สหรัฐยืนยันเคารพสิทธิของกรีนแลนด์ หลังโดนกล่าวหาแทรกแซงภายใน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 28 ส.ค. ว่ากระทรวงการต่างประเทศสหรัฐออกแถลงการณ์ ว่านายมาร์ค สโตรห์ อุปทูตรักษาการ สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงโคเปนเฮเกน เข้าพบนายลาร์ส ล็อกเคอ ราสมุสเซน รมว.กระทรวงการต่างประเทศเดนมาร์ก และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลเขตปกครองตนเองกรีนแลนด์ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
ทั้งนี้ บรรยากาศของการสนทนา "เป็นไปอย่างสร้างสรรค์" โดยรัฐบาลวอชิงตันเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของต่อการมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น กับทั้งเดนมาร์กและกรีนแลนด์ ขณะเดียวกัน “สหรัฐเคารพสิทธิของชาวกรีนแลนด์ในการกำหนดอนาคตของตนเอง”
อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์ระบุด้วยว่า รัฐบาลสหรัฐไม่สามารถควบคุมหรือชี้นำการกระทำของพลเมือง "ที่สังกัดหน่วยงานเอกชน"
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของเดนมาร์กเกิดขึ้น หลังสถานีโทรทัศน์ดีอาร์ของเดนมาร์กรายงานเกี่ยวกับ "พลเมืองอเมริกันกลุ่มหนึ่ง" เดินทางเข้ามา "ปฏิบัติการลับในกรีนแลนด์" ที่เป็น "การแทรกซึมในสังคมของกรีนแลนด์" เพื่อส่งเสริมให้กรีนแลนด์แยกตัวออกจากเดนมาร์กไปยังสหรัฐ
รายงานของดีอาร์ระบุว่า บุคคลกลุ่มนั้นซึ่งมีอย่างน้อย 3 คน "มีความใกล้ชิด" กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ อยู่ในเมืองนูกซึ่งเป็นเมืองเอกของกรีนแลนด์ เมื่อไม่นานมานี้ เพื่อพยายามระบุตัวผู้ที่สนับสนุนหรือคัดค้านความใกล้ชิดกับสหรัฐ และรวบรวมข้อมูลที่ก่อให้เกิดความตึงเครียดระหว่างเดนมาร์กกับกรีนแลนด์
ปัจจุบัน กรีนแลนด์มีประชากรราว 57,000 คน โดยครึ่งหนึ่งต้องการเป็นอิสระจากเดนมาร์ก อย่างไรก็ตาม ประชากรส่วนใหญ่ในพื้นที่ยืนกรานว่า ไม่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐ ซึ่งทรัมป์แสดงออกอย่างเปิดเผย ว่าต้องการซื้อกรีนแลนด์ ที่ตอนนี้มีสถานะเป็นเขตปกครองตนเองของเดนมาร์ก.
เครดิตภาพ : AFP