จับได้ยกแก๊ง! อุ้มสาวเรียกค่าไถ่ 1 แสน ปมแฟนกู้เงินไม่จ่าย
เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 2 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 9 นำโดย พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ และ พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล รอง ผบก.สส.ภ.9 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วย รวมถึงชุดปฏิบัติการพิเศษศรีตรัง ได้สนธิกำลังเข้าจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาคดีอุ้มเรียกค่าไถ่หญิงสาววัย 18 ปี บริเวณจุดตรวจความมั่นคงทุ่งนุ้ย ถนนยนตรการกำธร ต.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง จ.สตูล เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับรถยนต์ต้องสงสัยได้ 2 คัน พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหา 4 ราย ได้แก่ นายประทีป หรือหลง บุญขวัญ อายุ 45 ปี, นายโชคชัย หรือบ่าว ศรีวิลัย อายุ 34 ปีล นายศิลา หรือโจ้ เครือหอม อายุ 30 ปี, นายวรนน หรือหมื่น บุญมะโน อายุ 35 ปี พร้อมของกลางรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีขาว ทะเบียน กม 5968 เพชรบุรี และรถเก๋งนิสสัน มาส สีดำ ทะเบียน ขอ 1349 สงขลา
ภายในรถยนต์คันหนึ่ง เจ้าหน้าที่พบหญิงสาวผู้เสียหายที่ถูกลักพาตัวมาจริง นั่งอยู่เบาะหลัง โดยมีนายโชคชัยเป็นผู้ขับขี่ และนายประทีป นั่งข้างคนขับ เจ้าหน้าที่จึงรีบเข้าช่วยเหลือ ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปสอบสวน
สืบเนื่องจากเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 1 ส.ค. เวลาประมาณ 13.37 น. สภ.สิเกา จ.ตรัง ได้รับแจ้งเหตุหญิงสาวอายุ 18 ปี ถูกชาย 4 คน อุ้มตัวไปจากบ้าน โดยใช้รถยนต์ 2 คัน พาผู้เสียหายไปกักขังยังขนำในสวนปาล์ม บนภูเขาใน อ.มะนัง จ.สตูล ก่อนที่คนร้ายจะโทรศัพท์ไปหานายชิน (นามสมมุติ) แฟนหนุ่มของผู้เสียหาย เรียกเงินค่าไถ่ 100,000 บาท พร้อมข่มขู่ว่าหากไม่โอนภายในเที่ยงคืนจะสังหารผู้เสียหายแล้วนำศพไปฝัง ด้วยความหวาดกลัว นายชินยอมโอนเงินจำนวน 50,000 บาท เพื่อขอผ่อนผัน และตกลงว่าจะชำระที่เหลือภายหลัง ก่อนที่คนร้ายจะนัดปล่อยตัวหญิงสาวที่ จ.พัทลุง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของแผนสกัดจับ ที่นำไปสู่ความสำเร็จในการช่วยเหลือผู้เสียหายอย่างปลอดภัย
จากการสอบสวนพบว่า สาเหตุของการลักพาตัวครั้งนี้ มาจากปมเงินกู้นอกระบบ ที่นายชินไปกู้ยืมเป็นเงิน 250,000 บาท เมื่อปีก่อน พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน โดยช่วงที่ผ่านมา ไม่ได้ชำระดอกเบี้ย ทำให้กลุ่มผู้ปล่อยกู้ส่งทีมตามทวงหนี้และลงมือก่อเหตุ
ที่น่าตกใจคือ หนึ่งในผู้ต้องหา นายประทีป หรือหลง บุญขวัญ ปรากฏว่ามีหมายจับศาลจังหวัดสงขลา ในข้อหา "ปล้นทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธ" เมื่อปี 2565 และเป็นผู้ต้องหาในลำดับที่ 185 ของทำเนียบมือปืนที่ตำรวจต้องการตัว นอกจากนี้ ยังพัวพันคดีอุ้มรีดไถในหลายจังหวัดทั่วภาคใต้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาหนักหลายกระทง อาทิ ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ เรียกค่าไถ่ มีและพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต
พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อผู้ต้องหาตามหมายจับเดิม ทั้งหมดให้การปฏิเสธ ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด