต์ของสัตว์ไว้ในตัวนางเอกให้มีความดุร้าย มีรองเท้าเป็นลายเสือ เสื้อลายม้าลาย เพราะนางเอกถูกผีสิง ตั้งแต่วิญญาณคน สัมภเวสี สัตว์ทุกอย่าง เสื้อผ้าของเรามีหน้าที่แค่ไปยืนอยู่เฉยๆ เป็นเพื่อนเขา

เคยคิดกับตัวเองไหมว่าทำไมถึงได้ทำแต่หนังผี

ทุกคนชอบบอกว่างานง่ายๆ เขาไม่โทรหาเธอหรอก (หัวเราะ) จะได้งานยากตลอด น่าจะเป็นเพราะผู้กำกับเขาเห็นอะไรบางอย่าง เช่น พี่โต้งที่เขาพิมพ์มาชมเราหนึ่งหน้ากระดาษตอนทำ “วิมานหนาม” ที่ “บอส-นฤเบศ กูโน” เป็นคนกำกับว่าเราคิดเสื้อผ้ามาดีมาก มายน์คิดงานละเอียดสุดๆ ไม่เคยคิดว่าคนอื่นจะเห็น หนังทุกเรื่องที่เราทำไม่เคยมีเสื้อผ้าที่ตะโกนออกมา ยกเว้นวิมานหนาม แฟนบอกว่าดีใจด้วยนะที่ไม่ต้องทำเสื้อผ้าแบบหลบๆ ซ่อนๆ แล้ว

ตัดสินใจจากอะไรว่าจะเป็นคอสตูมดีไซน์ให้ภาพยนตร์เรื่องนี้

เป็นคนตามฟีลมาก เวลาอ่านบทหนังเรื่องไหนแล้วไม่อินก็ไม่ทำ แต่ไม่ใช่หนังอื่นไม่ดีนะ แค่เราไม่อินกับเรื่อง ตอนที่อ่านบทร่างทรงก็เห็นภาพนางเอกขึ้นมาทันที เราไลน์บอกพี่โต้งเลย “พี่! นางเอกต้องเป็นสีม่วง มันมีความลึกลับ” จะนึกคนออกมาเป็นสีอย่างแรกก่อน อย่างพระเอกในวิมานหนามคือสีส้ม เพราะเขาเป็นคนร้อน เป็นคนพุ่งว่าฉันจะทำแบบนี้

โทนสีเสื้อผ้าของตัวละครส่งผลกับภาพยนตร์มากแค่ไหน

ถ้ากับโทนสีของหนังอาจจะไม่เท่าไร แต่กับตัวละครจะสำคัญมาก อย่างบิวกิ้นใน “หลานม่า” ของผู้กำกับ “พัฒน์-พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์” จะไม่มีสี เพราะไม่มีความฝัน คืออยากเป็นอะไรก็เป็น อยากแคสต์เกมก็ดรอปมหาวิทยาลัยไปเลย ไม่เหมือนยุคเราที่ต้องนั่งคิดเยอะว่าจะเป็นอะไรดี ยุคนี้ไม่ต้องมีความฝันก็ได้ ไม่ผิดเลย รู้แค่ว่าอยากทำอะไรก็พอ

ตอนนั้นโดนคอมเมนต์เสื้อผ้าบิวกิ้นว่ามันเรียบเกินไป ไม่มีสีสัน อยากให้ดูสนุกกว่านี้ เราเดินไปพูดกับเขาว่าแล้วตัวละครเอ็มมันสนุกตรงไหนเหรอ (หัวเราะ) เราเข้าไปเถียงด้วยข้อมูลที่บทเขียนมา ตัวละครเอ็มก็แค่อยากออกมาแคสเกม ในห้องนอนเขาก็ไม่มีโปสเตอร์การ์ตูน โปสเตอร์เกม ไม่มีอะไรเลย เป็นคนเพลนๆ ด้วยซ้ำ

