3 โบรกฯ คาดแนวโน้มหุ้นบ่าย แนะกลยุทธ์การลงทุน
#ทันหุ้น-บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า จีนเตือนสหรัฐฯ อย่าจุดชนวนสงครามการค้ารอบใหม่ และเรียกร้องชาติพันธมิตร ไม่สนับสนุนแนวทางภาษีนำเข้าของทรัมป์ อาจจะทำให้การเจรจาการค้าไม่จบง่ายๆ ขณะที่อุตสาหกรรมไทยที่โดนผลกระทบโดยตรง คืออาหารแปรรูป สินค้าเกษตร ยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สิ่งทอ อัญมณีเหล็กและอะลูมิเนียม ธุรกิจเครื่องจักรและเครื่องใช้ไฟฟ้าได้รับผลกระทบหนักสุด เพราะมีสัดส่วนการส่งออกไปสหรัฐฯ สูงถึง 60% ดังนั้นหากเจรจราไม่สำเร็จและถูกเก็บภาษีที่ 36% ตามเดิม จะสร้างมูลค่าความเสียหายต่อการส่งออกไทยประมาณ 8-9 แสนลบ. ฉุด GDP ในปีนี้ของไทยอาจหดตัวลงเหลือเพียง 1.3% -2.3%
-จับตาเฟด คืนนี้ รายงานการประชุมรอบ 17-18 มิ. ย. หลังเฟดห่วงเงินเฟ้อพุ่ง หากเงินเฟ้อไม่ลดลงอย่างชัดเจน ลู่ทางในการลงดอกเบี้ยของเฟด จะยากมากขึ้น 15 ก.ค. นี้ติดตามเงินเฟ้อเดือน มิ.ย. ของสหรัฐฯConsensus คาดจะเพิ่มขึ้น 2.6%YoY (พ.ค. 2.4%) และ Core CPI จะเพิ่มขึ้น 3%YoY (พ.ค. 2.8%) เนื่องจากเฟดยังคงใช้แนวทาง “Data Dependent” คือ รอดูข้อมูลเศรษฐกิจก่อนตัดสินใจ บวกกับความเสี่ยง Stagflation(เงินเฟ้อสูง + เศรษฐกิจชะลอ) ทำให้ Fed ต้องระวังมากขึ้น ส่งผลให้การลดดอกเบี้ยรอบ ก.ย. อาจถูกลดน้ำหนักลงโดย Fed Watch Tool ชี้มีโอกาส 62% ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ย 25 bps.
-ครม.มีมติถอนร่าง พ.ร.บ. Entertainment Complex จากการพิจารณาในสภา (เดิมเสนอ 9 ก.ค.) เนื่องจากเสียงคัดค้านจากสังคม และความเสี่ยงถูกโหวตคว่ำจากรัฐบาลเสียงปริ่ม เป็น Sentiment ลบต่อธุรกิจโรงแรมรวมทั้งกลุ่มค้าปลีกทางอ้อม
-นโยบาย “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” เริ่มใช้ 1 ต.ค. 2568 ครอบคลุม 13 เส้นทาง ระยะทางรวม 279.84 กม. 194 สถานี เปิดลงทะเบียนผ่านแอป “ทางรัฐ” ส.ค. นี้ พร้อมตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาซื้อคืนสัมปทาน และจัดตั้งกองทุนอุดหนุน คาดใช้งบ 7–8 พันลบ. ต่อปีช่วยลดค่าครองชีพ เพิ่มกำลังซื้อช่วง GDP โตต่ำ (1.8%-2%) บวกต่อหุ้น BTS และ BEM (คาดจะมีการชดเชยครอบคลุมต้นทุน) ส่วนหุ้น AP, SPALI, SIRI, LH และ ORI อาจได้อานิสงส์เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากความต้องการที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้า โดยเฉพาะพื้นที่รอบนอก
-SET INDEX บ่ายนี้คาดวิ่งในกรอบแคบระหว่าง 1,105-1,120 จุด
บล.เอเอสแอล ระบุว่าดัชนีช่วงเช้าปรับตัวออกข้างอิงทางลบ รับปัจจัยต่างประเทศหลังทรัมป์ยืนยันว่าสหรัฐจะไม่ขยายเส้นตายในการบังคับใช้อัตราภาษีศุลกากรใหม่ที่กำหนดไว้ในวันที่ 1 ส.ค.นี้ โดยหากสหรัฐบังคับใช้ภาษีศุลกากรตอบโตในอัตรา 36% ตามที่แจ้งไว้ ซึ่งอาจจะกระทบต่ออุตสาหกรรมส่งออกโดยกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่อาหารแปรรูป ยานยนต์และชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์
ปัจจัยในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือธปท. คาดจีดีพีครึ่งปีหลังโตชะลอเหลือ 1.6% รับผลกระทบจากนโยบายภาษี , ม.หอการค้าไทยเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน มิ.ย.อยู่ที่ระดับ 52.7 ลดลงจากเดือนก่อนที่ 54.2 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และต่ำสุดในรอบ 28 เดือนจากความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพรัฐบาลและการเมืองไทย
กลยุทธ์การลงทุน ดัชนีปรับตัวออกอิงทางลบ ระยะสั้นมีแนวรับหลักที่ 1,100 จุด ต่ำกว่ามีเป็นการเปิด Downside risk ส่วนแนวต้านที่ 1,120/1,130 จุด
บล.โกลเบล็ก คาดดัชนีเคลื่อนไหว Sideway เนื่องจากนักลงทุนรอผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและไทยก่อนเข้าลงทุน อีกทั้งการเมืองในประเทศยังมีความไม่แน่นอน ในช่วงบ่ายดัชนีมีแนวรับ 1,105 จุด ส่วนแนวต้าน 1,120 จุด
ขณะที่ภาวะตลาดหุ้นภาคเช้าดัชนีเคลื่อนไหวผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังคงจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและไทย ขณะที่มีแรงกดดันจาก ธปท. คาดเศรษฐกิจช่วงครึ่งหลังปีนี้ ชะลอตัวเหลือ 1.6% จากผลกระทบของมาตรการภาษีสหรัฐมีแรงขายนำโดยหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และค้าปลีกมีแรงซื้อนำโดยหุ้นกลุ่มขนส่ง ส่งผลให้ดัชนีพักเที่ยงปิดตลาดที่ 1,111.60 จุด ลบ 4.05 จุด หรือ 0.36% มูลค่าการซื้อขาย 16,054.64 ล้านบาท
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้