”นฤมล“ มั่นใจแคมป์ ASC 2025 สร้างแรงบันดาลใจด้านวิทยาศาสตร์ให้เด็กไทย
”นฤมล“ มั่นใจแคมป์ ASC 2025 เป็นโอกาสสร้างแรงบันดาลใจด้านวิทยาศาสตร์ให้เด็กไทย ชี้การศึกษาต้องพัฒนาบุคลากรครู-นักเรียน ก่อนจะลงทุนกับเครื่องมือ
เมื่อวันที่ 4 ก.ค.เวลา 10.00 น.ที่กระทรวงศึกษาธิการ กรุงเทพมหานคร ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นำแถลงความพร้อมการเป็นเจ้าภาพจัดงาน Asian Science Camp 2025 (ASC2025) ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 6 สิงหาคม 2568 ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 และ เทคโนธานี มทส.โดยมีศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์จรัส สุวรรณเวลา รองประธานมูลนิธิ มูลนิธิ สอวน.ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร. ม.ร.ว.ชิษณุสรร สวัสดิวัตน์ ประธานคณะกรรมการดำเนินงานฯ รองศาสตราจารย์ ดร.อนันต์ ทองระอา อธิการบดี มทส.ศาสตราจารย์ ดร.สันติ แม้นศิริ คณบดีสำนักวิชาวิทยาศาสตร์ และรองประธานคณะกรรมการดำเนินงาน ร่วมแถลงข่าว
ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า ครบรอบ 10 ปีแล้วที่ประเทศไทยเราเคยเป็นเจ้าภาพ ซึ่งเมื่อปี 2015 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเปิดงาน Asian Science Camp 2015 และทรงแสดงปาฐกถาเรื่อง “Young Scientists of Asia”ด้วย เป็นการเปิดโอกาสให้เยาวชนได้แลกเปลี่ยนกับเยาวชนต่างชาติ และนักวิทยาศาสตร์ระดับแนวหน้า ถือเป็นโอกาสที่ดีของเด็กและเยาวชนไทยที่จะได้ร่วมทำกิจกรรมกับเยาวชนกว่า 22 ประเทศในเอเชียแปซิฟิก ซึ่งตนหวังว่า กิจกรรมดังกล่าวจะสำเร็จลุล่วงและเกิดคุณูปการเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ของประเทศไทย
ศ.ดร.นฤมล กล่าวต่อว่า ความสำคัญของกิจกรรม ASC2025 ถือว่าสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการในเรื่องการปรับเปลี่ยนการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับทักษะสมัยใหม่ โดยมีเป้าหมายในการสร้างเด็กให้มีอาชีพและอนาคตที่มั่นคง ในโลกสมัยใหม่ได้ และถือเป็นกิจกรรมระดับนานาชาติที่เด็กไทยจะได้เข้าไปมีส่วนร่วมในแคมป์วิทยาศาสตร์ รวมกับเด็กในประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรมด้วย โดยจะทำให้เรื่องวิทยาศาสตร์มีอนาคตและมีความหวังในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ตนขอขอบคุณคณะทำงานทุกท่านที่ได้ทำงานกันอย่างหนักเพื่อให้เด็กและเยาวชนไทยได้มีพื้นฐานและทักษะด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสุดท้ายต้องขอขอบคุณเจ้าภาพทุก ๆ ท่านด้วย
“ภายใต้การบริหารงานกระทรวงศึกษาธิการของทีมผู้บริหารชุดใหม่ อาจารย์หวังว่าจะได้รับความกรุณาให้คำแนะนำ และคำปรึกษาที่จะมาร่วมกันพัฒนาการศึกษา ส่วนตัวแล้วอยากจะเน้นในเรื่องของการพัฒนาบุคลากรครูและนักเรียน เป็นหลักก่อนที่จะนำงบประมาณไปจัดซื้อเครื่องมือหรือการลงทุนกับเครื่องมือต่างๆ โดยที่บุคลากรด้านการศึกษายังไม่ได้รับการพัฒนา ตรงนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ขอเน้นย้ำทุกท่าน รวมไปถึงการเรียนรู้นอกห้องเรียนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่กระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญ เพราะเราไม่ได้ดูแลเด็กนักเรียนเฉพาะในห้องเรียนเท่านั้น แต่การเรียนรู้นอกห้องเรียนก็มีความจำเป็นอย่างมากต่อสถานการณ์โลกในปัจจุบัน และหากท่านใดมีคำแนะนำ หรือข้อเสนอเชิงนโยบาย ก็สามารถส่งมาที่อาจารย์เพื่อที่จะนำมาพิจารณาดำเนินการให้สอดคล้องกัน“ศ.ดร.นฤมล กล่าว
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO