ทรัมป์แย้มเตรียมประกาศ‘ภาษีศุลกากรทั่วโลก’15-20% ยันไม่สนใจซัมมิตกับสีจิ้นผิง-แต่พร้อมรับคำเชิญเยือนจีน
ทรัมป์ลั่นประเทศที่ยังไม่ได้เจรจาทำข้อตกลงการค้าทวิภาคีกับอเมริกา เร็วๆ นี้จะถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรอัตราพื้นฐานเพิ่มเป็น 15-20% จาก 10% ซึ่งประกาศใช้มาตั้งแต่เดือนเมษายน ขณะเดียวกันประมุขทำเนียบขาวก็บอกว่าไม่ได้ต้องการประชุมสุดยอดกับสี จิ้นผิง แต่อาจไปเยือนจีนตามคำเชิญ ทั้งนี้ เขาพูดเช่นนี้ในระหว่างที่การเจรจากันในสวีเดนของคณะผู้แทนระดับสูงจากวอชิงตันกับปักกิ่งกำลังดำเนินอยู่ ในอีกด้านหนึ่ง ถึงแม้อียูเจรจาปิดดีลกับอเมริกาสำเร็จ แต่ปรากฏว่ายังต้องเผชิญกระแสไม่พอใจจากสมาชิกหลายชาติโดยเฉพาะฝรั่งเศสที่โจมตีว่า ข้อตกลงการค้ากับทรัมป์ไม่ต่างอะไรกับการยอมแพ้
ในวันจันทร์ (28 ก.ค.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ทางแพลตฟอร์มสื่อสังคม ทรูธ โซเชียล ว่า ไม่ได้ต้องการประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แต่อาจเยือนจีนตามคำเชิญของสี
ก่อนหน้านี้สื่อหลายรายอ้างแหล่งข่าวฝ่ายสหรัฐฯเปิดเผยว่า ผู้ช่วยของทรัมป์และสีได้หารือกันถึงความเป็นไปได้ในการพบกันระหว่างสองผู้นำระหว่างที่ทรัมป์เยือนเอเชียเพื่อร่วมประชุมสุดยอดกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ที่เกาหลีใต้ ในวันที่ 30 ต.ค.-1 พ.ย.
พวกนักวิเคราะห์มองว่า การเจรจาการค้าระหว่างจีนกับอเมริกา ที่กรุงสต็อกโฮล์ม, สวีเดน โดยเริ่มมาตั้งแต่วันจันทร์ (28) และยังคุยกันต่อในอังคาร (29) อาจช่วยปูทางการประชุมซัมมิตสี-ทรัมป์ช่วงปลายปีนี้
ทั้งนี้การเจรจาที่สต็อกโฮล์ม ซึ่งทางฝ่ายสหรัฐฯ นำโดย สกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลัง และจีนนำโดยรองนายกรัฐมนตรีเหอ ลี่เฟิง นั้น ปิดฉากวันแรกโดยทั้งสองฝ่ายไม่ได้ออกคำแถลงใดๆ
อย่างไรก็ดี เจมิสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ที่ร่วมเจรจาด้วย กล่าวว่า ตนไม่คาดหวังว่า จะมีความคืบหน้าชัดเจนในการประชุมวันแรก แต่คาดหวังให้มีการติดตามตรวจสอบการดำเนินการตามข้อตกลงเดิมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่า มีการไหลเวียนของแร่ธาตุสำคัญระหว่างฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่างๆ และการเตรียมการส่งเสริมและสร้างสมดุลทางการการค้าต่อไป
นักวิเคราะห์คาดว่า การประชุมนี้จะมีการตกลงขยายเวลาการพักการขึ้นภาษีศุลกากรและควบคุมการส่งออกที่จีนและอเมริกาตกลงกันเมื่อกลางเดือนพ.ค.ออกไปอีก 90 วันหลังเส้นตายวันที่ 12 ส.ค.
