รวบขบวนการ แอปฯเงินกู้เถื่อน ดอกเบี้ยร้อยละ 3,474 ต่อปี

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผกก.5 บก.ปอศ., พ.ต.ท.พิทยา คงเจริญ, พ.ต.ท.ภาคิน สุขพรหม และ พ.ต.ท.หญิง สินีนาฏ เชิดชูตระกูลทอง รอง ผกก.5 บก.ปอศ.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ท.สุทธิพงษ์ มอญรัต สว.กก.5 บก.ปอศ., ร.ต.อ.ศิระศักดิ์ ธนาวิบูลย์กุล รอง สว.กก.5บก.ปอศ., ด.ต.ชัยวัฒน์ เขียวอิ่ม, ด.ต.อติกันต์ เปรมสุข, ด.ต.ศุภชัย เอกจีน, ด.ต.คัมคุณ บุญครอบ, จ.ส.ต.เจษา สายติ๊บ, จ.ส.ต.ธีระเดช ลำสมุทร, จ.ส.ต.บรรเจิด คำเหลื่อม, ส.ต.อ.อธิเบศร์ พรหมสิทธิ์ ผบ.กก.5 บก.ปอศ.
ร่วมกันจับกุม นายนรินทร์ฯ อายุ 37 ปี บุคคลตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี เลขที่ จ.891/2568 ลงวันที่ 24 มิถุนายน 2568 และหมายจับศาลอาญามีนบุรี เลขที่ จ.893/2568 ลงวันที่ 24 มิถุนายน 2568
ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับโดยไม่ได้รับ อนุญาต และเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด”

สถานที่จับกุม บริเวณริมถนน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พฤติการณ์ เมื่อประมาณปลายปี 2567 มีผู้เสียหายหลายรายได้ร้องเรียนผ่านศูนย์ป้องกันปราบปราม การกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ (ศปน.ตร.) ว่าได้กู้ยืมเงินกับแอปพลิเคชันเงินกู้เถื่อนชื่อ New Wallet เจ้าหน้าที่ตำรวจกอง กก.5 บก.ปอศ. จึงทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง และสอบปากคำผู้เสียหาย จนทราบว่าแอปพลิเคชันเงินกู้เถื่อน New Wallet หากจะทำการกู้ยืมเงินได้ จะต้องยินยอมให้เข้าถึงข้อมูล ส่วนบุคคลในโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย โดยหากผู้เสียหายกู้ยืมเงินจะมีค่าดำเนินการ และค่าเอกสาร ซึ่งจะต้องจ่ายดอกเบี้ยทุกวัน ซึ่งคิดคำนวณเป็นอัตราดอกเบี้ยได้กว่าร้อยละ 3,474.80 ต่อปี และหากผิดนัด ชำระหนี้ จะมีคนโทรศัพท์มาทวงถามหนี้กับทางผู้เสียหาย และบุคคลใกล้ชิด จนทำให้ผู้เสียหายเดือดร้อนมาก จึงมาแจ้งความต่อ กก.5 บก.ปอศ. เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมาเดือน มิ.ย. 2568 พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนสืบสวนจนสามารถขออนุมัติต่อศาล ออกหมายจับนายนรินทร์ฯ และกลุ่มขบวนการอีกหลายราย ตรวจสอบข้อมูลประวัติอาชญากรรมของ นายนรินทร์ฯ พบว่า มีประวัติเคยถูกดำเนินคดี เสพ ผลิต จำหน่ายยาเสพติด และคดีอื่นๆ อีกกว่า 6 คดี และเพิ่งพ้นโทษจำคุกออกมา เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนจึงเฝ้าติดตามสะกดรอยหาข้อมูลเพื่อจับกุมผู้ต้องหา
ต่อมาตามวันและเวลาที่จับกุม

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบสวนทราบจากสายลับว่านายนรินทร์ฯ พักอาศัยอยู่บ้านแห่งหนึ่งในอำเภอบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เข้าไปเฝ้า สะกดรอย จนพบเห็นนายนรินทร์ฯกำลังวิ่งออกจากบ้านเตรียมจะขับรถจักรยานยนต์หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงขับรถยนต์ติดตาม และแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจและแสดงความบริสุทธิ์ใจ จนเป็นที่พอใจแก่ นายนรินทร์ฯ แล้วตรวจค้นตัวและรถจักรยานยนต์พร้อมแสดงหมายจับดังกล่าวข้างต้นให้ นายนรินทร์ฯ ดู โดย นรินทร์ฯ ยืนยันว่าตนเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และยังไม่เคยถูกจับดำเนินคดี ตามหมายจับนี้มาก่อน พร้อมกับยอมรับว่าตนเองมีหมายจับ เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งสิทธิของผู้ต้องหาให้ นายนรินทร์ฯ ทราบและนำตัวผู้ต้องหานำส่ง พงส.กก.5 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ฝากเตือนภัยถึงพี่น้องประชาชน ถึงแอปพลิเคชันเงินกู้เถื่อนจึงขอแนะนำ 4 วิธี ในการป้องกันตนเองจากมิจฉาชีพที่แอบแฝงมาในแอปฯ เงินกู้ ดังนี้
1. ตรวจสอบแอพพลิเคชั่นเงินกู้ว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
2. ไม่ควรยินยอมให้แอพพลิเคชั่นเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวในโทรศัพท์
3. หลีกเลี่ยงการกดลิงก์ที่ไม่ทราบแหล่งที่มาโดยเด็ดขาด
4. ควรอ่านรายละเอียดข้อตกลงและเงื่อนไขในการทำสัญญาให้ดีก่อนทุกครั้ง
5. หากการกู้ยืมใด ที่ต้องโอนค่ามัดจำ ให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจเป็นการหลอกลวง
ทั้งนี้ หากการกู้ยืมใด ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือเกินกว่าร้อยละ 15 ต่อปี หรือมีเงื่อนไขการกู้ยืมที่ไม่เป็นธรรม ท่านไม่ควรยอมรับเงื่อนไขการกู้ยืมเงินนั้นๆ เพราะเพียงแค่กดปุ่มยอมรับ แค่ครั้งเดียว อาจทำให้ท่านเสียเงิน แถมตกเป็นหนี้ได้โดยไม่รู้ตัว สำหรับประชาชนท่านใดที่มีเบาะเเส เกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สามารถเเจ้งเข้ามาได้ที่ ศปน.ตร. หรือสายด่วน 1599
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ท.สุทธิพงษ์ มอญรัต สว.กก.5บก.ปอศ.
โทร. 092-2277789
“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน
ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด
ดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”