ดราม่าเดือด! ชาวเน็ตแซะ หลัง “ไฮโซน้ำหวาน พัสวี” ภรรยา “นาวิน ตาร์” โพสต์ร่ายยาว หลังถูกลูกค้าในร้านกาแฟมองค้อนใส่ลูก
เรียกได้ว่ากลายเป็นประเด็นดราม่าร้อนในโลกโซเชียล ที่ชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง หลังจากที่ น้ำหวาน พัสวี ภรรยาของ นาวิน ต้าร์ ศิลปินชื่อดัง
โดยเธอโพสต์ข้อความร่ายยาว บอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในร้านกาแฟใกล้บ้านโดยโพสต์ว่า
วันนี้เป็นอีกวันธรรมดาที่แสนจะหนักเมื่อต้องทำหน้าที่ปกป้องลูกทั้ง3คนจากสายตาคนคนนึงที่ดูโหดร้ายและน่ากลัว ทุกวันหยุดของเราเรา เพราะคุณพ่อเดินออกไปข้างนอกเหลือแค่คุณแม่ ปกติน้ำหวานจะพาลูกๆทั้ง3คนออกไปนั่งร้านแกแฟและทานขนมนอกบ้าน ด้วยความที่เด็ก3คนของเคา เคยชินกับการไปร้านกาแฟเจ้าประจำ ในความเป็นเด็กมีคุยกันร้องเพลงซึ่งอาจจะมีเสียงรบกวนบ้างแต่เราดูแลลูกเป็นอย่างดีไม่ได้ทำให้รบกวนใครจนเกินไป มีลูกค้าทุกโต๊ะนั่งยิ้มและหลายท่านทักทายคุยกับเด็กๆ แต่ในความสนุกนั้น กับมีสายตาคู่นึงนั่งค้อนน้องและหั่นมามองลูกทั้ง3เหมือนจะกินลูกน้ำหวานทั้ง3คนเข้าไปในท้อง ด้วยความที่อาจจะมานั่งทำวิทยานิพนธ์ ต้องการความเงียบแบบไร้เสียง ซึ่งส่วนตัวแนะนำว่าคุณควรนั่งทำที่ห้องเงียบๆ เพราะร้านกาแฟเสียงเครื่องปั่นก็ดังมาก ทุกโต๊ะก็นั่งกันเป็นครอบครัวบ้าง คุยสนุกกับเพื่อนๆบ้างโดยรวมดูอบอุ่น แต่มีท่านผู้หญิงอายุประมาณ23-25อยู่ท่านนึง มาด้วยอาการหันมามองเด็กๆด้วยสายตาแย่ๆถึง3-4ครั้ง ทำให้เด็กตกใจ และเค้ายังไม่รู้ว่าเค้าผิดยังไง ทำไมต้องเจอการสายตาแบบนี้กับผู้ใหญ่ ที่ไร้ความคิด ไร้คุณธรรมเช่นนี้ ถ้าคุณอยากจะว่าต้องว่าที่น้ำหวาน เลี้ยงลูกอบรมไม่ดีไม่ใช่ส่งสายตานี้ไปที่เด็ก 1ขวบครึ่ง 5ขวบ และ7ขวบ แบบนี้ ในขณะที่คุณก็คงเคยผ่านการเป็นเด็กมาก่อน น้ำหวานอาจจะอบรมลูกไม่ได้พอ แต่ด้วยการเลี้ยงดูของคนเป็นแม่เราจะสอนให้เข้าใจ ไม่ใช้สั่งด้วยสายตาอย่างไร้เหตุผลเพื่อทำให้เด็กกลัว น้ำหวานอยู่ในจุดที่ปกป้องลูกด้วยความอดทนสูงสุดคือเดินเข้าไปที่โดะดังกล่าวและมองเพื่อส่งสายตาบอกว่าว่าที่ชั้นสิ และในขณะเดียวกันได้บอกลูกว่าไม่ต้องกลัวนะลูกแม่อยู่ตรงนี้หนูไม่ได้ทำอะไรผิด เพื่อให้กำลังใจลูกไม่ให้กลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพีาะน้องโกะกำลังจะร้องไห้ และน้ำหวานได้พูดตรงโต๊ะนั้นไปว่าการที่ผู้ใหญ่แสดงปฏิกิริยาแบบนี้ต่อเด็ก มันแย่กว่าสิ่งที่เด็กเสียงดังเยอะมากคะ ซึ่งน้ำหวานก็รอเค้าที่จะคุยโต้ตอบ แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบคำพูดใดๆ แต่วันนี้รู้สึกอัดอั้นจริงๆ ไม่อยากให้คุณแม่ท่านไหนมาเจอในสิ่งที่เจอแบบน้ำหวาน ในเหตุการณ์จริง มันแย่กว่านี้มากคะ #แม่ลูก3
ทันทีที่โพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ หลายเสียงในโลกออนไลน์ออกมาแสดงความคิดเห็นหลากหลาย โดยมีทั้งผู้ที่เห็นใจ น้ำหวาน และผู้ที่มองว่าเหตุการณ์นี้ควรเป็นบทเรียนเรื่องการเคารพพื้นที่สาธารณะร่วมกัน มีผู้ใช้โซเชียลบางส่วนตั้งคำถามถึงความเหมาะสมของการปล่อยให้เด็กส่งเสียงดังในร้านกาแฟ ซึ่งไม่ได้เป็นพื้นที่สำหรับครอบครัวเพียงกลุ่มเดียว
หลายความเห็นยังมองว่า การที่ น้ำหวาน เดินไปจ้องกลับและพูดกับลูกค้าโดยตรง อาจเป็นการรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัว และไม่ใช่วิธีที่เหมาะสมในการแก้ปัญหาในสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลอื่นในที่สาธารณะ และเหตุการณ์นี้กลายเป็นตัวอย่างของความขัดแย้งระหว่างสิทธิในการเลี้ยงดูลูกของผู้ปกครอง กับความต้องการพื้นที่สงบของคนอื่นในพื้นที่สาธารณะ ซึ่งสะท้อนถึงความจำเป็นของความเข้าใจซึ่งกันและกันระหว่างผู้ใช้พื้นที่ทุกกลุ่ม
อีกทั้งเหตุการณ์นี้ยังเป็นเครื่องเตือนใจให้พ่อแม่ผู้ปกครอง ไม่เพียงแต่พาเด็กออกมาทำกิจกรรม แต่ควรคอยดูแลอย่างใกล้ชิด และตระหนักถึงบริบทของสถานที่ เพื่อไม่ให้กลายเป็นภาระทางเสียงหรืออารมณ์ต่อผู้อื่นโดยไม่ตั้งใจ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หนูน้อยอารมณ์ดี! “น้องสเปซ” หัวเราะชอบใจ เมื่อถูกพ่อเป็กฟัดแก้ม น่ารัก น่ามันเขี้ยวสุดๆ