กสทช. ออกมาตรการ Liveness Detection กันสวมรอยซิม
กสทช. ออกมาตรการให้ใช้เทคโนโลยี Liveness Detection ป้องกันสวมรอยลงทะเบียนซิม 18 ส.ค. 2568 ทั่วประเทศ
วันที่ 15 สิงหาคม 2568พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า สำนักงาน กสทช. เดินหน้ามาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและเพิ่มความปลอดภัยในการใช้บริการโทรศัพท์มือถือ ด้วยการนำเทคโนโลยี Liveness Detection มาตรวจสอบตัวตนแบบเรียลไทม์ ในขั้นตอนลงทะเบียนซิมการ์ด
เพื่อป้องกันการสวมรอย ลดความเสี่ยงจากการฉ้อโกง และการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล โดยมาตรการนี้ครอบคลุมผู้ใช้บริการรายใหม่ (ทั้งระบบเติมเงินและรายเดือน) และผู้ใช้เดิมที่เปลี่ยนซิมแต่ใช้หมายเลขเดิม เริ่มใช้งาน 18 สิงหาคม 2568 ทั่วประเทศ
สำหรับ เทคโนโลยี Liveness Detection เป็นเทคโนโลยีตรวจสอบว่าผู้ยืนยันตัวตนเป็นบุคคลจริง ไม่ใช่ภาพถ่าย วิดีโอ หรือหน้ากาก 3 มิติ โดยระบบสแกนใบหน้าจะขอให้ผู้ใช้กระพริบตา หรือหยุดนิ่ง คล้ายการยืนยันตัวตนในแอปพลิเคชันธนาคาร ซึ่งต่างจากวิธีเดิมที่เพียงถ่ายรูปก็สามารถลงทะเบียนได้ ทำให้มิจฉาชีพใช้ภาพหรือวิดีโอบุคคลอื่นมาสวมรอย
พล.ต.อ.ณัฐธร กล่าวว่า ผู้ใช้บริการสามารถลงทะเบียนและยืนยันตัวตนด้วยตนเองผ่านแอปพลิเคชันของผู้ให้บริการค่ายมือถือ ศูนย์บริการ รวมถึงร้านค้าตัวแทนจำหน่ายและร้านค้าย่อยทั่วประเทศ โดยผู้ให้บริการต้องเก็บข้อมูลอย่างปลอดภัยสูงสุด ตามข้อกำหนดของ กสทช. สำนักงาน กสทช. และ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยเอกสารในการลงทะเบียนให้ใช้ฉบับจริงที่ยังไม่หมดอายุแบ่งตามกลุ่มผู้ใช้บริการ ดังนี้
- บุคคลสัญชาติไทย: บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริง
- บุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทย: หนังสือเดินทาง (Passport) ฉบับจริง
- กรณีนิติบุคคล: หนังสือรับรองนิติบุคคล และเอกสารแสดงตนของผู้มีอำนาจ
“กสทช. ให้ความสำคัญกับการปกป้องสิทธิของผู้บริโภค และยกระดับความมั่นใจในการใช้บริการโทรคมนาคม มาตรการนี้จะช่วยลดความเสี่ยงจากภัยไซเบอร์และอาชญากรรมที่ใช้หมายเลขโทรศัพท์เป็นเครื่องมือ จึงขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการปฏิบัติตามขั้นตอน เพื่อสร้างสังคมดิจิทัลที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้” พล.ต.อ.ณัฐธร กล่าว