พี่น้อง ‘ปริศนานันทกุล’ เสนอญัตติแทรกวาระเลือกรองประธานสภา ขณะ ‘ภราดร’ สอนมวย ‘ฉลาด’ คุมประชุม ก่อนพาภูมิใจไทยวอล์กเอาท์

วันนี้ (7 สิงหาคม) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 10 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 หลังจบวาระพิจารณากระทู้ถามสด และกำลังเข้าสู่วาระการเลือกรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ซึ่งเลื่อนขึ้นมาพิจารณาก่อน แต่ กรวีร์ ปริศนานันทกุล สส. อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ได้เสนอญัตติด่วนด้วยวาจาเกี่ยวกับการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบเหตุภัยพิบัติในเขตชายแดน

“ใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง รัฐมนตรีก็อยู่ในสภาฯ จะได้ตอบข้อซักถาม และนำข้อเสนอไปแก้ไขอย่างเร่งด่วน” กรวีร์กล่าว

ฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ปฏิบัติหน้าที่ประธานการประชุมขณะนั้น จึงต่อรองว่า ขอพิจารณาญัตติเลือกรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ก่อนได้หรือไม่ กรวีร์จึงถามกลับว่า ฝ่ายรัฐบาลมีความพร้อมเลือกรองประธานสภาฯ ใช่หรือไม่ จากนั้นได้เสนอนับองค์ประชุม

ทำให้ วัชระพล ขาวขำ สส. อุดรธานี พรรคเพื่อไทย จึงเสนอขอให้นับองค์ประชุมแบบขานชื่อ เพื่อจะได้ให้เห็นว่า สส.ใครมาทำงานบ้าง ใครไม่ทำงานจะได้เห็นกันไปเลย ซึ่ง พล.ต.ต. สุรินทร์ ปาลาเร่ สส. สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอญัตติให้นับองค์ประชุมแบบขานชื่อ ทำให้ฉลาดระบุว่า ขอใช้ดุลยพินิจประธานให้นับองค์ประชุมแบบขานชื่อ

อย่างไรก็ตาม ภราดร ปริศนานันทกุล สส. อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย กล่าวแนะนำฉลาดว่า สส. พรรคเพื่อไทยเสนอให้มีการนับองค์ประชุมแบบขานชื่อ เมื่อมีสองญัตติ ประธานก็ต้องถามที่ประชุมว่าจะให้ลงมติแบบไหน ท่านก็ต้องให้มีการนับองค์ประชุมเสียก่อนจะถามทั้ง 2 ญัตติ

“ท่านประธานจะวินิจฉัยเช่นนี้ไม่ได้ เล่มสีฟ้าอยู่ขวามือข้าง ๆ ค้อน ขอให้หยิบดู ท่านประธานต้องทำตามข้อบังคับ” ภราดรกล่าว

ฉลาดจึงถามว่า สองพี่น้องปริศนานันทกุล จะยอมถอนญัตติของกรวีร์หรือไม่ เพราะภราดรได้มีการเสนอญัตติให้นับองค์ประชุมแบบขานชื่อ กรวีร์จึงถามว่า เหตุใดตนเองจะต้องยอมถอน เพราะภราดรเสนออีกญัตติหนึ่ง เพราะเป็นสิทธิของสมาชิกที่จะเสนอ ไม่ได้เกี่ยวว่าอยู่บ้านเดียวกัน ส่วนภราดร ยืนยันว่าอย่างไรก็ตามจะต้องมีการลงมติ และขอให้ประธานใจเย็น ดูข้อบังคับให้ดี

ต่อมา ภราดรจึงกล่าวว่า ตนเองได้แสดงผลให้ประธานแล้ว แต่ประธานไม่ฟังเหตุผล จึงไม่สามารถจะร่วมเป็นองค์ประชุมให้ได้ จึงขอวอล์กเอาท์ เดินออกห้องประชุม ด้าน วิสุทธิ์ ไชยณรุน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า ในเมื่อคนขอนับองค์ประชุมไม่ร่วมสังฆกรรม ออกจากห้องประชุมไปแล้ว จึงขอให้ดำเนินการตามระเบียบวาระต่อไปในการเลือกรองประธานสภาฯ คนที่ 1

ก่อนที่กรวีร์ที่ย้ายที่นั่งไปอยู่ด้านหลังห้องประชุมกล่าวขึ้นมาทันทีว่า มากล่าวหาว่าไม่อยู่ในที่ประชุมได้อย่างไร เพราะตนเองก็อยู่ข้างหลัง รออยู่ตรงนี้

ทำให้ฉลาดสั่งให้นับองค์ประชุมแบบขานชื่อ ซึ่งพบว่า สส. พรรคภูมิใจไทยได้ทยอยกันเดินออกไปจากห้องประชุม และ สส. ฝ่ายค้าน ก็ไม่แสดงตนแบบขานชื่อเช่นกัน