พรรคประชาชน แถลงพร้อมโหวตนายกฯ ใหม่ วาง 3 เงื่อนไข ย้ำไม่ร่วมรัฐบาล
วันที่ 29 ส.ค. 68 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน นำ สส.พรรค แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ว่า นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์คลิปเสียงการสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร กับ ฮุน เซน ถูกเผยแพร่ออกมาสู่สาธารณะ พรรคประชาชนได้เรียกร้องมาโดยตลอดว่าให้ นายกรัฐมนตรียุบสภาฯ ผู้แทนราษฎร คืนอำนาจให้ประชาชนได้ตัดสินใจเลือกรัฐบาลชุดใหม่ที่มีความชอบธรรมในการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตการเมือง ความขัดแย้ง ความมั่นคง และเศรษฐกิจที่กำลังรุมเร้าประเทศ
แต่นายกรัฐมนตรีกลับเลือกที่จะรักษาอำนาจของตนเองต่อไป จนกระทั่งวันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
พรรคประชาชนยืนยันมาโดยตลอดว่า คุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในประเด็นความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และมาตรฐานจริยธรรม เป็นเรื่องที่ไม่มีหลักเกณฑ์ทางกฎหมายที่ชัดเจนแน่นอน อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้เกิดการใช้ดุลพินิจตามอำเภอใจของผู้มีอำนาจ จึงมิควรถูกวินิจฉัยชี้ขาดโดยศาลรัฐธรรมนูญ ในกรณีนี้ พรรคประชาชนเห็นว่า น.ส.แพทองธาร จะต้องแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองด้วยการลาออก หรือยุบสภาฯ ให้ประชาชนได้ตัดสินผ่านคูหาการเลือกตั้งไปก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ เมื่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีผลเป็นที่สิ้นสุด ทำให้สภาผู้แทนราษฎร จำเป็นต้องมีมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ พรรคประชาชนเห็นว่า ด้วยสถานการณ์ของประเทศในขณะนี้ รัฐบาลที่จะเข้ามาบริหารประเทศได้ จะต้องเป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มีความชอบธรรมทางการเมือง อีกทั้งจะต้องเป็นรัฐบาลที่ใช้อำนาจในการแต่งตั้งทีมผู้บริหาร ที่เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถในการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง มากกว่าการแต่งตั้งที่เกิดจากการเจรจาต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง
แต่ด้วยเงื่อนไขที่ถูกระบุไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ทำให้รัฐบาลที่มีคุณสมบัติดังกล่าวไม่สามารถที่จะเกิดขึ้นได้ จากองค์ประกอบของสภาผู้แทนราษฎรในชุดนี้ ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับประเทศในขณะนี้ จึงเป็นการสรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่มาทำหน้าที่ยุบสภาฯ และจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่โดยเร็วในกรอบระยะเวลาที่เหมาะสม
ดังนั้น พรรคประชาชนในฐานะเป็นพรรคที่มีเสียงมากที่สุดในสภาผู้แทนราษฎร จึงถือภารกิจในการผ่าทางตันทางการเมือง โดยอาศัยกระบวนการและกลไกในรัฐสภา คือ การเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ในการทำหน้าที่ยุบสภาฯ เพื่อป้องกันมิให้มีนายกรัฐมนตรีที่เคยเป็นอดีตหัวหน้าคณะรัฐประหาร หรือนายกรัฐมนตรีคนนอก เข้าสู่อำนาจได้
โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคน พร้อมเลือกบุคคลไปดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ภายใต้เงื่อนไขดังนี้
- นายกรัฐมนตรีคนใหม่จะต้องยุบสภาผู้แทนราษฎรภายใน 4 เดือน นับตั้งแต่ที่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป
- คณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะต้องจัดให้มีการออกเสียงประชามติ ในประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อนำไปสู่การทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้งโดยเร็ว ทั้งนี้ ต้องไม่เกินไปกว่าวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป
- พรรคประชาชนยืนยันที่จะไม่ร่วมรัฐบาล และทำหน้าที่ฝ่ายค้านต่อไป โดยจะทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลชุดใหม่อย่างเต็มที่ และจะไม่มีบุคคลใดจากพรรคประชาชนไปดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรีนี้