ตร.คุ้ยเส้นเงิน 'อลงกต-หมอบี' โยงกว่า 30 คน หมุนเวียน 2-3 พันล้าน

ที่รัฐสภา พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการตรวจสอบเส้นทางการเงินรวมถึงความเชื่อมโยงคดี นายอลงกต พูลมุข อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ รวมถึงนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือ "หมอบี" ว่า วันนี้กองบังคับการปราบปราม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน ที่ได้ยึดมาเป็นจำนวนมาก เพื่อขยายผลไปถึงคนที่เกี่ยวข้อง ในเรื่องผลประโยชน์ ซึ่งไม่ได้อยู่ที่วัดอย่างเดียว แต่ไหลไปอยู่กับคนที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก ทั้งที่ดินหลายพันไร่ เงินสด อสังหาริมทรัพย์ต่างๆ อีกจำนวนมาก

โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเรียกคนที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ปากคำ โดยตนขอแจ้งตรงนี้ว่า ทรัพย์สินของวัดทั้งหมดนั้นที่ใครถือครอบครองโดยที่ยังไม่ได้เอามาคืนวัด ไม่ว่าจะเป็นรถ อสังหาริมทรัพย์ หรือที่ดิน เงินสดต่างๆ เรามีพยานหลักฐาน และไม่อยากขยายวงการดำเนินคดี ให้มากแต่จะคำนึงถึงความมีเจตนาหรือไม่มีเจตนาด้วย

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังกล่าวว่า เรื่องนี้มีคดีฟอกเงิน การยักยอกทรัพย์ และละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ด้วย ถ้าไม่เช่นนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องจะตกเป็นผู้สนับสนุนในเรื่องนี้ดังนั้นขอความร่วมมือเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่วงเงินที่เกิดความเสียหายหลายพันล้านเกือบหมื่นล้านบาท

"สำนักงานป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ให้ตรวจสอบเส้นเงินสัมพันธ์แล้วพบมีความเกี่ยวข้องประมาณ 30 คนบวกลบ พบเงินหมุนเวียนจำนวนกว่า 2-3 พันล้านบาท และยังไม่ได้เกี่ยวข้องกับเงินสดต่าง ๆ ที่อยู่นอกเหนือบัญชี และยังมีบางส่วนที่ ปปง.ยังไม่สามารถตรวจสอบได้อีกเป็นจำนวนมาก คาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 2-3 เท่าตัว"

ทั้งนี้ ขอเตือนไปยังผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ให้เข้ามาให้การกับตำรวจ กรณีดังกล่าวเราไม่อยากบังคับใช้กฎหมาย แต่อยากเอาทรัพย์สินคืนวัดให้มากที่สุดเหมือนคดีทุจริตองค์การทหารผ่านศึก ซึ่งมีประชาชนมาให้ข้อมูลเราก็กันไว้เป็นพยานแต่ถ้าไม่มา เราก็ออกหมายจับต่อไป

เรื่องนี้ยืดเยื้อมายาวนานเป็น 10-20 ปี มีการเรียกคืนที่ดินจากวัด และมีการเรียกทรัพย์สินจากวัดก็มีการดื้อแพ่งกัน ฉะนั้นเมื่อตำรวจการบังคับใช้กฎหมายก็ขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ

ส่วนจะขีดเส้นกี่วันขอดูเจตนาก่อนแต่หากยังไม่มาก็จะมีหมายเรียกออกไป และอยากสรุปเรื่องนี้ให้เป็นแนวทางการทำงานกับวัดอื่นด้วย แล้วจะทำเรื่องนี้ให้คล้ายกับกรณีวัดไร่ขิง มีเรื่องต้องทำการบ้านหลายเรื่อง และขอไม่ตอบในเรื่องที่ยังไม่ชัดเจน เช่น พระมีภรรยาหรือไม่ หมอบีเกี่ยวข้องกับใครบ้าง เอาเงินไปที่ไหนหรืออย่างไร ซึ่งพัวพันกันหลายเรื่อง

เรื่องนี้จะเป็นเรื่องเตือนใจที่เจ้าหน้าที่รัฐมีการทุจริตคอร์รัปชันกันมาอย่างยาวนาน และไม่อยากให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก การแก้ไขปัญหาสงฆ์เฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐคงทำไม่เพียงพอจึงต้องอาศัยประชาชน และองค์กรต่างๆ ช่วยกันเพื่อสร้างระบบการตรวจสอบการป้องกันการทุจริตให้เกิดขึ้นต่อไป

พิสูจน์อักษร….สุรีย์ ศิลาวงษ์