โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

HSBC ชี้โอกาสการลงทุน ในเส้นทางระเบียงการค้า ‘ไทย - อินเดีย’

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว

ธนาคารเอชเอสบีซี เปิดมุมมองเศรษฐกิจอินเดียในงานเสวนา “เจาะลึกแนวโน้มตลาดและโอกาสทางเศรษฐกิจในเส้นทางการค้าไทย–อินเดีย" นายฮิเทนดรา ดาเว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร HSBC อินเดีย เปิดเผยว่า อินเดียมีเศรษฐกิจที่โตเร็วที่สุดในโลกตอนนี้ โดยมีประชากรถึง 1,400 ล้านคน สะท้อนให้เห็นศักยภาพของตลาดที่มีขนาดใหญ่ และประชากรมีอายุเฉลี่ยที่ 28 ปี ด้วยจำนวนประชากรที่มากและกลุ่มประชากรช่วงอายุดังกล่าว ทำให้อินเดียมีจำนวนประชากรที่กำลังจะกลายเป็นผู้บริโภคยุคใหม่และกำลังจะเข้าสู่ตลาดจำนวนมาก ถือว่าเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจของอินเดีย และทำให้บริษัทใน Fortune 500 ต่างก็สนใจจะลงทุนในอินเดีย

นอกจากนี้ ทางรัฐบาลของอินเดียก็ยังมีความพยายามในการผลักดันเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายในเรื่องProduction Link ที่มีการให้เงินสนับสนุนสำหรับธุรกิจที่ต้องการจะมาดำเนินธุรกิจในอินเดีย

รวมถึงการจะเอื้ออำนวยความสะดวก ทำให้สามารถดำเนินธุรกิจในอินเดียได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของโลจิสติกส์ จะเห็นได้จากการสร้างทางด่วนในทุกวัน และในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีจำนวนสนามบินในอินเดียเพิ่มสูงขึ้นถึง 2 เท่า เพื่ออำนวยความสะดวกในด้านโลจิสติกส์ และทำให้ทุกบริษัทที่เข้ามาลงทุนสามารถเคลื่อนย้ายสินค้าได้อย่างรวดเร็วขึ้นและดียิ่งขึ้น

ธนาคารเอชเอสบีซี มองว่าจีดีพีของอินเดียในปีนี้จะอยู่ที่ 6.5% มีการลดอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางของอินเดีย โดยลดไปกว่า 100 basis points ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา นอกจากนั้น ยังมีการอัดฉีดสภาพคล่องเข้ามาในระบบกว่า 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ช่วยแก้ปัญหาเงินเฟ้อและส่งผลให้การเติบโตทางเศรษฐกิจในปีกว่าดีขึ้น

ความท้าทายของการลงทุนในอินเดีย

นายดาเว กล่าวว่า รัฐบาลอินเดียได้ออกมาตรการที่ทำให้การลงทุนในอินเดียง่ายขึ้น เพื่อลดความท้าทายในการขยายธุรกิจไปยังตลาดอินเดียของนักลงทุน แม้ในแต่ละปีที่อินเดียมีการผลิตวิศวกรและหมอพยาบาลเป็นจำนวนมากต่อปี แต่เมื่อพูดถึงภาคการผลิตก็ยังต้องการความร่วมมือจากภาคธุรกิจไทยในการฝึกอบรมแรงงานของเขาให้มีทักษะความสามารถเท่าเทียมกับแรงงานไทย

โอกาสในระเบียงเศรษฐกิจของไทยและอินเดีย

นายดาเว กล่าวว่า อินเดียมองไทยเป็นกลุ่มพลังในการผลิตในภูมิภาคอาเซียน ทั้งความสามารถในการผลิตใน 3 ภาคอุตสาหกรรม ได้แก่อุตสาหกรรมเครื่องยนต์ อุตสาหกรรม อิเล็กทรอนิกส์ และ อุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งทั้ง 3 ภาคส่วนเป็นสิ่งที่อินเดียมองหา เนื่องจากจำนวนประชากรในอินเดียที่สูงทำให้มีความต้องการของผู้บริโภคสูง

"ความสะดวกสบายในการเข้าไปลงทุนในอินเดียและการทำกำไรได้ง่าย ซึ่งเงินทุนอาจกลับมาในแง่ของเงินปันผล เงินค่าตอบแทน และ ส่วนของผู้ถือหุ้น ยกตัวอย่างการแต่งงานในอินเดียที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นอย่างสูง และมีคนจำนวนมากที่จะแต่งงาน สะท้อนให้เห็นโอกาสในการได้ค่าตอบแทนจากการทำธุรกิจในอินเดีย"

ความท้าทายและโอกาสการลงทุนระหว่างไทยและอินเดียท่ามกลางความไม่แน่นอนและกำแพงภาษีสหรัฐ

นายดาเว กล่าวว่าธนาคารเอชเอสบีซี มีประสบการณ์มายาวนานกว่า 160 ปีที่รับมือกับความแน่นอนทางเศรษฐกิจของโลกมามากมาย โดยเรายังอยู่เคียงข้างเพื่อให้คำแนะนำแก่ลูกค้าเสมอ

ทั้งนี้ โอกาสทางเศรษฐกิจอินเดีย เป็น untapped market ที่เป็นตลาดที่ยังไม่ค่อยมีผู้เล่นเข้าไปมากนัก ซึ่งไม่มีอีกแล้วที่จะมีประเทศไทยที่จะมีประชากรกว่า 1,000 ล้านคนจะเข้ามาเป็นลูกค้าได้ในอีก 20 ปีต่อจากนี้

"นี่เป็นสิ่งที่อยากให้บริษัทไทยมองอินเดียเป็นตลาดหนึ่งในการขยายการลงทุน เพราะยากที่จะหาตลาดที่มีขนาดใหญ่ขนาดนี้ โดยตลาดขนาดกว่า 1,000 ล้านคนนี้อาจจะใหญ่เท่ากับบางทวีปเลยทีเดียว แต่การจะเข้าไปรุกตลาดในอินเดีย ก็จำเป็นต้องมีพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญ ให้คำแนะนำ และสามารถไว้วางใจได้ในการเชื่อมต่อกับพันธมิตรอื่นๆในตลาดอินเดีย ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ธนาคารเอชเอสบีซีช่วยได้"

ความน่าสนใจของตลาดไทยในสายตาของนักลงทุนอินเดีย

นายดาเว กล่าวว่า ขณะเดียวกัน ทางอินเดียมีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในไทย "การท่องเที่ยว" โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจการแต่งงานของอินเดีย เพราะภาคธุรกิจนี้มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศรองจากไอที ซึ่งหากดึงดูดนักท่องเที่ยวและชาวอินเดียที่ต้องการแต่งงานเข้ามายังไทย จะดึงเม็ดเงินเข้ามายังไทยได้เป็นจำนวนมาก

"ภาคการผลิต" (manufacturing) ไทยมีความพร้อมทั้งในเรื่องแรงงานและแหล่งพลังงานทางเลือก

และอีกประเด็น อาจจะเป็นเรื่อง "พลังงานทางเลือก"( Clean Energy) ของอินเดียที่เป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาดที่สามารถมาขยายในไทย แต่เป็นแบบ B2B

นอกจากยี้ มองว่า การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ก็เป็นอีกsector ที่น่าสนใจสำหรับไทยไปลงทุนในอินเดีย เพราะให้ผลตอบแทนสูงและไม่เคยต่ำกว่า 2 หลัก

นายจอร์โจ กัมบา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย เปิดเผยว่า ธนาคารเอชเอสบีซีมีบทบาทเป็น “Superconnector” ในการช่วยอำนวยความสะดวกให้การทำในระเบียงเศรษฐกิจนี้ ได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจจากไทยที่ต้องการจะไปลงทุนในอินเดีย หรือจะเป็นธุรกิจอินเดียที่ต้องการจะเข้ามาลงทุนในไทย

ด้วยการดำเนินธุรกิจของเรามาอย่างยาวนานในทั้ง 2 ประเทศ ทำให้เรามีความเชี่ยวชาญอย่างลึกซึ้ง รวมถึงประสบการณ์ดูแลลูกค้าของเราในการขยายธุรกิจในระเบียงเศรษฐกิจนี้ ซึ่งทำให้เราได้เป็นธนาคาระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดและดีที่สุดในภูมิภาคนี้เช่นกัน

" เราเชื่อว่าลูกค้าอยากจะหาพาร์ทเนอร์ที่จะช่วยดูแลการขยาธุรกิจได้ในระยะยาว ซึ่งเรามีความเข้าใจโอกาสในการทำธุรกิจของทั้ง 2 ประเทศว่ามีความซับซ้อนอย่างไร และเรามีบริการที่ครอบคลุมที่จะช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถขยายธุรกิจในระเบียงเศรษฐกิจนี้ได้"

