โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

เอกชนโอดภาษีสหรัฐฯ 36% สูงเกินรับไหว หวังต่อรองต่ำกว่าเวียดนาม-แนะลดภาษี 0%บางส่วน

Manager Online

เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • MGR Online

ภาคเอกชน วอนรัฐรับมือสงครามการค้า หวังอัตราต่ำกว่าเวียดนาม ชี้หากถูกเก็บ 36% สูงเกินไป พร้อมลดภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ เหลือ 0% ในบางอุตสาหกรรม แต่ไม่จำเป็นต้องเปิดหมดหน้าตักแบบเวียดนามที่ลดเหลือ 0% ทุกรายการ วอนชะลอปรับขึ้นค่าแรง ห่วงวิกฤตแรงงานซ้ำเติม

นายธนากร เกษตรสุวรรณ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก กล่าวในงานเสวนาหัวข้อ "The Art of The (Re) Deal" ว่า จากที่ได้ทำธุรกิจกับสหรัฐฯ นั้น เห็นว่าความคิดของสหรัฐฯ คือ สหรัฐฯ ดูประเทศไทยมานานแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาสหรัฐฯ เป็นเหมือน Big sugar daddy มานาน จนทำให้เขาสูญเสียความสามารถในการแข่งขันไปเยอะมาก ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์เชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ จึงทำให้เริ่มมีแนวคิดในการใช้มาตรการภาษีกับประเทศคู่ค้า โดยหวังว่าทุกประเทศจะรับฟัง ดังนั้น ถ้าไทยสามารถยืนยันเจตนากับสหรัฐฯ ได้ชัดเจนว่าจะไม่ใช่การเจรจาที่มี favor เหนือสหรัฐฯ ก็เชื่อว่าสหรัฐฯ ยังต้องการจะดีลกับไทยต่อ

"ต้องทำให้เขารู้ว่า เราตั้งหลักที่จะไม่ให้ประเทศใดประเทศหนึ่ง มี favor เหนือสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเด็นที่สำคัญที่สุด ถ้าเขามองออกว่า เรามีเจตนาจะไปในทางนั้น หมายถึงเป็น ego treatment ซึ่งฟีลลิ่งนี้ ถ้าเราทำได้ จะทำให้สหรัฐฯ อยากจะดีลกับเราต่อ" นายธนากร กล่าว

นอกจากนี้ การที่สหรัฐฯ ต้องการจะให้เกิดความเป็นธรรมทางการค้านั้น เราจำเป็นต้องกำหนดจุดยืนว่า การดีล 2 tier คือ ภาษี 20% และ 40% ที่เวียดนามบรรลุข้อตกลงไปแล้วนั้น เราจะเลือกแนวไหน เป็นไปได้หรือไม่ว่าเราต้องดีลกับสหรัฐฯ ให้ชัดเจนว่าเราไม่ prefer เรื่องการสวมสิทธิส่งออกสินค้า

"คล้าย ๆ ดีลเดียว แต่เหมือนกับที่เวียดนามโดนนั้น ความเหมาะสมคืออะไรที่เราควรจะโดน เรามีวิธีการจัดเวลาตรงนี้ ให้มันค่อย ๆ หายไปไหม ถ้าเรายอมตรงนี้มากกว่า จะเหมาะสมไหมกับที่ให้เขาไปช่วยลดภาษีของเราให้ดีกว่าเวียดนามที่โดน 20% ถ้าเกิดเราได้น้อยกว่าเวียดนามเพียง 2% ก็มีความหมายมาก การคุยเรื่องนี้ ถ้าจูนเวลาในการปรับเรื่อง local content แสดง intention ว่าเราต้องการดีลกับสหรัฐฯ จริงๆ และต้องการ ego treatment ระหว่างประเทศที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกมันแฟร์ ถ้าเขารู้สัญญาณที่ชัดเจนนี้จากไทย เขาก็จะเดินเกมต่อ ถ้าทำตรงนี้ได้ เราดีลอัตราภาษีตรง 20% 40% ว่าแฟร์อยู่ตรงไหน เขารู้สึกว่ารับได้ การดีลก็จะเกิดขึ้นต่อ" ประธาน สรท.กล่าว

พร้อมมองว่า สหรัฐฯ มีธงอยู่แล้วว่าจะเอาคืนกับประเทศในอาเซียน ที่ได้ดุลการค้าจากสหรัฐฯ มาโดยตลอด ซึ่งสหรัฐฯ ต้องการจะเรียกสิ่งที่เคยสูญเสียไปกลับคืนมา ดังนั้นจึงเป็นที่มาของการที่สหรัฐฯ ประกาศใช้แนวทางภาษี Reciprocal tariff เพื่อเข้าสู่ Fair trade

"เขาต้องการบอกโลกว่า สิ่งที่เขาเคยให้มาในอดีต เขาขอคืน ดังนั้น เราต้องแสดงความตั้งใจว่า เรากับเขาจะเป็นพาร์ทเนอร์ที่เป็น fair treatment ถ้า message นี้ไปได้ชัด ผมว่าเขาอยากจะคุย และเข้ามาดีลกับเราจนกระทั่งจบ ซึ่งเรามีเรื่องที่ชัดเจนคือ เราได้ดุลการค้าสหรัฐน้อยกว่าเวียดนามได้ดุลจากสหรัฐ นี่เป็นจุดสำคัญ ถ้าเราสามารถบอกให้สหรัฐ รู้ว่าทำไมเราถึงควรโดนภาษีน้อยกว่าเวียดนาม ที่ 20% และ 40% เพราะเราทำความเสียหายให้กับสหรัฐฯ น้อยกว่าที่เวียดนามทำ … ทำอะไรก็ได้ ให้สหรัฐฯ รู้สึกว่าเขาอยาก treat เรา และแฟร์กับเราในฐานะที่เป็น partner" นายธนากร ระบุ

นายนาวา จันทนสุรคน รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า จากที่ได้หารือร่วมกับ 47 กลุ่มอุตสาหกรรมนั้น ทุกคนมองว่าหากสหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีจากสินค้าไทยที่ 36% ถือว่าเป็นอัตราที่สูงมาก ซึ่งจะทำให้บางกลุ่มอุตสาหกรรมไม่สามารถไปรอดได้ เนื่องจากบางอุตสาหกรรมมีการพึ่งพาการส่งออกไปตลาดสหรัฐฯ ในสัดส่วนที่ค่อนข้างสูง เช่น การผลิตถุงมือยางทางการแพทย์ ในขณะที่คู่แข่งของไทย เช่น มาเลเซีย ถูกสหรัฐฯ เก็บภาษีในอัตราที่ 25% ซึ่งต่ำกว่าไทยมาก

"ผลกระทบจะแตกต่างกันไปในแต่ละภาคอุตสาหรรม แต่ภาพรวมถ้าโดนที่ 36% ถือว่าสูงเกินไป และจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ แต่เรายังมั่นใจทีมไทยแลนด์ และให้กำลังใจ หวังว่าจะเจรจาได้สำเร็จ"

โดยเมื่อวันที่ 11 ก.ค. ได้มีการหารือกันภายในกลุ่มอุตสาหกรรมของ ส.อ.ท. และได้ทำข้อมูลส่งให้กระทรวงพาณิชย์ไปแล้วว่า พร้อมที่จะลดภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ เหลือ 0% ในบางอุตสาหกรรม แต่ไม่จำเป็นต้องเปิดให้สหรัฐฯ หมดหน้าตักแบบเวียดนามที่ลดเหลือ 0% ทุกรายการ ควรต้องเปิดเท่าที่จำเป็น และเรียงลำดับความสำคัญ ซึ่งการที่เวียดนามเปิดให้หมด 0% นั้นสำหรับสินค้าสหรัฐฯ นั้น ยังมีข้อสังเกตว่าจะได้ คุ้มกับที่เสียหรือไม่

พร้อมระบุว่า สิ่งที่ ส.อ.ท.เสนอไป คือผู้ประกอบการยินดี และเห็นด้วยกับภาครัฐที่จะพิจารณาลดภาษีอากรสินค้าบางประเภทให้เหลือ 0% สำหรับสหรัฐฯ ส่วนประเทศอื่น ๆ ก็ยึดตาม FTA หรือข้อตกลงที่มีอยู่เดิม แต่สิ่งที่เราห่วงมากคือ เราพึ่งพิงตลาดสหรัฐฯ ถึง 18% ดังนั้นต้องระมัดระวังว่าการที่สหรัฐฯ ใช้มาตรการภาษีนี้ จะเป็นการสร้างกำแพงสูงต่อประเทศอื่น ๆ เช่น จีน อินเดีย ดังนั้นการที่ประเทศเหล่านี้ส่งสินค้าเข้าไปสหรัฐฯ ยากลำบากขึ้นจากกำแพงภาษีนี้ จะทำให้หันมาส่งออกสินค้าเข้ามาในไทยมากขึ้น

ดังนั้น สิ่งที่ไทยต้องทำเพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับสินค้าอุตสาหกรรมของไทย คือ การสร้างรั้วสูง กำแพงหนา ประตูเหล็ก เพื่อป้องกันตัวเองด้วย ไม่เช่นนั้น เมื่อใดที่สินค้าจากประเทศเหล่านี้เข้าไปสหรัฐฯ ไม่ได้ ก็จะไหลเข้ามาในไทย เหมือนในช่วง 7 ปีก่อน ที่สินค้าเหล็กจากจีนเข้ามาทุ่มตลาดในไทย และสร้างความเสียหายกับผู้ประกอบการในประเทศ ตามมาซึ่งการลดกำลังการผลิต และลดการจ้างงาน

"เราต้องสร้างรั้วสูง กำแพงหนา ประตูเหล็ก มาตรการ AD ที่เราใช้อยู่ มันไม่เพียงพอ กกร.มีมติแล้วว่า รัฐบาลต้องกล้าใช้มาตรการอื่นด้วย เช่น มาตรการปกป้องการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น หรือมาตรการตอบโต้การอุดหนุน เราต้องกล้าใช้มาตรการตอบโต้การอุดหนุนด้วย ประเทศไทยออกกฎหมายมาหลายสิบปี ยังไม่เคยใช้แม้แต่ครั้งเดียว และการเยียวยาอีกส่วนหนึ่งที่ภาครัฐเตรียมไว้ คือ soft loan ซึ่งสมาชิก ส.อ.ท.ของเรา เจอฝนตก พายุหนัก แต่ความรู้สึกของเขา เหมือนโดนธนาคารพาณิชย์บางแห่งหุบร่ม แทนที่จะช่วยป้องกันฝน ป้องกันพายุ" รองประธาน ส.อ.ท. กล่าว

นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่จะช่วยเยียวยาโดยตรงแล้ว ขอเสนอว่า ที่ภาครัฐกำลังเร่งผลักดันค่าจ้างขั้นต่ำให้เป็น 650 บาทต่อวันนั้น ขอให้ชะลอไปก่อนจะได้หรือไม่ เพราะขณะนี้ประเทศกำลังเจอวิกฤติ ซึ่งการดำเนินนโยบายนี้อาจยิ่งเป็นตัวเร่งให้แรงงานตกงานเพิ่มมากขึ้น

นายสัมพันธ์ ศิลปนาฎ นายกสมาคมนายจ้างอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ และอุปนายกสมาคมเซมิคอนดักเตอร์ไทย กล่าวว่า จากประวัติศาสตร์ 50 ปี Local Content มีเพียง 5% ใช้เวลาเกือบ 20 ปี กว่าจะขยับมา 50% เนื่องจากปัจจัยเรื่องไฮเทคโนโลยี คุณภาพ และความละเอียดสูงมาก

"อิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์ คุ้นเคยกับการนำเข้าส่งออกที่ 0% แต่วันนี้เราโดน 10% ดังนั้น สิ่งแรกที่จะเห็นหลังจากนี้ คือการลด OT ลดกำลังการผลิต และอุตสาหกรรมไหนที่สามารถโยกย้ายวอลลุ่มกำลังการผลิตได้ เขาจะโยกไปประเทศที่อัตราภาษีต่ำกว่า" นายสัมพันธ์ กล่าว

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Manager Online

คุมตัว 6 คนไทยถูกส่งตัวจากกัมพูชาสอบปมพัวพันแก๊งคอลฯ เตือนโทษหนัก คุก 119 ปี

56 นาทีที่แล้ว

“พิชัย” ชงชื่อ “วิทัย รัตนากร” เป็นผู้ว่าฯ แบงก์ชาติคนใหม่ให้ ครม.เคาะพรุ่งนี้

58 นาทีที่แล้ว

“เจได” แหก “ดัง พันกร” ก่อนตั้งคำถามดูคลิปเต็มหรือยัง? ชาวเน็ตช่วยแหกต่อ แม่นายหยุดสะเหล่อเกาะทุกเรื่อง

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ตร.สันกำแพงเร่งจับตัวหนุ่มหัวร้อนถีบเด็กออทิสติก7ขวบเจ็บหนักเหตุฉุนเสียงหมาเห่า หลังแม่ร้องพร้อมคลิปหลักฐาน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

ลุ้น! "รมว.คลัง" ชงครม. (15 ก.ค.) เสนอชื่อ "วิทัย รัตนากร" ผอ.แบงก์ออมสิน นั่งเก้าอี้ผู้ว่าธปท.คนใหม่

สยามรัฐ

'แพทองธาร' รมว.วัฒนธรรม หารือ ภาคเอกชน-เลขาธิการ BOI เดินหน้าอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ไทยต่อเนื่อง

VoiceTV

เซ็นจ้างแล้ว 135 ล้าน ทบทวนศึกษา “สายสีแดง” วงเวียนใหญ่-มหาชัย จบปีหน้า

เดลินิวส์

ททท.ปรับสมดุลโครงสร้างตลาดท่องเที่ยวปี 69 เจาะกลุ่มคุณภาพคาดสร้างรายได้โตเพิ่ม 7%

สยามรัฐ

GULF ซื้อหุ้น AISBB เพิ่มดันถือ 50% จ่อเปลี่ยนชื่อใหม่ ปักหมุดผู้นำคลาวด์-ดิจิทัลครบวงจร

PostToday

'กลุ่มดุสิตธานี'เปิดตัวแบรนด์ใหม่'ดุสิต โฮเทล' รุกตลาดอัปเปอร์อัปสเกลคาดภายใน 2 ปีเซ็นสัญญาเพิ่มอีก 8 แห่ง

สยามรัฐ

เจาะสงครามกินด่วน! ตี๋น้อยฮิต ลูกค้าวันละ 1.2 แสนคน MK เทหมดหน้าตัก ส่ง 'โบนัสสุกี้' ท้าสู้

MATICHON ONLINE

เงินบาทไทยพุ่ง แข็งค่าจัดใน 28 ปี ย้อนวิกฤตต้มยำกุ้ง | คุยกับบัญชา | 11 ก.ค. 68

BTimes

ข่าวและบทความยอดนิยม

หากเจรจาภาษีสหรัฐฯ ไม่ทันเส้นตาย 1 ส.ค. ศก.ไทยเสี่ยง ทั้งส่งออก-ลงทุน-บริโภค

Manager Online

Bluebird หนุนแผนทอง–คริปโต บุกเซ็กเมนต์ “Bitcoin Streaming” หวังพอร์ตทะลุ 30 BTC ใน 3 ปี

Manager Online

จุดจบ SAWAD..จุดตายหุ้นจำนำทะเบียนรถ / สุนันท์ ศรีจันทรา

Manager Online
ดูเพิ่ม
Loading...