โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ช่างน่าสงสาร! เท้งนำทีมพ้อถูกกลุ่มทุนพลังงานฟ้องเรียกค่าเสียหายกว่า 300 ล้าน

ไทยโพสต์

อัพเดต 20 สิงหาคม 2568 เวลา 18.14 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

'ณัฐพงษ์' เผยถูกบริษัทกลุ่มทุนพลังงานใหญ่ฟ้องหมิ่นประมาท จากการทวงคืนค่าไฟที่เป็นธรรมให้ ปชช. รวมมูลค่าทางแพ่งกว่า 300 ล้านบาท ยันเป็นการทำหน้าที่ในฐานะ สส. โดยสุจริต

20 ส.ค.2568 - นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วยนายวรภพ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และ นายศุภโชติ ไชยสัจ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ร่วมแถลงข่าวการเดินหน้าปกป้องผลประโยชน์ประชาชนจากทุนพลังงานผูกขาด

โดยนายณัฐพงษ์ ระบุว่า ที่ผ่านมาพรรคประชาชนของพวกเรา ได้ต่อสู้เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยมีโครงสร้างพลังงานไฟฟ้าที่เป็นธรรม โปร่งใส และสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง เพราะเล็งเห็นว่า ค่าไฟฟ้าที่เป็นตัวเลขอยู่บนบิลค่าไฟ ไม่ได้เป็นตัวแรกที่มองเห็นเท่านั้น แต่เป็นต้นทุนในการดำรงชีวิต และต้นทุนในการประกอบธุรกิจของประชาชนทุกคนในประเทศนี้ และเราได้สะท้อนปัญหาในหลายเรื่อง อย่างต้นทุนแฝง แต่น่าเสียดายว่า เมื่อเรามองในแผนพลังงานแห่งชาติฉบับใหม่ ก็ยังไม่ได้แก้ไขปัญหาในเรื่องนี้จริงจัง ทั้งยังมีการเปิดช่องให้ทางรัฐบาลสามารถรับซื้อพลังงานไฟฟ้าที่ล้นเกินเพิ่มขึ้นต่อไปได้อีก หรือไม่ก็ยังมีการเปิดช่องให้สร้างโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมที่เกินความจำเป็นซ้ำรอยเดิมที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต

ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายที่จะทำให้เราไม่สามารถแก้ไขได้อีกในอนาคต เช่น เมื่อมีการเซ็นสัญญาณลงนามไปแล้ว ก็ยากที่จะแก้ไข และจะเป็นภาระของลูกหลานของเราต่อไปในอนาคต จากการที่รัฐบาลยังได้อาศัยจังหวะที่ข่าวคราวนี้เงียบลง เดินหน้าปรับการซื้อพลังงานไฟฟ้าต่อ โดยเปลี่ยนวิธีที่พวกเราเรียกร้องให้ยกเลิกโครงการดังกล่าว เป็นการเจรจาลดราคารับซื้อจากเอกชนแทนนั้น

สิ่งต่างๆ เหล่านี้ สะท้อนปัญหา 4 ประการคือ 1.เป็นกระบวนการที่ไม่เปิดประมูลในการรับซื้อ โดยใช้ราคารับซื้อเดิม ทั้งที่ราคาพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนมีแนวโน้มลดลงขึ้นทุกปี จึงตั้งคำถามว่า รัฐบาลซื้อพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนที่เกินจริงหรือไม่ 2.ไม่มีการเปิดเผยกระบวนการการรับซื้อ 3.ไม่มีเหตุผลรับรองใดๆ เลยว่า พวกเราจะต้องสำรองไฟฟ้าเพิ่มเติมไปทำไม ทั้งๆ ที่ทุกวันนี้มีไฟฟ้าที่เกินจำเป็นอยู่แล้วในประเทศ และ 4.พวกเราเห็นว่า เป็นการกีดกันการแข่งขัน เพราะล็อกให้กลุ่มทุนเดิมๆ หรือไม่

ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ จึงทำให้พรรคประชาชนได้ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อตรวจสอบกระบวนการรับซื้อพลังงานไฟฟ้า หรือนโยบายไฟฟ้าของประเทศนี้ ตั้งแต่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี จนถึงรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

มากไปกว่านั้น สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่เกิดขึ้นในวันนี้ คือการทำหน้าที่ของในฐานะ สส.ของพวกเรา ที่กำลังถูกบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ฟ้องร้องดำเนินคดี ส่วนตัวถูกบริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ฟ้องร้องในคดีอาญา ข้อหาหมิ่นประมาท พร้อมกับเรียกค่าเสียหายทางแพ่งจำนวน 100 ล้านบาท จากกรณีที่ได้มีการแถลงข่าวไปก่อนหน้านี้ ส่วนนายวรพ และนายศุภโชติ ก็ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีอาญาในลักษณะเดียวกัน พร้อมกับเรียกค่าเสียหายทางแพ่งอีกคนละ 100 ล้านบาทเช่นเดียวกัน จากการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร รวม 3 คน 3 คดี มีมูลค่าความเสียหายทางแพ่งทั้งหมด 300 ล้านบาท

"ผมอยากยืนยันว่า การแถลงข่าวและการอภิปรายทั้งหมดของพวกเราที่ผ่านมา ในการเรียกร้องทวงคืนค่าไฟที่เป็นธรรมให้กับประชาชนทุกคน เป็นการทำหน้าที่โดยสุจริต ในฐานะผู้แทนราษฎร เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน การฟ้องร้องดำเนินคดีพวกเราในครั้งนี้ ไม่ว่าจะมาจากกลุ่มทุนไหน กลุ่มทุนพลังงาน หรือกลุ่มคนใด ๆ จะไม่ทำให้พวกเราหวั่นไหว หรือหยุดการทำหน้าที่ในฐานะผู้แทนราษฎรตรงนี้ต่อไป" นายณัฐพงษ์ กล่าวย้ำ

อย่างไรก็ดี ในไต่สวนมูลฟ้องศาล ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ ที่ศาลอาญารัชดา ตนจะเดินทางเข้าสู่กระบวนการด้วยตนเอง จึงขอเชิญชวนให้ทุกคนร่วมกันติดตามการทำหน้าที่ของพวกเรา ในการทวงคืนค่าไฟที่เป็นธรรมต่อไป และติดตามความคืบหน้าในคดีที่พวกเราทั้ง 3 คนถูกดำเนินคดีต่อไป ทั้งนี้ทั้งนั้น เพื่อทวงคืนค่าไฟที่โปร่งใส และเป็นธรรม ให้กับประชาชนทุกคน

เมื่อถามถึงรายละเอียดของคดีหมิ่นประมาท นายณัฐพงษ์ ระบุว่า ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ต้องรอให้เข้าสู่กระบวนการเสร็จแล้วเสร็จ ศาลมีคำไต่สวนหรือการยกฟ้องใดๆ แล้ว อาจจะมีการเปิดเผยเพิ่มเติมเท่าที่เปิดเผยได้ เนื่องจากการให้การเพิ่มเติมในวันนี้ไปก่อน อาจจะกระทบกับทางฝั่งโจทก์ และถูกใช้เป็นหลักฐานเพิ่มเติมในการดำเนินคดีได้

ส่วนมองว่าเป็นการฟ้องเพื่อยับยั้ง หรือปิดปากไม่ให้พูดเรื่องนี้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ มองว่า ต้องให้เป็นการให้ความเห็นจากสาธารณะ สื่อมวลชน หรือประชาชน ตนในฐานะจำเลยคดีนี้ คงไปให้ความเห็นในส่วนนี้ไม่ได้ พูดได้เพียงบนพื้นฐานข้อเท็จจริง ว่ามีการฟ้องร้องดำเนินคดีข้อหาอะไร

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

สคบ.จับมือ สวทช.เชื่อมระบบรับเรื่องร้องทุกข์ผ่าน Traffy Fondue แล้ว

22 นาทีที่แล้ว

ผู้ประกอบการร้านค้าร้อง ‘วันนอร์’ ถูกเลิกสัญญากะทันหัน!

33 นาทีที่แล้ว

ศาลนัด 7 ต.ค.พิพากษาคดี นปช.ไล่นายกฯ มาร์ค

37 นาทีที่แล้ว

ผู้ทรงเกียรติรุมจวกราคาอาหารห้องใหม่แพง

45 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม