พาณิชย์ มอบรางวัล สุดยอดผู้ส่งออก PM’s Export Award 2025
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานมอบรางวัล Prime Minister’s Export Award 2025 (PM’s Export Award 2025) ว่า รางวัล Prime Minister’s Export Award ถือเป็น รางวัลสูงสุดของรัฐบาล ที่มอบให้แก่ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาศักยภาพธุรกิจส่งออก ทั้งด้านคุณภาพสินค้าและบริการ การสร้างแบรนด์ การสร้างนวัตกรรม และการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยในปีนี้ผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศในครึ่งปีแรกของปี 2568 เกือบ 50,000 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนบทบาทสำคัญของการส่งออกในฐานะ “เครื่องจักรหลัก” ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยควบคู่ไปกับภาคการท่องเที่ยว
“รางวัลนี้ไม่ใช่เพียงเครื่องสะท้อนความสำเร็จ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งศักยภาพของผู้ประกอบการไทยที่สามารถยกระดับมาตรฐานธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ผู้ได้รับรางวัลสามารถนำตราสัญลักษณ์ PM’s Export Award ไปใช้กับสินค้าและบริการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในตลาดโลกได้ ถือเป็นเกียรติสูงสุดของผู้ประกอบการส่งออกไทย” นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการไทยต้องเผชิญกับความท้าทายทั้งด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภูมิเศรษฐศาสตร์ ภูมิรัฐศาสตร์ และ มาตรการทางการค้า อาทิ มาตรการด้านสิ่งแวดล้อมของตลาดยุโรป มาตรการทางภาษี (Tariff) ของสหรัฐฯ ตลอดจนสถานการณ์การค้าชายแดน รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์จึงมุ่งดำเนินนโยบายเชิงรุก และตนได้ให้นโยบายกับกระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น “พาณิชย์พึ่งได้” และ “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย” เพื่อเป็นที่พึ่งดูแลผู้ประกอบการและประชาชน ดำเนินการควบคู่กับการเจรจาความตกลงทางการค้า (FTA) เร่งการขยายตลาดใหม่ การยกระดับมาตรการทางการค้า รวมถึงการดูแลคุ้มครองผู้ประกอบการ เพื่อให้สามารถแข่งขันในเวทีการค้าโลกและนำเงินตราเข้าสู่ประเทศได้อย่างยั่งยืน
“ผมขอแสดงความยินดีกับผู้ประกอบการทุกท่านที่ได้รับรางวัล ถือเป็นความสำเร็จอันทรงเกียรติและเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้ประกอบการรายอื่น ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้รับรางวัล อย่าเพิ่งท้อถอย เพราะการพัฒนาศักยภาพธุรกิจต้องทำอย่างต่อเนื่อง การได้รางวัลสำคัญแล้ว แต่การรักษามาตรฐานและการเพิ่มขีดความสามารถสำคัญยิ่งกว่า และการส่งออกที่ดีต้องควบคู่ไปกับการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนไทยทั้งระบบ” นายจตุพร กล่าว
นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กล่าวว่า โครงการนี้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2535 ซึ่งในปี 2568 นี้ ก้าวเข้าสู่ ปีที่ 33 มีผู้ได้รับรางวัล รวมทั้งสิ้น 42 รางวัล จาก 39 บริษัท ใน 18 จังหวัดทั่วประเทศ แบ่งสาขารางวัลออกเป็น 7 ประเภทรางวัล ได้แก่
• รางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกยอดเยี่ยม (Best Exporter) จำนวน 9 รางวัล
• รางวัลแบรนด์ไทยยอดเยี่ยม (Best Thai Brand) จำนวน 8 รางวัล
• รางวัลผู้ส่งออกยอดเยี่ยมด้านความยั่งยืน (Best Green & Sustainable Exporter) จำนวน 7 รางวัล
• รางวัลการออกแบบยอดเยี่ยม (Best Design) จำนวน 7 รางวัล
• รางวัลธุรกิจบริการยอดเยี่ยม (Best Service Enterprise Award) จำนวน 6 รางวัล แบ่งออกเป็น 4 สาขา
o สาขาโรงพยาบาล/คลินิก (Health Services) จำนวน 1 รางวัล
o สาขาดิจิทัลคอนเทนต์และซอฟต์แวร์ (Digital Content & Software) จำนวน 1 รางวัล
o สาขาธุรกิจสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ (Printing & Packaging) จำนวน 2 รางวัล
o สาขาโลจิสติกส์การค้า (Trade Logistics) จำนวน 2 รางวัล
• รางวัลสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยม (Best OTOP) จำนวน 2 รางวัล
• รางวัลสินค้าฮาลาลยอดเยี่ยม (Best Halal) จำนวน 3 รางวัล
ผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลจะได้รับสิทธิประโยชน์มากมายเพื่อต่อยอดความสำเร็จ อาทิ การได้รับโล่รางวัลและประกาศนียบัตร การใช้ตราสัญลักษณ์ PM’s Export Award เพื่อส่งเสริมการตลาดโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการค้าของกรมฯ การได้รับรางวัลนี้เป็นก้าวสำคัญสำหรับผู้ประกอบธุรกิจส่งออกไทยให้ได้สร้างบทบาทบนเวทีโลกและก้าวสู่ความเป็นผู้นำทางธุรกิจส่งออก ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ พร้อมที่จะสนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจส่งออกทุกท่าน ในการแสวงหาโอกาสและช่องทางการค้าในต่างประเทศ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป