โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

“โรม" แนะต้องให้ฑูต ตปท. เข้าไปสังเกตการณ์พื้นที่ ให้ประชาคมโลกเห็นความรุนแรงของ "กัมพูชา"

THE ROOM 44 CHANNEL

เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว

“โรม" แนะต้องให้ฑูต ตปท. เข้าไปสังเกตการณ์พื้นที่ เพื่อให้ประชาคมโลกเห็นความรุนแรงของ "กัมพูชา" และเพื่อบอกว่าไม่ได้รังแกกัมพูชาฝ่ายเดียว บอกถ้ากต. ทำหน้าที่ได้ดีกว่านี้ อาจบรรเทาความรุนแรงลงได้

วันที่ 24 ก.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส. รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐาะนประธานกรรมาธิการความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา ที่รุนแรงมากขึ้น กรรมาธิการจะมีการปรับเปลี่ยนในที่ประชุมอย่่างไรบ้าง ว่า ตนอยากใช้โอกาสนี้ในการประณามรัฐบาลกัมพูชาตนคิดว่าพฤติกรรมของกัมพูชาไม่ว่าจะเป็นการยั่วยุ การใช้ความรุนแรง การละเมิดอนุสัญญาออตตาวาาโดยใช้กับดักระเบิดซึ่งเป็นอาวุธที่ไม่ควรที่จะมีการใช้กัน ตนคิดว่าพฤติกรรมเหล่านี้เป็นพฤติกรรมก้าวร้าวเป็นพฤติกรรมที่เรายอมรับไม่ได้ดังนั้นประเทศไทยต้องประนามการกระทำของรัฐบาลกัมพูชา

ซึ่งตนเชื่อทางรัฐบาลกัมพูชาจะต้องมีส่วนรู้เห็นกับการกระทำนี้อย่างแน่นอนตนคิดว่ากัมพูชาควรเข้าใจมากกว่าหลายๆประเทศด้วยว่าความร้ายแรง กับระเบิดเป็นอย่างไรเพราะชาวบ้านกัมพูชาได้รับความสูญเสียในเรื่องของกับดักระเบิดมาเป็นเวลานานและกัมพูชาเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบเรื่องนี้มากที่สุด แต่กลับใช้พฤติกรรมแบบนี้กับฝ่ายไทย

มองว่าการที่จะพูดคุยเจรจาเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายและทางฝ่ายไทยคงจะจะต้องมีการตอบโต้เรื่องนี้อย่างเหมาะสมต่อไป ตนคิดว่าเบื้องต้นสิ่งที่ทางฝ่ายไทยสามารถดำเนินการได้ หลังจากที่เรามีการชี้แจงต่อฑูตทหารของหลายๆประเทศ เรื่องที่เราสามารถทำได้ในทันที่เพื่อให้โลกได้เห็นพฤติกรรมของกัมพูชาคืออาจจะจำเป็นที่จะต้องมีการสังเกตการณ์สถานการณ์ โดยเชิญฑูตจากประเทศต่างๆ ไปสังเกตสถานการณ์และตนมองว่าโลกต้องเห็นอย่างเต็มที่และมีข้อมูลที่เตรียมพร้อมว่า กัมพูชามีความก้าวร้าวเพื่อที่จะยั่วยุสถานการณ์ให้บานปลายมากยิ่งขึ้น

นายรังสิมันต์ยังกล่าวอีกว่า กระทรวงการต่างประเทศต้องทำงานในเชิงรุกมากกว่านี้การที่จะไปรอเดือนธันวาคมเพื่อไปหารือตามแนวทางของอนุสัญญาออตตาวาคิดว่าเป็นสิ่งที่ช้าเกินไป มากไปกว่านี้คือการเสนอต่อ สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชนติ (UNGA) ซึ่งเป็นเวทีสำคัญเพื่อที่จะให้ได้เห็นว่ากัมพูชามีการละเมิดกฏหมายระหว่างประเทศ

ซึ่งตนได้หารือกับนางปทิตา ตันติรัตนานนท์ สส.สุรินทร์ พรรคประชาชน ที่อยู่บริเวณช่องจอม พบว่ามีการยิงปืนใหญ่ทำให้สถานการณ์บานปลายสิ่งที่ตนเป็นห่วงมากที่สุดคือประชาชนตามแนวชายแดนที่ได้รับผลกระทบและเราต้องมีการเตรียมความพร้อม โดยเบื้องต้นมีทราบว่าการซักซ้อมในพื้นที่จนเชื่อว่าระดับพื้นที่มีความพร้อม แต่ไม่รู้ว่าสถานการณ์เลวร้ายแบบนี้ไปนานแค่ไหน จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเตรียมทุกความเป็นไปได้เพื่อที่จะให้มั่นใจว่าประชาชนทั่วๆไปที่อยู่ในพื้นที่และประชาชนผู้บริสุทธิ์ไม่สมควรที่จะได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ ถ้าจะมีวิธีการรองรับให้ได้ก็ต้องมีวิธีการรองรับให้ได้มากที่สุดโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ที่ต้องมีมาตรการในการรองรับ ตนอยากฝากถึงรัฐบาลว่าเมื่อมีการประทะการทางอาวุธเกิดขึ้นกลุ่มเปราะบางทั่วไปควรที่จะได้รับความปลอดภัย

นายรังสิมันต์ ยังกล่าวอีกว่าในการประชุมกรรมธิการวันนี้ซึ่งใช้อำนาจเรียกนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และนายมาริส เสงี่ยมพงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งตนเข้าใจว่าบุคคลเหล่านี้อาจมีภารกิจที่มีความจำเป็นในการแก้ไขสถานการณ์ความรุนแรง แต่บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องก็ต้องฟังว่าสาเหตุอะไรที่ไม่ได้มาชี้แจงกรรมาธิการวันนี้

"วันนี้เรื่องคลิปเสียงทำให้ระดับรัฐบาลคุยกันไม่ได้แล้ว เราต้องยอมรับว่าผู้นำทั้งสองคนอาจจะมีปัญหาเรื่องส่วนตัวกันหรือเปล่าไม่รู้มีปัญหาเรื่องขัดกันของผลประโยชน์หรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายมากขึ้นทำให้ลูกชาวบ้านทั่วๆไปอาจจะได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งเรื่องนี้ สถานการณ์เลวร้ายที่ดูทีท่าว่าจะไม่มีทางออกก็ต้องยอมรับว่าบุคคลเหล่านั้นก็ต้องรับผิดชอบ“ นายรังสิมันต์กล่าว

นายรังสิมันต์ยังกล่าวอีกว่า อยากฝากถึงกระทรวงการต่างประเทศว่าถ้าทำหน้าที่ได้ดีมากๆ ตนเชื่อว่าจะลดโอกาสของความขัดแย้งในระดับสูงให้ลดลงมาซึ่งอาจจะไม่ได้การันตี ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่อย่างน้อยถ้ามีเครื่องมืออื่นที่มีประสิทธิภาพการใช้อาวุธก็อาจจะถูกลดการให้ความสำคัญลงมา ตนคิดว่าไทยควรจะตอบโต้ในสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ตนก็ไม่อยากให้ลุกลามบานปลายจนนำไปสู่การสูญเสียใดๆ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าสถานการณ์ตอนนี้ต้องออกมาเพราะเหมือนการเจรจาไม่ได้แล้วนั้นมีข้อเสนอแนะในเรื่องนี้อย่างไร นายรังสิมันต์กล่าวว่าการเชิญนักการทูตไปที่สถานการณ์ในพื้นที่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดในเมื่อเราคุยกับกัมพูชาไม่ได้ก็ไม่เป็นไรเพราะเราสามารถคุยกับประชาคมโลกได้ ตนคิดว่าการพูดคุยกับหลายหลายประเทศมีมีความจำเป็นและต้องไล่สถานการณ์จากเบาไปหาหนัก พร้อมกับการที่จะมีวิธีการรองรับในเรื่องของการทำอย่างไรไม่ให้พลเรือนได้รับผลกระทบตนคิดว่ามีความจำเป็น ส่วนสถานการณ์จะไปทางไหนตอนนี้ยังตอบไม่ได้ เพราะกัมพูชานั้นก็ยังมีการยั่วยุและการใช้ความรุนแรงอยู่ รวมถึงท่าทีของสมเด็จฮุนเซน พร้อมทำทุกอย่างโดยที่ไม่ได้เลือกวิธีการ เมื่อเป็นแบบนี้ก็ต้องยอมรับว่าการพูดคุยกับสมเด็จฮุนเซนเพื่อให้เกิดความเข้าใจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การคุยกับประเทศต่างๆและคุยกับฑูตก็ยังเป็นความสำคัญสูงสุด

เมื่อถามว่าที่ผ่านมากัมพูชา มีการยั่วยุมาตลอด นายรังสิมันต์เผยว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่เราจะไม่ตอบโต้อะไรเลยเราต้อง ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาเพราะกัมพูชาต้องการให้เราไปศาลโลก เมื่อมีการขัดกันเกิดขึ้นก็มีโอกาสที่เราจะไปศาลโลกแต่เมื่อสถานการณ์ทหารได้รับบาดเจ็บซึ่งตน ขอแสดงความเสียใจไปยังผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่มองว่าควรที่จะมีการตอบโต้กลับไปและยืนยันกับประชาคมโลกว่าเราไม่ได้รังแกกัมพูชาแต่เพราะกัมพูชามีพฤติกรรมที่ก้าวร้าว มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมละเมิดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ เมื่อเป็นแบบนี้การสื่อสารของประเทศไทยต่อเวทีนานาชาติก็เป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งตนจึงต้องบอกกับสื่อมวลชนว่าวันนี้กระทรวงการต่างประเทศต้องทำงานให้เร็วกว่านี้และต้องใช้ทุกๆโอกาสเพื่อสร้างความเข้าใจระหว่างประเทศว่ากัมพูชาเป็นประเทศที่ต้องการความขัดแย้ง รวมถึงการที่จะให้ทูตเห็นสถานการณ์หน้างานเพราะเราสามารถจัดการอย่างเหมาะสมได้โดยไม่ก้าวก่ายในเรื่องการทำงานของความมั่นคงแต่ขณะเดียวกันเป็นการทำให้ฝ่ายความมั่นคงทั่วโลกเข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ตนคิดว่าสิ่งสำคัญระดับแรกคือจะทำอย่างไรให้ทั่วโลกเข้าใจว่าประเทศไทยไม่ได้ต้องการความขัดแย้งแต่เป็นกัมพูชาที่ต้องการความขัดแย้ง และคิดว่าเป็นการมอบโอกาสหลายหลายอย่างที่จะทำให้ประเทศไทยสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ ส่วนมากมาตรการเรื่องคอลเซ็นเตอร์หรือเรื่องอื่นๆคิดว่ารัฐบาลควรจะกระตุ้นให้มากกว่านี้ แต่ขณะเดียวกันเราต้องตอบโต้สถานการณ์ภัยคุกคามที่เกิดขึ้นจากกัมพูชาและต้องยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอีกเพียงนิดเดียวจะเป็นการก่อการร้ายแล้ว คิดว่าเป็นพฤติกรรมที่แย่มากคงต้องประณาม

เมื่อถามย้ำว่ายาแรงเรื่องคอลเซ็นเตอร์ยังสามารถนำมาใช้ได้หรือไม่ ตนมองว่าต้องอาศัยหลายอย่าง เพราะไม่มียาตัวไหนหยุดยั้งความบ้าคลั่งของกัมพูชาได้ซึ่งสมเด็จฮุนเซน ก็อายุมากแล้วคงคิดว่าการใช้วิธีแบบนี้เพื่อที่ต้องการโฆษณาชวนเชื่อว่าสามารถเอาชนะประเทศไทยได้ การที่มีวิธีคิดแบบนี้เลยพยายามทำทุกทางโดยที่ไม่ได้สนใจว่าความสูญเสียจะเป็นอย่างไรซึ่งเมื่อเราเท่าทันสถานการณ์และรู้ว่ากัมพูชาต้องการอะไรและวิธีนี้ของการขัดกันทางอาวุธ สิ่งสำคัญคือถ้าทำให้ทั่วโลกเข้าใจว่ากัมพูชามีพฤติกรรมอย่างไรมีปัญหาเรื่องคอลเซ็นเตอร์อย่างไรคิดว่าเราจะแสวงหาพันธมิตรจำนวนมากที่จะทำให้กัมพูชาเห็นว่าวิธีที่ทำแบบนี้ไม่ได้อะไรเลย

“ ประเทศไทยของเราเราต้องคิดว่าเราจะชนะสงครามอย่างไรแน่นอนว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่ใช่สงครามแต่เวลาบอกว่าเราชนะสงครามอย่างไรไม่ได้หมายถึงว่าเรามองในศึกใดศึกหนึ่งเท่านั้นแต่เราต้องเห็นถึงภาพรวมว่าภาพรวมของสถานการณ์นี้เราต้องไม่ทำให้กัมพูชาได้ในสิ่งที่ต้องการขณะเดียวกันเราก็รักษาศักดิ์ศรีของประเทศ การตอบโต้ตามความจำเป็นความเหมาะสมโดยที่กัมพูชาต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่กัมพูชาที่ก่อเอาไว้ก็เป็นเรื่องที่ประเทศไทยต้องทำ ทั้งหมดนี้คือภาพรวมที่ต้องเห็นรอบด้านทั้งมิติของต่างประเทศมิติของการตอบโต้โดยใช้กำลัง มิติของการจัดการไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของพลเรือน” นายรังสิมันต์กล่าว

ด้านนางปทิดา เผยว่า ตอนนี้สิ่งแรกที่อยากจะสื่อออกไปคืออยากให้ประชาชนในพื้นที่มีความปลอดภัยทั้งหมดเพราะเราเพิ่งมีการสั่งอพยพเมื่อเช้าเพราะไม่ได้ทราบมาก่อนว่าจะมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตอนนี้อยากให้ประชาชนในพื้นที่พนมดงรัก ประสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม ที่มีการเปิดปะทะกันอยากจะให้ประชาชนทุกคนมีความปลอดภัยเพราะมีการอพยพแล้วและเชื่อมั่นว่ามีการซ้อมแผนอพยพมาตั้งแต่ก่อนที่จะเริ่มมีเหตุการณ์ครั้งนี้ทุกหมู่บ้านที่ออกไปน่าจะไปตามเส้นทางที่ได้วางแผนกันเอาไว้ซึ่งคาดการณ์ว่าน่าจะมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นสักวันหนึ่งแต่เชื่อมั่นว่าในส่วนของรัฐบาลน่าจะมีการเจรจาที่มีความชัดเจนมากกว่านี้และมีการสื่อสารโดยตรงไปถึงประชาชน แต่เห็นแล้วว่าการเจรจาไม่ได้มีข้อมูลอะไรเลยไม่มีความคืบหน้าในเรื่องการเจรจาแต่ประชาชนในพื้นที่เชื่อมั่นและไว้ใจกับทหารไทยซึ่งเป็นการสื่อสารในพื้นที่ โดยการอพยพนั้นมีความพร้อมแต่เพิ่งทราบข่าวก่อนที่จะมีการยิงไปไม่กี่นาทีและทุกพื้นที่เริ่มอพยพแล้วและคิดว่าเรามีการซ้อมเอาไว้ก่อนแล้ว

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก THE ROOM 44 CHANNEL

โปร่งใสกี่โมง? "สภาทนายฯ" จัดซื้อกับบริษัทร้าง เหลี่ยมซอยบิลหลบข้อบังคับ

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"สภาทนายความ" ถูกตั้งคำถามปมจ่ายเงินให้บริษัทร้าง–ไม่มีคำอธิบายชัดเจน

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

กองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์เหตุปะทะไทย-กัมพูชา ฝ่ายตรงข้ามเสียชีวิต 100 นาย

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ด่วน! ประกาศกฎอัยการศึก ในบางเขตพื้นที่ จ.จันทบุรี และ จ.ตราด

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

แฉ! วลี ‘เลือดของเด็กผู้บริสุทธิ์เปื้อนอยู่ในมือคุณ’ ของพิธา ไม่ใช่คำพูดใหม่

ไทยโพสต์

กองทัพบกสดุดีวีรกรรมทหารกล้า 6 นาย เสียชีวิตปกป้องอธิปไตยไทย

ไทยโพสต์

เท้ง ลุยสุรินทร์กลางดึก รุดศูนย์พักพิง ให้กำลังใจชาวบ้าน อพยพจากพื้นที่ปะทะชายแดน

MATICHON ONLINE

"เท้ง" ลุยสุรินทร์กลางดึก ลงพื้นศูนย์พักพิง ให้กำลังใจชาวบ้านอพยพจากเหตุปะทะแนวชายแดน

Khaosod

ทักษิณเบิร์ธเดย์ บินอุบลวันนี้ ให้กำลังใจชาวบ้านศูนย์พักพิง เพื่อไทยร่วมทำข้าวกล่องแจก

MATICHON ONLINE

กองทัพบกสดุดีกำลังพลผู้เสียชีวิตปกป้องอธิปไตยชาติ

สยามรัฐ

ข่าวและบทความยอดนิยม