‘แมงปอ ชลธิชา’ เล่าดราม่า โต้ออกจากวงการเพราะท้อง!
อีกหนึ่งตำนานนักร้องลูกทุ่งขวัญใจพี่กะเทย "แมงปอ ชลธิชา" เคยฝากผลสุดประทับใจไว้แล้วมากมาย ทั้งเพลงไวรัลดัง "นักรบนิรนาม" และ "นางสาวแนนซี่" ช่วงที่กำลังพีคๆโด่งดังเป็นพลุแตกกลับมีเหตุให้ต้องออกจากวงการไปแต่งงานสายฟ้าแล่บ ท่ามกลางประเด็นดราม่ามากมาย งานนี้คืนจอมาเปิดใจเล่าชีวิตการงานและความรัก กลางรายการ "โต๊ะหนูแหม่ม" ช่องworkpoint หมายเลข23
“กลับมาได้อีกครั้งเพราะเพลง นักรบนิรนาม เป็นไวรัลดังในติ๊กต๊อก เป็นเพลงขวัญใจพี่กะเทย ใครได้ยินเพลงนี้ต้องลุกขึ้นเต้นตีลังกา มันเริ่มกลับมีกระแสตอนพี่ๆน้องๆกะเทยเค้าตีกันที่สุขุมวิท11 หลังจากนั้นคนก็เอามาเล่น ตีลังกา ถ่ายคลิปกัน พอเห็นกระแสเห็นคลิปแล้ว ดีใจมากค่ะ ที่เค้ายังไม่ลืมเรา เพราะเพลงนี้มันก็มีมานานมากแล้ว ปอก็รู้สึกดีใจเพราะว่าเราเป็นไอดอลของพวกสาวๆกลุ่มนี้อยู่แล้ว ตั้งแต่เพลงนักรบนิรนามแล้วก็เพลงนางสาวแนนซี่ ก็คือจะพูดถึงสาวประเภทสอง พูดถึงการแต่งตัว เสื้อผ้าหน้าผม เค้าก็แต่งตามกัน"
ถ้าพูดถึงเรื่องการทำเพลงที่หายไป ก็ประมาณ2-3ปี ก่อนหน้านี้เมื่อ2ปีที่แล้วกระแสก็ไม่ได้ดีขนาดนี้ ตอนนี้พี่ก็ใส่กลับมาคือเป็นเพลงเก่าล้วนๆเลย ไม่ติดลิขสิทธิ์ ปอโชคดีมากที่คุณอาเค้าให้เอาไปร้องได้ เค้าให้เอาไปทำมาหากินได้เลย เราก็เลยร้องได้ตลอด
ตอนหายไปจากวงการ ตอนนั้นก็มีผู้ชายคนนึงมาจีบเรา แล้วเราก็คุยด้วย พอคุณพ่อเห็นว่าเรามีผู้ชายมาคุยด้วย ความที่คุณพ่อเป็นคนหัวโบราณ ผู้ชายเค้ามาคุยว่าอยากจะขอหมั้นไว้ก่อนได้มั้ย คุณพ่อก็บอกว่าไม่ได้ต้องแต่งเลย ตอนนั้นหนูอายุ 20 ผู้ชายห่างกันปีเดียว ตอนนั้นทุกคนขัดท่านไม่ได้ก็ต้องตามนั้น ตอนนั้นไม่ได้ท้องนะคะ ข่าวก็ลือกันไป แต่เราเป็นคนรักเด็ก อุ้มหลานหอบหิ้วกันไป คนก็อาจจะคิดว่าเป็นลูกปอ จริงๆไม่ใช่ลูกปอ
แต่ ณ วันนึงมันไม่ใช่ เหมือนตอนนั้นเรารู้สึกว่าเลยไม่พร้อมจะมีชีวิตคู่ เหมือนเราทำงานตั้งแต่เด็กๆ ไม่มีโอกาสไปเจอเพื่อนไปเจอฝูง ไปเที่ยวอะไรแบบนี้ เลยคิดว่าถ้าเรายังไม่แต่งงาน วันไหนไม่ได้ทำงานก็ยังอยากไปกับเพื่อน ส่วนตัวผู้ชายคนทำงานแล้ว ทำงานประจำ ก็เลยเริ่มห่างกัน เค้าก็ไปทำงานส่วนปอก็ไปเจอเพื่อน เค้าก็อาจจะคิดว่าปอไม่ได้มีเวลาให้เค้า เค้าก็เลยเขียนจดหมายลา เก็บเสื้อผ้าหนีออกจากบ้าน ตอนนั้นเราก็รู้สึกว่ายังไม่พร้อม ที่อยากใช้ชีวิตคู่
พอผ่านเวลาไประยะหนึ่งแล้วมานั่งคุยกันเค้าก็ขอโทษ ที่บังคับให้แต่งงานอะไรแบบนี้ค่ะ ส่วนตัวเราก็รู้สึกเคืองค่ะ เหมือนเรามีตราประทับไว้ที่หน้าผากแล้ว ว่าแต่งงานแล้วนะ เคยมีครอบครัวแล้ว โดยที่เราไม่รู้สึกมีความสุข พอวันนึงไม่ได้มีความรู้สึกแบบนั้นจริงๆที่ต้องเลิกลาก็รู้สึกแย่ แต่พอเค้าขอโทษก็เข้าใจมันย้อนกลับไปไม่ได้แล้ว แก้ไขอะไรไม่ได้
ทุกวันนี้กลัวการใช้ชีวิตคู่ค่ะ กลัวการที่จะต้องอยู่กับใครสักคน มันจะอยู่ได้มั้ย แล้วเราผ่านการแต่งงานมาแล้วนะ ทุกคนที่เข้ามาเค้าจะคิดยังไง แค่มาเล่นๆหรือจริงจัง เป็นคนกลัวไปเลย ถึงขนาดบอกคุณแม่ว่าอยากมีลูก แต่ไม่อยากมีผัวอะแม่
รักปัจจุบันกับบิ๊ก อดีตแดนเซอร์ ชอบสายตาเค้าที่มองเรา เหมือนดูรู้ว่าปลื้มเราอยู่ ก่อนหน้านี้ไม่ได้คุยเพราะว่าต่างคนต่างมีแฟน จนมีอยู่ช่วงหนึ่งที่พอปอโสดแล้วเค้าก็โสด แล้วเค้าก็ทักมาหาเราว่าทำอะไรอยู่ครับพี่ปอ ก็เลยเริ่มคุยกันมาเรื่อยๆ ที่ไม่แต่งงานอย่างที่บอก ปอเคยแต่งงานมาแล้วมันเป็นแผลในใจ แต่งแล้วก็ใช่ว่าชีวิตคู่จะอยู่ด้วยกันได้ จะอยู่ได้หรือไม่ได้มันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการแต่งงาน ถ้าเราจะแต่งงานอีกรอบนึงแล้วเราอยู่ด้วยกันไม่ได้อีกล่ะ มันก็จะยิ่งช้ำใจอะไรแบบนี้ ก็บอกเค้าแต่แรกเลยว่าจะไม่จัดงานแต่งงานนะ"