งานเข้า! "วัน มรณา" ส่อติดคุกเขมรยาว หลังเจอสารเคมีต้องห้ามในผลิตภัณฑ์
งานเข้า! "วัน มรณา" ส่อติดคุกเขมรยาว พบปรอท-แคดเมียม สารเคมีต้องห้ามในผลิตภัณฑ์ เลิฟ ริยา ขัดกฎหมาย ผู้บริโภคเสี่ยงเป็นโรคอื้อ
วันที่ 21 ส.ค. 68 จากกรณี นาง วัน มรณา หรือ นาง เช็ง เสร็ยรวต วัย 40 ปี อินฟลูเอนเซอร์เขมร เจ้าของแบรนด์ดัง เลิฟ ริยา ที่นำเข้าเครื่องสำอางไทยไปขายในเขมร ซึ่งถูกจับกุมหลังไลฟ์สดผ่านบัญชี TikTok ภายใต้ชื่อ “Oknha Chheng Sreyrath loverya999” ต่อว่านาย ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ปิดบังยอดผู้เสียชีวิตที่แท้จริงของเขมร และไม่พูดความจริงกับประชาชน จนต่อมาถูกศาลอาญากัมพูชา สั่งฟ้องในข้อหา ยุยงให้เกิดการเลือกปฏิบัติ และกระทำการที่ส่งผลกระทบต่อขวัญกำลังใจของกองทัพ
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอัยการกัมพูชา ต่างคัดค้านการประกันตัว โดยอ้างเหตุผลว่า กลัวหลบหนีออกนอกประเทศ และสั่งให้คุมตัวเธอไปขังที่เรือนจำประจำจังหวัดกันดาลทันที ตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา ก่อนที่ นาย เฮง คิมเฮียง สามีของนาง วัน มรณา โพสต์คลิปผ่านเฟซบุ๊กขอโทษ ฮุน เซน แทนภรรยา พร้อมวอนขอความเมตตา และให้อภัยด้วยความความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ส่วนสมาคม Oknha ออกญา แห่งกัมพูชา ยังได้ยื่นจดหมายถึงนาย ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ขอเพิกถอนบรรดาศักดิ์ “ออกญา” ของนาง วัน มรณาด้วยนั้น
ล่าสุด Chhoeun Sochit ผู้บังคับการตำรวจกันดาล โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 20 ส.ค. 68 ระบุว่า ในบรรดาผลิตภัณฑ์ทั้งหลายของบริษัทเลิฟ ริยา ของนาง วัน มรณา พวกผู้เชี่ยวชาญได้ทำการตรวจสอบ มีพบว่ามี 4 ผลิตภัณฑ์ที่เป็นผลิตภัณฑ์ทุจริต ปลอมและบรรลุสารต้องห้ามเกินกำหนด ขัดกับกฎหมาย และก่อความเสี่ยงทางสุขภาพร้ายแรงแก่ผู้บริโภค
ทั้งนี้สารต้องห้ามทั้งหลายที่พบในผลิตภัณฑ์ของเครือบริษัท เลิฟ ริยา มีทั้งปรอทและแคดเมียม ซึ่งเป็นโลหะหนัก ที่สามารถก่อผลกระทบต่อสุขภาพอย่างร้ายแรง หากใช้เป็นเวลานาน
ปรอทเป็นโลหะหนักที่ถูกใช้ในยาสีฟันเพื่อฆ่าเชื้อโรค และในเครื่องสำอาง เพื่อทำให้ผิวขาว แต่ผลกระทบของมันคือทำลายไต, ระบบประสาท, ระบบทางเดินหายใจ, ระบบทางเดินอาหาร และผิวหนัง รวมถึงก่ออันตรายแก่สตรีมีครรภ์
ส่วนแคดเมียม ใช้ในยาสีฟัน และเครื่องสำอาง ลิปสติก เพื่อให้ดูสว่างขึ้น แต่ผลกระทบข้างเคียงคือ ก่อความเสียหายแก่ไต, ตับ, กระดูกอ่อน (โรคกระดูกพรุน), ปฏิกิริยาทางผิวหนัง (ภูมิแพ้), การระคายเคืองผิวหนัง และเพิ่มความเสี่ยงเป็นมะเร็ง โดยสารทั้ง 2 ชนิดสามารถแพร่เข้าสู่ร่างกายมนุษย์ผ่านการกลืนกินหรือแทรกซึมผิวหนัง