นายกัมบา กล่าวต่อว่า ในการเริ่มต้นทำธุรกิจในอินเดียที่ผ่านมา บริษัทไทยเคยมีปัญหา เพราะมองว่าเข้าไปทำธุรกิจยาก แต่ปัจจุบันง่ายและสะดวกขึ้น เพราะธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย จะช่วยเชื่อมต่อลูกค้ากับเอชเอสบีซี อินเดียโดยตรง เพื่อรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในการลงทุนของเอชเอสบีซี อินเดีย ที่มีความรู้และความชำนาญ ตลอดจนช่วยเชื่อมต่อลูกค้ากับพันธมิตรทางธุรกิจในอินเดียหากต้องการหาพาร์ทเนอร์ในการเข้าสู่ตลาดอินเดีย

นอกจากนั้น การบริการของธนาคารเอชเอสบีซี ยังเป็นอีกหนึ่งจุดแข็ง ด้วยความสามารถให้บริการลูกค้าในการขยายธุรกิจไปยังอินเดียหรือกว่า 20 ประเทศทั่วโลกดังเช่นเอชเอสบีซีให้บริการด้านธุรกรรมทางการเงินกับลูกค้าไทยบางรายด้วยบริการแบบ one stop service ที่ลูกค้าสามารถคุยกับทีมไทย เพื่อเปิดบัญชีและทำธุรกรรมในประเทศต่างๆได้ในจุดเดียว

ตลอดจนทีมงานที่อินดียยังมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านอย่างลึกซึ้ง จึงทำให้การประสานงานในฐานะ super-connector เพื่อเชื่อมต่อลูกค้ากับโอกาสการลงทุนในอินเดียโดยที่ลูกค้าไม่จำเป็นต้องบินไปที่อินเดียเพื่อดำเนินการเองโดยตรงจึงเป็นไปได้โดยง่าย

ขณะเดียวกันที่ผ่านมา มีการเพิ่มขึ้นของบริษัทอินเดียเข้ามาลงทุนในไทยอย่างมีนัยยะสำคัญ เพราะโครงสร้างพื้นฐานของประเทศที่ดีที่ช่วยสนับสนุนภาคการผลิต เช่น ท่าเรือ สนามบิน ถนน

นอกจากนั้น ภาค financial sector และ innovation ยังเป็นโอกาสของอินเดียในการเข้ามาลงทุนในไทยอีกด้วย เราจึงเป็น innovation, Fintech, financial services เข้ามาในเมืองไทยและอาเซียนเป็นจำนวนมาก

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

สัมพันธ์'บ้านโล่สถาพรพิพิธ-บิ๊กเนมภท.' ไม่ใช่คนอื่นไกล?

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘ทักษิณ’ ประกาศ กลางวง พรรคร่วมฯ ‘เลือกตั้ง’ แล้ว จับมือกันต่อ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ถึงเวลาที่ ธปท.จะ ‘เปิดประตูหอคอย ฟังเสียงบ้านนา’ ไม่ใช่แค่สนทนา ในกรอบสถิติ

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ไม่พร้อมมีลูกตอนนี้ Gen Z เลื่อนสร้างครอบครัว เศรษฐกิจไม่เอื้อ

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความหุ้น การลงทุนอื่น ๆ

วิริยะประกันภัย คว้ารางวัล “Marketeer No.1 Brand Thailand 2025”ตอกย้ำผู้นำตลาดประกันภัยรถยนต์ ที่ครองใจผู้บริโภคผู้บริโภค 2 ปีซ้อน

สยามรัฐ

ส่องหนี้เสีย 11 แบงก์ ใครเสี่ยง?

หุ้นวิชั่น

[Vision Exclusive] SNNP ชูหมัดเด็ด! อัดแคมเปญจัดหนัก

หุ้นวิชั่น

ถึงเวลาที่ ธปท.จะ ‘เปิดประตูหอคอย ฟังเสียงบ้านนา’ ไม่ใช่แค่สนทนา ในกรอบสถิติ

กรุงเทพธุรกิจ

ทิพยประกันภัย ลงนาม MOU สหกรณ์อิสลามฯ 5 แห่ง เพื่อส่งเสริมบริการประกันภัยระบบอิสลามเต็มรูปแบบ

สยามรัฐ

FWD ประกันชีวิต เสริมความคุ้มครองแผนประกันสุขภาพ ‘FWD Precious Care’ พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ รองรับทุกไลฟ์สไตล์ ตอบโจทย์ทุกเจเนอเรชัน

สยามรัฐ

ไทยประกันชีวิต รับรางวัล “บริษัทยอดเยี่ยมด้านประกันชีวิต”จาก "Money & Banking Awards 2025"

สยามรัฐ

อลิอันซ์ อยุธยา ร่วมงาน “วันประกันชีวิตแห่งชาติ” ครั้งที่ 24

สยามรัฐ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...