เรื่องวิมานหนามที่มีแต่สวนสีเขียวก็จะหลีกเลี่ยงสีเขียว ผู้กำกับเขาจะเสนอมาด้วยเหมือนกัน ว่ามีการใช้สีสะท้อนแสงรวมอยู่ในเรื่อง เราก็เก็บเอามาพัฒนาต่อ ถาม “แป้ง สองศักดิ์” โปรดักชันดีไซน์ว่าได้ไหม ถ้ามีสีสะท้อนนี้อยู่ในบ้าน ถ้าได้ก็ไปต่อ จากนั้นก็คุยกับ “ตั้ง ตะวันวาด” ที่เป็นตากล้องว่ามวลรวมได้ไหม เราทำการบ้านกับทีมเยอะมากจริงๆ

โปรเจกต์ไหนที่ต้องลงแรงหาเสื้อผ้าหนักที่สุด

“วิมานหนาม” เราถ่อไปซื้อเสื้อผ้าจากทุกตลาดในแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ แล้วก็คุยคาแรกเตอร์กับบอสที่เป็นผู้กำกับ เรียกทีมบท ทีมโปรดิวเซอร์มานั่งคุยว่าตัวละครทองคำเขาเรียนที่ไหนมา เพื่อนเขาเป็นใคร แม่เลี้ยงเขามาอย่างไร บ้านเป็นแบบไหน ไลฟ์สไตล์เป็นอย่างไร นั่งคุยกันเป็นชั่วโมง ได้ความว่าเขาเรียนที่จังหวัดเชียงใหม่ ตามที่เคยรีเสิร์ชมาคือเด็กเชียงใหม่จะชอบใส่เสื้อผ้ามือสอง เพราะกาดขายของมือสองเยอะ จริงๆ แล้วเขาแต่งตัวแซ่บกันมากนะ เสื้อมือสองบ้านเขาก็ราคาไม่แพง ในกาดสันป่าข่อยตัวละยี่สิบสามสิบบาท แต่ต้องค้นเอาเอง เสร็จจากภาคเหนือก็มาค้นต่อในตลาดปัฐวิกรณ์ ซื้อเองหมดทุกชิ้นเลย

มีโจทย์ของตัวละครที่ท้าทายบ้างไหม

“สาย” ในเรื่อง “แสงกระสือ” โจทย์คือเขาต้องดูสวย น่ารัก ดูน่าทะนุถนอม แต่โลเคชันมันไม่เป็นแบบนั้น อยู่ในป่าด้วยซ้ำ ก็มาย้อนคิดถึงเรื่อง “The Virgin Suicides” ที่เราชอบดู ตัวละครในนั้นจะแต่งตัวออกมาให้ความรู้สึกน่ารัก เลยลองเอาเสื้อผ้ามาใส่ดีเทลลายดอกไม้เล็กๆ ให้ดูละมุน มีแขนตุ๊กตา ไม่หวานเกินไป แต่กว่าจะลงตัวได้ ทะเลาะจนร้องไห้กับผู้กำกับ (หัวเราะ)

อีกอย่างคือการทำให้ดาราเป็นคนธรรมดาเนี่ยยาก สมมติบอกว่าขอไม่แต่งหน้านะ แล้วเขาเคยแต่งหน้าออกกล้องทุกวัน ถ้าเขาไม่เชื่อใจเราก็จะไม่ร่วมมือ แต่ส่วนใหญ่ที่ทำมานักแสดงจะเชื่อใจ งานนี้เป็นงานกลุ่มที่ทำคนเดียวไม่ได้ เราต้องมีความรู้ทุกอย่างตั้งแต่หัวจรดเท้าของเขา รวมไปถึงเครื่องประดับ

ดีไซน์เสื้อผ้ามาเป็น 20 ปีจนถึงตอนนี้ มีมาสเตอร์พีซที่ภูมิใจที่สุดหรือยัง

เรารักหนังทุกเรื่องที่ทำนะ เวลาทำหนังขอให้เชื่อเลยว่าอินมากๆ ตอนที่ดีไซน์เราเข้าไปอยู่ในหัวตัวละครทุกตัวมาแล้ว รักทุกตัวละครเลย อยากทำเสื้อผ้าให้ส่งเสริมตัวละครและหนัง บางทีตัวละครนี้อาจจะแค่มายืนอยู่ในซีนเฉยๆ เราก็อยากช่วยให้เขาพูดได้โดยที่ไม่ต้องพูดโดยผ่านเสื้อผ้าของเรา

