เปิดศึกนอกจอ! ‘อี๊ด วงฟลาย’ แฉปมลาออกจากวง เพื่อนร่วมวง ‘แจ็ค-ชาลี’ โต้กลับเดือด
กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ หลังล่าสุด “อี๊ด ฟลาย” หรือ “สำราญ วงษ์แสน” อดีตนักร้องนำวงร็อกชื่อดังอย่าง FLY ได้ออกมาเปิดใจถึงสาเหตุการลาออกจากวง ในช่วงที่วงกำลังโด่งดังถึงขีดสุด ในรายการป๋าเต็ดทอล์ก ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับแฟนเพลงไม่น้อย แถมเป็นครั้งแรกที่ได้พูดถึงประเด็นดังกล่าว โดย อี๊ด วงฟลาย เผยว่า
"ถ้าในความเป็นจริง คุณเป็นผมในช่วงที่กำลังฮอตมากๆ อัลบั้มขายเป็นล้านๆ จนถึงปี 2000 อัลบั้ม FLY2K ชาวนากับงูเห่า ฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง จะบ้าอะไรถึงต้องออกวงตอนนั้น มันเป็นการลาออกที่ไม่ใช่วงแตกด้วย ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันมีเหตุ ไม่จำเป็นต้องพูดให้ใครฟังก็ได้ แต่ความรู้สึกให้กระทบน้อยที่สุด พูดเรื่องนี้กระทบแน่แต่ไม่เป็นไร"
"การอยู่ร่วมกันของวงฟลาย มีกฎเกณฑ์ของวงปฏิบัติตามกันหมด เท่าเทียม เวลาเดินมาถึงช่วงเรามีชื่อเสียงมาก หลังจากอัลบั้ม FLY2K มันมีหลายอย่างเข้ามาในชีวิตของพวกเรา ข้อตกลงต่างๆ ที่เราเคยตกลงกันไว้ มันเริ่มจะ… ผมเป็นคนรักเพื่อนมาก ผมไม่เคยทิ้งใครก่อน หรือทำร้ายใครก่อน ผมจะยอมทำตามกติกาที่เราวางไว้เคร่งครัด ถึงเวลาหนึ่ง มีการตั้งค่ายเกิดขึ้นในแกรมมี่ วงฟลายมีสิทธิตั้งค่าย แจ็ค (แจ็ค วงฟลาย) ก็พาไปดูห้องว่าตรงนี้จะเป็นบริษัทของฟลาย"
"ก่อนหน้านั้นมีไวรัสที่ติดในใจผมมาบ้างแล้ว ผมใช้ยากดมันไว้ ไวรัสที่กัดกินใจผมมา กาลเวลาทำให้คนเปลี่ยน พอถึงวันนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องใจล้วนๆ ไม่เกี่ยวกับเรื่องงานเลย การแยกตัวจากวงฟลาย เป็นเรื่องของใจล้วนๆ ไปถึงตรงนั้นทุกคนมีตำแหน่ง เป็นโปรดิวเตอร์ เป็นเอ็มดี ทุกคนทำงานนี้ๆ แล้วผมถามว่าผมได้อะไร แล้วผมนั่งตำแหน่งอะไร จากก่อนหน้านั้นที่ผ่านมาเราแชร์กันหมด เท่ากันหมด"
"ผมไปถ่ายปกหนังสือ ได้มา 3 พันบาท ผมไปคนเดียว ผมเอา 3 พันบาทนั้นมาแชร์กับวง ไม่เป็นไรตามกฎเกณฑ์ วงนอนอยู่บ้านก็ได้ แต่ค่าน้ำมันต่างๆ ผมไปเอง ผมยึดอั้นนั้นมา แต่พอถึงเวลาเปิดค่าย ทุกคนบอกว่า เอ้าผมไม่มีตำแหน่งหน้าที่อะไร ถ้าพี่อี๊ดมีส่วนร่วมก็คิดโปรเจกต์มาเสนอ ผมบอกโอเคงั้นไม่เป็นไร ผมขอลาออก"
ล่าสุดหลังจากที่ อี๊ด วงฟลาย ออกมาเปิดใจ ทางด้าน "แจ็ค วงฟลาย" อดีตกีตาร์ของวง ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านโซเชียลมีเดีย โพสต์โต้แย้งเรื่องราวของอี๊ด ผ่านทางโซเชียล โดยระบุว่า "พี่นัดที่วงแล้วแจ้งว่าขอลาออกจากวง ในช่วงปี 2000 หลังอัลบั้ม (FLY2K) แล้วผมก็รู้จากปากพี่ว่าจะย้ายครอบครัวไปอยู่ USA อย่างถาวร แล้วบอกว่าจะเลิกร้องเพลงอาชีพแล้ว อยากไปย้ายไปอยู่ที่โน้น ซึ่งทุกคนในวงก็พยายามคุยสอบถามกับพี่ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่สุดท้ายพี่ก็ดึงดันว่าจะย้ายไปอยู่ที่นู้นเลย พวกเราก็ได้แต่ฟังแล้วงงๆ รวมทั้งผมด้วย ว่าจะไปทำไมในตอนที่วงยังมีโอกาสที่จะทำในสิ่งที่รัก และยังมีอนาคตที่ดี แต่สุดท้ายก็ทัดทานพี่ไม่ได้ ก็เลยลาจากกันด้วยดีในวันนั้นนะ
แต่สุดท้ายไม่นาน พี่ก็กลับมาทำเพลงใหม่อีกรอบหนึ่งในช่วงบินเดี่ยว หรือนอกรอบของพี่นั่นแหละ มันก็เลยทำให้เราคิดว่าที่พี่พูดมันไม่ใช่เรื่องจริงเนี่ย! แล้วเรื่องค่ายเพลงอ่ะ พี่ไปเอามาจากไหน ใครเอาเปรียบพี่!? แล้ววันนี้เพื่อนๆ ในวงที่เหลืออยู่ก็ยังเจอกัน คบไปมาหาสู่กัน นัดกินข้าวกันเหมือนเดิม…มีแต่พี่คนเดียวที่ไปนะครับ!! #ไม่อยากให้ฟังความข้างเดียวครับ"
พร้อมทั้งโพสต์อีกว่า “เข้ากับเพลงที่แต่งไว้จริงๆ ครับ #ซึ้งใจจริงๆ เธอโยนความผิดใส่ฉันเพื่อจากฉันไป รังแกกันอย่างโหดร้าย #ซึ้งใจจริงๆ”
นอกจากนี้ด้าน “ชาลี” มือกลองวงฟลาย ก็ออกมาเคลื่อนไหวเช่นเดียวกัน โดยชาลี ระะบุข้อความว่า “พี่อี๊ดแบ่งรายได้มาให้วงเป็นเรื่องจริง ผมเป็นคนเสนอไอเดียนี้เองบนรถตู้ ตอนนั้นเพลงวงเราดังแล้ว ผมพูดกับทุกคนว่า เดี๋ยวคงจะมีรายการทีวีต่างๆ ติดต่อให้ไปโชว์ตัว ถ้าไม่ใช่รายการที่เกี่ยวกับเพลง หรือรายการที่ได้นำเสนองานของเรา เราไม่ไปได้ไหม
ผมยกตัวอย่างพี่ป้อมพี่โต๊ะ พี่เบิร์ดธงไชย และร็อกสตาร์เมืองนอกหลายๆ คน ที่ไม่ค่อยไปปรากฏตัวที่ไหนง่ายๆ นอกจากบนเวที หรือรายการที่ได้นำเสนองานของพวกเขาให้ทุกคนฟัง ผมเสนอว่า เราเอาอย่างนี้มั้ย ถ้าเป็นรายการตลกโปกฮาหรืออะไรที่ไม่เกี่ยวกับงานเพลง ใครไปให้แบ่งรายได้เข้ากองกลางครึ่งหนึ่ง (ผมคิดเอาเองว่าจะได้ไม่อยากไป) แต่ถ้าเป็นรายการอะไรก็แล้วแต่ ที่ได้นำเสนองานของเราไม่ต้องแบ่ง และแน่นอนคนที่จะถูกเชิญ และกระทบกระเทือนก็คงเป็นพี่อี๊ด อีกคนก็คงเป็นพี่แจ็ค ผมถามว่าพี่ๆ โอเคหรือเปล่า วันนั้นคำตอบคือโอเค
ไอเดียนี้ก็เป็นหลักการเดียวกันกับตอนที่เราเล่นประจำที่ฮอลลีวูดรัชดา เราตกลงกันว่าเราจะไม่ลงไปข้างล่างโดยไม่จำเป็น คนที่มาเที่ยวจะเห็นเราเฉพาะตอนที่เราอยู่บนเวทีเท่านั้น เราเล่นเพลงแรง แต่งตัวจัด เราทำตัวให้ดูแพง เราทำตัวเป็นศิลปินกันตั้งแต่ตอนนั้น แล้วมันก็ได้ผล วงเราได้รับความนิยมเป็นอย่างมากมีชื่อเสียงจนได้ออกเทป
ผมยอมรับว่าถึงวันนี้ผมยังไม่ตกผลึกกับไอเดียที่ผมเสนอให้แบ่งรายได้จากการไปออกรายการเลยว่ามันควร หรือไม่ควร และด้วยความสัตย์จริง พี่อี๊ดแบ่งรายได้มาให้กองกลางไม่กี่งาน เราก็เลิกใช้กติกานี้ เพราะเราก็เห็นชัดเจนว่าพี่อี๊ดไม่โอเค เงินกองกลางเราเอาไว้ใช้กินดื่มด้วยกันระหว่างการเดินทางต่างๆ บางส่วนก็แบ่งให้สตาฟฟ์ เงินไม่เคยเข้ากระเป๋าส่วนตัวของใคร ถ้าเรื่องนี้เป็นเหตุผลที่ทำให้พี่อี๊ดไม่อยากอยู่กับเราตั้งแต่ตอนนั้น ผมก็เข้าใจได้ ถ้าเรื่องนี้คือความผิด ผมก็ยอมรับผิดครับ #10ปีก”
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Jack Fly, Charlie Salee