‘โรม’ เผยปิดห้องคุยลับ ‘บิ๊กเล็ก-รองแม่ทัพภาค 2-กต.’ เปิดใจตรงไปตรงมา
เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่รัฐสภา ภายหลังการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน เป็นประธาน โดยมีวาระประชุมเรื่องติดตามความคืบหน้าการคลี่คลายความขัดแย้งตามแนวชายแดนระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา นานกว่า 3 ชั่วโมง
นายรังสิมันต์ เปิดเผยว่า เป็นการพูดคุยที่ต้องยอมรับว่าค่อนข้างเปิดใจกันมาก ส่วนหนึ่งเพราะเป็นการประชุมลับ ข้อมูลที่มีการพูดคุยกันเป็นข้อมูลที่ตรงไปตรงมา ซึ่งยอมรับว่าลำบากใจในการตอบสื่อว่ามีอะไรบ้าง เพราะหลายอย่างเป็นข้อมูลที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน แต่ด้านหนึ่งตนอยากให้ทุกฝ่ายในสังคมสบายใจได้ว่า เรายังมองไม่เห็นถึงแนวโน้มการขัดการทางอาวุธในเร็ว ๆ นี้ ดังนั้น บรรยากาศอาจจะยังไม่ได้น่าเป็นห่วงในเรื่องการปะทะกันทางอาวุธ
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า แต่ถามว่ายังมีความตึงเครียดหรือไม่ ก็ยังมี ซึ่งมีการให้คำแนะนำในหลายประการ ในการที่จะพูดคุยและหาแนวทางว่าจะทำอย่างไรเพื่อลดความตึงเครียด ซึ่งอาจจะยังไม่ได้มีข้อสรุปออกมาอย่างเป็นรูปธรรม นอกเหนือไปจากการพูดคุยในวงประชุมต่าง ๆ ทั้งการประชุมคณะกรรมการเขตแดนร่วม (JBC) การประชุมคณะกรรมการชายแดนภูมิภาค (RBC) และการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไประหว่างไทยและกัมพูชา (GBC) โดยวงประชุมเรายังไม่สามารถตอบได้ว่าจะมีข้อสรุปอย่างไร เพราะยังไม่เกิดขึ้น แต่พยายามให้ข้อมูลและรับฟังถึงข้อจำกัดของทุกฝ่าย โดยเฉพาะการประชุม RBC เราคงต้องไปติดตามกัน
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าการพูดคุยในวันนี้ทาง กมธ.ความมั่นคงฯ เราทำงานกับฝ่ายความมั่นคง พล.อ.ณัฐพล กองทัพ หรือกระทรวงการต่างประเทศ เรามีบรรยากาศทำงานที่ยอดเยี่ยม และเราพยายามจะให้เกิดการบูรณาการกันของทุกฝ่ายเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งนี้ อย่างไรก็ตาม กำลังมองไปถึงหาวิธีการ End Game ของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งสุดท้ายต้องมีจุดจบ เพียงแต่ต้องมีการประเมินและพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่งว่าจะจบอย่างไร
เมื่อถามว่าได้พูดคุยถึงเรื่องข้อเสนอการฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ICC หรือไม่นั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า มีการพูดคุยกัน แต่ยังไม่สามารถลงรายละเอียดได้ เพราะบางอย่างยังมีความละเอียดอ่อน แต่ยอมรับว่ามีการพูดคุยกัน ซึ่งแนวโน้มเราพยายามเสนอช่องทางต่าง ๆ และเรายืนยันกับทางรัฐบาลว่า รัฐบาลต้องใช้ทุกช่องทางแก้ปัญหาเรื่องนี้ เรายังมองว่าเรื่องกลไก ICC เป็นกลไกที่สำคัญ ซึ่งรัฐบาลไม่ได้ปิดประตูในเรื่องนี้ ดังนั้น ตนคิดว่าจะต้องพูดคุยกันมากขึ้น
โดยทาง กมธ.ความมั่นคงฯ จะมีการประชุมเรื่อง ICC ในวันที่ 5 ก.ย. และมีการเชิญนักวิชาการมาพูดคุย เพราะยังมีมุมมองที่แตกต่างถึงวิธีการ ซึ่งกลไก ICC เป็นกลไกที่สามารถใช้ได้ ส่วนในวันที่ 4 ก.ย. จะเป็นการประชุมเพื่อถอดบทเรียน เพื่อจะดำเนินการนำไปสู่การวางแผนสนับสนุนความมั่นคงที่เปลี่ยนไปตามแนวชายแดน เพราะต้องยอมรับว่าแนวชายแดนไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า การประชุม กมธ. ในครั้งนี้ เปิดใจกันเป็นอย่างมาก เราได้เห็นถึงข้อจำกัดและข้อท้าทาย ซึ่งตนยืนยันว่าการปะทะกันทางอาวุธไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ง่ายในตอนนี้.