ไม่ใช่แค่อาชีพคอสตูมดีไซน์ที่เราขอให้นิยามว่าเป็นศิลปินผู้ใช้เสื้อผ้าเล่าเรื่อง แต่ความเป็นศิลปินที่แสนจะละเอียดอ่อนในตัวมายน์เช่นกัน เธอไม่เพียงแค่ใส่ใจกับตัวละครหลัก ทั้งตัวประกอบเล็กๆ ในซีนที่อาจจะเดินผ่านแวบไปแวบมาหลังฉาก ก็ไม่อาจคลาดไปจากสายตาเธอได้เลย มายน์ทิ้งทัศนคติหนึ่งเอาไว้ว่าเธอสนับสนุนให้ทุกคนแต่งตัวแบบที่อยากแต่ง ต่อให้จะหลุดโลกแค่ไหน แต่หากส่องกระจกแล้วมั่นใจ และถูกกาลเทศะเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว ไม่ต้องสนใจใครหรอก

เราเองก็ทิ้งประโยคหนึ่งไว้ให้เธอ “รอดูเสื้อผ้าของมายน์บนเวทีสุพรรณหงส์ปีหน้าอยู่นะ” เพราะซึ้งกับแรงขับที่เธอมีในอาชีพและโลกภาพยนตร์เสียเหลือเกิน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก a day magazine

“นวยนาด” แบรนด์ไทยระดับรางวัล DEmark กับการก้าวช้าๆ แต่ว่างดงามของผู้หญิงไทย

13 ชั่วโมงที่ผ่านมา

กาตาร์ แอร์เวย์ส ขยายตารางบินต้อนรับฤดูหนาว เพิ่มเที่ยวบินกว่า 15 จุดหมายปลายทาง รวมเที่ยวบินสู่โตเกียวนาริตะ 14 เที่ยวต่อสัปดาห์

1 วันที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

มมส ยกเว้นค่าเทอมทุกระดับการศึกษา ให้ครอบครัวทหารกล้า ผู้เสียสละเพื่อชาติ

MATICHON ONLINE

A Day in Song Wat หนึ่งวันใน "ทรงวาด"

Manager Online

เมนูใหม่ “Steak Cafe de Paris Butter” สเต๊กซอสเนยสไตล์ฝรั่งเศส ที่ "อิมเเพ็ค เลคฟร้อนท์"

Manager Online

Fujii Kaze เปิดตัวซิงเกิลใหม่ Love Like This จากอัลบั้มภาษาอังกฤษชุดแรก Prema

THE STANDARD

วัฒน์ศรี ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา Managing Director ของ Louis Vuitton เตรียมขึ้นเวที 7 Things We Love About x The Secret Sauce Summit 2025

THE STANDARD

เปิดตัว HOKA Mafate 5 คู่หูคู่ใจสายลุย วิ่งเทรลได้ไม่มียั้ง

sanook.com

“การเป็นดีว่าหรือตัวแม่ จะต้องเป็นคนแกร่งและกล้าหาญ แต่ก็ต้องใจดีและเป็นพลังที่ดีกับคนอื่นด้วย” Tiffany Young

THE STANDARD

เบื้องหลังของความยึดติดมีอะไร ทำไมบางคนถึงไม่เปิดใจรับความเปลี่ยนแปลง?

The MATTER

ข่าวและบทความยอดนิยม

พิกซี่! พิกซี่! เราคือภูตจิ๋วตัวแสบ เพราะเด็กๆ ยังเชื่อในเรา โลกผู้ใหญ่ถึงไม่โหดร้ายจนเกินไปนัก

a day magazine

“Survival Tips ถ้าคุณแน่อย่าแพ้สิ้นเดือน” ฮาวทูมองโลกในแง่ดีอย่างมีสตอรี เมื่อชีวิตสิ้นเดือนพาให้กระเป๋าเงินเบาหวิว

a day magazine

“ของเก่าที่เรารัก” เมื่อสิ่งของไม่ได้มีไว้แค่ใช้งาน แต่ยังมีค่าทางใจ ชวนไปดูเหตุผลว่าทำไมเราถึงควรเก็บของชิ้นเดิมใว้ให้นาน

a day magazine
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...