ห่วงไฟไหม้โรงงานทิชชูสระบุรี “เอกนัฏ” ส่งทีมร่วมตรวจสอบ กำชับเร่งหาผู้สูญหาย
“เอกนัฏ” ห่วงไฟไหม้โรงงานทิชชู จ.สระบุรี ส่งทีมสุดซอย ร่วมตรวจสอบ สั่งปิดโรงงานจี้หาสาเหตุเพลิงไหม้ กำชับเร่งเยียวยาผู้บาดเจ็บ-ผู้เสียชีวิต และค้นหาผู้สูญหาย ย้ำดูแลผลกระทบกับชุมชนและประชาชน
วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และหัวหน้าชุดตรวจการณ์สุดซอย หรือทีมสุดซอย กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับนายสุนทร แก้วสว่าง รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ลงพื้นที่บริษัท ริเวอร์โปร์ พัลพ แอนด์ เพเพอร์ จำกัด ตั้งอยู่ในเขตประกอบการอุตสาหกรรม WHA อ.หนองแค จ.สระบุรี หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ โดยกำชับให้ตรวจสอบหาสาเหตุ หากพบความผิดปกติเกี่ยวกับการประกอบอุตสาหกรรมให้ดำเนินการตามกฎหมายทันที พร้อมเร่งให้ดูแลในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อลดผลกระทบที่เกิดกับชุมชนและประชาชนให้เร็วที่สุด รวมถึงฝากผู้ประกอบการเยียวยาพนักงานทั้งผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตอย่างเหมาะสม
นางสาวฐิติภัสร์ กล่าวว่า ทีมสุดซอยลงพื้นที่โรงงานที่เกิดเหตุไฟไหม้ ซึ่งประกอบกิจการผลิตกระดาษอนามัย กระดาษทิชชู มีคนงานรวมกว่า 390 คน ซึ่งเหตุเพลิงไหม้เริ่มเกิดเหตุเมื่อวานนี้ (30 มิถุนายน 2568) ช่วงเวลา 11.30 น. โดยเพลิงเริ่มจากบริเวณที่เก็บกองวัตถุดิบ เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้เมื่อเวลา 22.00 น. แต่ยังมีบางจุดที่ยังเกิดเหตุเพลิงไหม้สะสมต่อเนื่องจนถึงช่วงสายของวันนี้ เนื่องจากในโรงงานใช้วัตถุดิบกระดาษเป็นหลักและมีอยู่เป็นจำนวนมาก กระดาษทำให้ติดไฟได้ง่าย เพลิงจึงลุกไหม้และกระจายตัวเร็ว
จากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่าเกิดความเสียหายอาคารประมาณ 80% มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 22 ราย ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 4 ราย โดยมีผู้เสียชีวิต 8 ราย และสูญหาย 2 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังทำการค้นหาผู้สูญหาย ซึ่งต้องปฏิบัติอย่างปลอดภัย เนื่องจากเหตุเพลิงไหม้มีระยะเวลายาวนานทำให้ตัวอาคารและโครงสร้างยุบตัวลงมา
ด้านอุตสาหกรรมจังหวัดสระบุรี ได้ออกคำสั่งปิดโรงงานชั่วคราวเพื่อความปลอดภัยแก่เจ้าหน้าที่ พนักงาน และชาวบ้านใกล้เคียง และให้โรงงานดำเนินการแก้ไขปรับปรุงโรงงานให้เป็นไปตามที่ พ.ร.บ.โรงงาน กำหนด โดยเฉพาะด้านความปลอดภัยระบบป้องกันอัคคีภัย และให้โรงงานเสนอแผนการปรับปรุง การกำจัดกากอุตสาหกรรมภายในโรงงานทั้งหมดมายังอุตสาหกรรมจังหวัดสระบุรี เพื่อทำการติดตามตรวจสอบว่าถูกต้องและเป็นไปตามแผนที่เสนอมาอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ อุตสาหกรรมจังหวัดสระบุรี ยังจะเร่งสำรวจโรงงานในพื้นที่ใกล้เคียงที่มีลักษณะความเสี่ยงในการเกิดเหตุอัคคีภัยทั้งหมด เพื่อตรวจสอบระบบป้องกันอัคคีภัย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก
“รัฐมนตรีเอกนัฏ เน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ พนักงาน และชาวบ้านใกล้เคียงอย่างยิ่ง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง เบื้องต้นได้เร่งให้ทางผู้ประกอบการดูแลเรื่องการเยียวยาผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตก่อน และให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งหาผู้สูญหาย พร้อมเน้นย้ำการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ต้องปลอดภัยด้วย”
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath