โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

BIZ: AI อาจเข้ามาแย่งงานจริง แต่จะแย่งงาน ‘ผู้ชาย’ มากกว่า ‘ผู้หญิง’ และ ‘ผู้ชาย Gen Z’ เสี่ยงตกงานมากสุด!

BrandThink

เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เวลาเราพูดถึงการ ‘แย่งงาน’ มนุษย์ของ AI ทุกอย่างมันจะเป็นนามธรรมและชวนให้จินตนาการไปเรื่อยมากๆ ถ้าเราไม่ดู ‘สถิติ’ ประกอบ และที่จริงสถิติแรงงานฝั่งอเมริกาที่มีการบันทึกละเอียดขึ้นเรื่อยๆ (แบบรายอาชีพเลย ไปค้นในเว็บ Bureau of Labor Statistics ได้ ถ้าสนใจ) ก็มีคำตอบ และคำตอบอาจเป็นและไม่เป็นแบบที่หลายคนคิด

สิ่งที่ทุกคนกังวลว่า ‘งานระดับเด็กจบใหม่’ กำลังจะหายไปไม่ใช่สิ่งเกินจริงสำหรับหลายๆ อาชีพ แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ งานพวกนี้ไม่ได้หายไปในอัตราเท่าๆ กัน พูดให้ตรงคือมันมีบางสายงานที่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นด้วย ในขณะที่สายงานอื่นๆ มีการยกเลิกตำแหน่งกันโครมๆ และไม่มีการจ้างงานใหม่กัน

ความน่าสนคือ ในอเมริกางานที่มีการจ้างมากขึ้นอย่างชัดเจนในรอบ 5 ปี เป็นงานกลุ่มบริการด้านสุขภาพ นั่นคือตั้งแต่หมอ พยาบาล และผู้ดูแลคนแก่ที่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น โดยงานอีกสองกลุ่มที่จ้างงานเยอะขึ้นคือกลุ่มบริการการศึกษาไปจนถึงงานบริการร้านอาหาร โรงแรมและรีสอร์ต

แต่สิ่งที่การจ้างงานพังเละเทะคือกลุ่ม วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ไปจนถึงพวกนักวิเคราะห์และที่ปรึกษาทางธุรกิจ รวมถึงพวกกลุ่มทำงานในโรงงานและเจ้าหน้าที่รัฐ

ความน่าสนใจก็คือ Business Insider พูดเลยว่ากลุ่มงานที่ฮ็อตสุดในตลาดคือ ‘พยาบาล’ นี่เป็นหนึ่งในอาชีพที่ตกงานยากสุดในอเมริกา และนี่คือ ‘งานของผู้หญิง’ เพราะอย่างน้อยๆ ในอเมริกา ผู้มีใบอนุญาตประกอบอาชีพพยาบาล 9 ใน 10 คือผู้หญิง

และความน่าสนใจอีกอย่างก็คือ ไม่ว่าจะงานกลุ่มบริการด้านสุขภาพ บริการการศึกษา ไปถึงบริการตามร้านอาหาร โรงแรม และรีสอร์ต มันคืองานกลุ่มที่จ้างงานผู้หญิงเป็นหลัก งานเหล่านี้ แรงงานไม่ต่ำกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ เป็นผู้หญิง และบางสายก็จ้างงานผู้หญิงถึงกว่า 85 เปอร์เซ็นต์ ของทั้งหมด

ดังนั้นภาพมันชัดเจนมากเลยว่า ‘งานของผู้หญิง’ นั้นจะไม่หมดไปในยุค AI แต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ เพราะงานบริการแบบ ‘ต่อหน้า’ ไปๆ มาๆ คนจะต้องการเพิ่มขึ้นในยุคที่ AI ทำ ‘งานบริการระยะไกล’ ทั้งหมดให้เป็นอัตโนมัติ

กลับกัน ฝั่งผู้ชาย การจ้างงานนั้นเละจัดๆ และในภาพรวม งานของผู้ชายทั้งหมดยกเว้นงานฝั่งการเงินกับงานก่อสร้าง มีการจ้างงานลดลงฮวบ ต่อเนื่องในยุค AI โดยงานฝั่งการเงินและก่อสร้างมีการขยายตัวการจ้างงานเบาๆ เท่านั้น เทียบไม่ได้กับงาน 3 กลุ่มก่อนหน้าที่ขยายตัวแบบโหด ที่ล้วนแล้วแต่เป็นงานของผู้หญิง

นี่หมายความว่าอย่างไร? เอาง่ายๆ คือ ‘ความฝันของผู้ชาย’ แบบเดิมที่อยากทำงานเป็น ‘โปรแกรมเมอร์’ แล้วรวยแบบในยุค 10-20 ปีก่อน มันจะยากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว หรือถ้าฝันแบบย้อนไปไกลกว่านั้นว่าจะทำงานโรงงานแล้วชีวิตมั่นคงด้วยการยืนยันของสหภาพแรงงานก็จะยิ่งยาก (ในอเมริกาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ถึงปลายศตวรรษที่ 20 การทำงานโรงงานบริษัทใหญ่ๆ ถือเป็นงานที่มั่นคงมาก เลี้ยงครอบครัวได้สบาย ตกงานยาก บางครอบครัวทำกันมาตั้งแต่รุ่นปู่)

แต่ถามว่าเรื่องพวกนี้เป็นแค่ ‘ฝันร้าย’ ของผู้ชาย และเป็น ‘ฝันดี’ ของผู้หญิงหรือเปล่า?

มันไม่ง่ายแบบนั้น

คือ ‘งานของผู้หญิง’ ที่จ้างงานกันโครมๆ ไม่ว่าจะเป็นฝั่งบริการสุขภาพ การศึกษา หรือพวกร้านอาหารหรือโรงแรม มันมีลักษณะร่วมกันหมดคือ เป็นงานกลุ่มที่ถือว่า ‘ค่าจ้างต่ำ’ สุดๆ แล้วในบรรดาแรงงานมีทักษะ

ดังนั้นเราไม่ได้กำลังจะเจอโลกที่ผู้ชายอเมริกันตกงาน ส่วนผู้หญิงรวยเอาๆ แต่มันคือโลกที่ผู้ชายตกงาน และผู้หญิงที่ไม่ตกงานก็แค่มีงานพอจะยังชีพ

ถามว่ามันประหลาดไหม? อันที่จริงถ้ามองว่านี่คือภาวะของประเทศโลกที่ 3 สักประเทศก็จะไม่รู้สึกว่ามันประหลาด แต่พอมองว่านี่คือสถานการณ์ของสหรัฐอเมริกา หนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก อันนี้ประหลาดแน่นอน

แน่นอน ส่วนหนึ่งเกิดจากมาตรฐานการคุ้มครองแรงงานฝั่งอเมริกาที่ต่ำกว่ายุโรป ที่จะมาเลิกจ้างเป็นแผงแบบ ‘The Great Tech Layoff’ มันไม่ได้ทำกันง่ายๆ แต่มองอีกด้านนี่คือความยืดหยุ่นทางธุรกิจของฝั่งอเมริกา ที่ทำให้บริษัทเทคโนโลยีเลือกจะปักหลักบริษัทอยู่ฝั่งอเมริกาเช่นกัน เพราะไล่คนออกแล้วเอาเทคโนโลยีมาแทนที่ได้ง่ายกว่า

ทั้งนี้ถ้าใครตามตลาดหุ้นก็จะเห็นว่าในขณะที่ข่าวแรงงาน คนตกงานกันรัวๆ แต่หุ้นบริษัทเทคโนโลยีต่างๆ กลับขึ้นรัวๆ เพราะจากมุมของตลาดหุ้น การไล่คนออกมันคือการลดต้นทุน และคือการ ‘เพิ่มกำไร’ แบบที่บริษัทไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเลย

อย่างไรก็ตาม การไล่คนออกรัวๆ มันเป็นเพราะเหล่าผู้บริหารเชื่อว่า AI ทำงานแทนพนักงานได้จริง และว่ากันตรงๆ ถ้าบริษัทที่ผลิต AI มาขายเอง ไม่เชื่อแบบนี้ และทำให้บริษัทอื่นเห็น ใครมันจะเชื่อ

แต่ทั้งหมดมันกลับมาที่ชะตากรรมของคนGen Z ฝั่งผู้ชายที่เข้ามาในตลาดแรงงานแบบงงจัดๆ ว่าจะคาดหวังอะไรกับชีวิตดี เพราะเส้นทางอาชีพที่ทำแล้วหวังรวยเร็วเกษียณเร็วแบบคนGen Y นั้นปิดไปเยอะแล้ว ครั้นจะไปทำงานแบบ ‘ใช้แรงงาน’ แบบช่างทั้งหลาย ถึงทำได้ก็ไม่ค่อยเห็นอนาคตตัวเองไกลๆ

นี่น่าจะเป็นยุคสมัยที่คนจะตั้งตัวกันยากลำบากขึ้นมาก และก็ไม่น่าแปลกใจเช่นกันที่คนรุ่นใหม่จะหมกมุ่นอยู่กับการ ‘รวยทางลัด’ ยิ่งกว่ายุคใดๆ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก BrandThink

POP: ยิ่งแปลก ยิ่งเท่! เทรนด์ ‘Ugly Shoes’ หรือ ‘รองเท้าหน้าตาประหลาด’ ปลดล็อกแฟชั่นยุคใหม่ ไม่สวยไม่เป็นไร แต่ขอให้กล้าใส่สิ่งที่เป็นตัวเอง!

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

MIND: ผลสำรวจชี้ ที่เด็กติดมือถือ ส่วนหนึ่งก็เพราะ พ่อแม่มีความวิตกกังวลเกินไป จนไม่ปล่อยให้ลูกได้เล่น ‘แบบอิสระ’

7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

ราคาทองคำวันนี้ (15 ส.ค. 68) เปลี่ยนแปลงทั้งหมด 7 ครั้ง ราคาทองปรับลง 150

AEC10NEWs

พรอสเพค ปลื้มQ2 อัตราเช่าทะยานกว่า 97% ครึ่งปีแรกจ่ายปันผล 39 สต. จ่อขออนุมัติลงทุนเพิ่ม

MATICHON ONLINE

เทขายทองคำโลก หลุด 3,340 ดอลล์ เงินเฟ้อสหรัฐพุ่งแรง | คุยกับบัญชา | 15 ส.ค. 68

BTimes

ฟิทช์ปรับเพิ่มอันดับเครดิตซีไอเอ็มบี ไทย เป็น ‘AA(tha)’ โน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

Manager Online

“ไทย” รับสินค้า “จีน” ส่งออกสหรัฐฯ กดอุตฯ ผลิตทรุด

อีจัน

เงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง-หุ้นไทยลดลง 7.25 จุด

JS100

กลุ่มบริษัทอายิโนะโมะโต๊ะ ส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีทั่วอาเซียน ประกาศเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ การแข่งขันซีเกมส์และอาเซียนพาราเกมส์ ปี 2025

Positioningmag

Casio เปิดตัวนาฬิกา G-SHOCK ซีรีส์ใหม่ เติมสีสันแห่งไลฟ์สไตล์ผสานความแกร่งระดับตำนาน

Positioningmag

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...