ต่างชาติแห่ทำสวยที่ 'เกาหลีใต้' พุ่ง 3 เท่า 'คนไทย' ติดกลุ่มท็อป
สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสุขภาพแห่งเกาหลี (KHIDI) เปิดเผยรายงานล่าสุดวันนี้ว่า ในปี 2567 ที่ผ่านมา มี "ชาวต่างชาติ" เข้ารับการรักษาเกี่ยวกับผิวหนังและความงามในเกาหลีใต้ 705,044 คน ซึ่งเพิ่มขึ้น "เกือบสามเท่า" จาก 239,060 คนในปีก่อนหน้า
ตัวเลขนี้ยังเพิ่มขึ้นอย่างมากจากเพียง 6,015 คนในปี 2552 ซึ่งเป็นปีแรกที่เกาหลีใต้เริ่มส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ขาเข้า หรือเติบโตขึ้นถึง 117 เท่า ตลอดช่วง 15 ปีที่ผ่านมา
แม้ว่าจำนวนผู้ป่วยชาวต่างชาติทั้งหมดในเกาหลีใต้จะเพิ่มขึ้นประมาณ 19 เท่าในช่วงเวลาเดียวกัน แต่จำนวนผู้ที่รับการรักษาด้านผิวหนังและความงาม (dermatological treatment) กลับเพิ่มขึ้นแซงหน้าการรักษาประเภทอื่นๆ ไปอย่างมาก
ทิศทางนี้สอดคล้องกับสัดส่วนของการรักษาด้านผิวหนังในบรรดาการรักษาทางการแพทย์ทั้งหมดที่ชาวต่างชาติมารับบริการในเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้นจาก 9.3% ในปี 2552 เป็น 56.6% ในปี 2567 หรือคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งของทั้งหมด
หากวิเคราะห์ข้อมูลในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาจะพบว่า "การแพทย์ผิวหนัง" หรือชื่อทางเทคนิคว่า "ตจวิทยา" (Dermatology) ได้กลายเป็นที่นิยมแซงหน้าการแพทย์สาขาเฉพาะทางอื่นๆ ในหมู่ผู้ป่วยชาวต่างชาติในเกาหลีในปัจจุบันไปแล้ว
จากข้อมูลเมื่อปี 2562 สาขา "อายุรศาสตร์" รวมถึง "โรคทางเดินอาหาร" และ "โรคหัวใจ" เป็นสาขาที่มีสัดส่วนสูงสุดที่ 19.2% ตามมาด้วย "ศัลยกรรมตกแต่ง" ที่ 15.3% และด้านผิวหนังที่ 14.4% ก่อนที่การแพทย์ผิวหนังจะขึ้นมาแซงเป็นที่หนึ่งได้ตั้งแต่ปี 2566
หากเทียบในแง่ "สัญชาติ" ของผู้ป่วยต่างชาติที่เข้ามารับการบริการด้านความงามในเกาหลีใต้นั้น พบว่า "ญี่ปุ่น" ครองแชมป์มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งในสัดส่วน 43.7% ตามมาด้วยจีน 24.4%, ไต้หวัน 9.6%, สหรัฐ 5.7% และ "ไทย 3.5%"
ความนิยมในความงามแบบเกาหลี (K-beauty) ที่ขยายไปทั่วโลก ยิ่งช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมผิวหนังและความงามของประเทศให้เติบโตยิ่งขึ้น โดยสื่อเกาหลีใต้ระบุว่า เซเลบริตีคนดังอย่าง "คิม คาร์เดเชียน" ดาราและนักธุรกิจชาวอเมริกัน ก็เพิ่งแชร์ภาพถ่ายประสบการณ์การดูแลผิวแบบเกาหลีระหว่างมาเที่ยวกรุงโซล ซึ่งกลายเป็นไวรัลที่ได้รับความสนใจ โดยคิมได้ไปเยี่ยมชมคลินิกความงามหลายแห่งในย่านยงซานและกังนัม กับโคลอี คาร์เดเชียน น้องสาวของเธอ