ทั้งนี้ เมื่อต้นปีอเมริกาและจีนประกาศขึ้นภาษีศุลกากรตอบโต้กันในอัตราเลขสามหลัก แต่หลังการเจรจาที่เจนีวาในเดือนพ.ค. อเมริกาตกลงลดภาษีสินค้าจีนเหลือ 30% และจีนลดภาษีสินค้าอเมริกันอยู่ที่ 10% นาน 3 เดือน
ในอีกด้านหนึ่งเมื่อวันจันทร์ ทรัมป์ยังแถลงต่อผู้สื่อข่าวจากกอล์ฟรีสอร์ตหรูของตัวเขาเองในสกอตแลนด์ โดยมีนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ของอังกฤษ นั่งอยู่ด้วยว่า คณะบริหารของเขาจะแจ้ง “อัตราภาษีศุลกากรทั่วโลก” (world Tariffs) ใหม่กับ 200 ประเทศคู่ค้าเร็วๆ นี้ โดยตัวเลขจะอยู่ที่ 15-20% สูงขึ้นจากอัตรา 10% ซึ่งประกาศใช้มาตั้งแต่เดือนเมษายน
ทรัมป์ที่ประกาศว่า จะยุติการขาดดุลการค้าของอเมริกากับคู่ค้าเกือบทุกชาติที่เรื้อรังมาหลายทศวรรษ ได้ประกาศขึ้นภาษีบางประเทศถึง 50% ซึ่งรวมถึงบราซิล โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันศุกร์นี้ (1 ส.ค.)
การดำเนินการดังกล่าวกระตุ้นให้ประเทศต่างๆ อาทิ อินเดีย ปากีสถาน แคนาดา ไทย ฯลฯ เร่งรีบเจรจาขอลดภาษีกับอเมริกา
เมื่อวันอาทิตย์ (27 ก.ค.) ทรัมป์ประกาศภายหลังหารือกับอัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ว่า สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าขนาดใหญ่กับสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งครอบคลุมถึงการที่สินค้าส่วนใหญ่ของอียูต้องเสียภาษีศุลกากร 15% เมื่อนำเข้าสู่สหรัฐฯ นอกจากนั้นบริษัทยุโรปยังตกลงลงทุน 600,000 ล้านดอลลาร์ในอเมริกา และซื้อพลังงาน 750,000 ล้านดอลลาร์ภายใน 3 ปี
อย่างไรก็ดี ในส่วนผู้นำอียูนั้นแม้สามารถทำให้อเมริกายอมลดภาษีศุลกากรลงครึ่งหนึ่งจากที่ก่อนหน้านี้ขู่ว่า จะรีดภาษีสูงถึง 30% แต่บรัสเซลส์ยังต้องเผชิญงานหนักในการปกป้องข้อตกลงดังกล่าว เนื่องจากประเทศสมาชิกตลอดจนถึงภาคธุรกิจมีความเห็นขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิงเกี่ยวกับความคืบหน้านี้
มารอส เซฟโควิก หัวหน้าทีมเจรจาการค้าของอียูแถลงต่อผู้สื่อข่าวเมื่อวันจันทร์ว่า มั่นใจ 100% ว่า ข้อตกลงนี้ดีกว่าสงครามการค้ากับอเมริกา
ทว่า นายกรัฐมนตรีฟรองซัวส์ ไบย์รูของฝรั่งเศส วิจารณ์ว่า เป็นวันที่มืดมิดสำหรับยุโรป และข้อตกลงดังกล่าวไม่ต่างอะไรกับการยอมแพ้
นายกรัฐมนตรีฟรีดริช เมร์ซของเยอรมนี ซึ่งเป็นชาติสมาชิกที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุด กล่าวว่า เยอรมนีจะเผชิญความเสียหายใหญ่หลวงจากภาษีศุลกากรของอเมริกา แต่ก็ไม่สามารถคาดหวังอะไรได้มากกว่านี้ ก่อนสำทับว่า ผลกระทบแง่ลบจากข้อตกลงนี้ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะเยอรมนีและยุโรปเท่านั้น แต่จะรวมถึงอเมริกาเองด้วย
นายกรัฐมนตรีวิกเตอร์ ออร์บานของฮังการี โจมตีว่า ทรัมป์เขมือบฟอน แดร์ ไลเอิน เป็นอาหารเช้า
อย่างไรก็ตาม เซฟโควิกเตือนว่า ถ้าตกลงกับอเมริกาไม่ได้ อียูต้องเสียภาษีศุลกากร 30% และสถานการณ์อาจลุกลามต่อไป ซึ่งเป็นอันตรายต่องาน 5 ล้านตำแหน่งในยุโรป
นายกรัฐมนตรีจอร์เจีย เมโลนีของอิตาลีที่เป็นพันธมิตรของทรัมป์ ขานรับว่า ข้อตกลงนี้ช่วยป้องกันผลกระทบร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้น
(ที่มา: รอยเตอร์/เอเอฟพี)
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO