ศาล MOU นิติ มธ.ปธ.ศาลฎีกา เผยศาลต้องยืนหยัดตามโลกเปลี่ยนเเปลง
เมื่อวันที่ 27 ส.ค.2568 ที่ ห้องพระมาตุลี 1 โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น สำนักงานศาลยุติธรรม ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง กับคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกันจัด พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการระหว่างศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง และสำนักงานศาลยุติธรรม กับคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และโครงการสัมมนาวิชาการเรื่อง "ทรัพย์สินทางปัญญากับการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล” (Intellectual property and unfair competition in the digital economy)"
โอกาสนี้ นางชนากานต์ ธีรเวชพลกุล ประธานศาลฎีกา ร่วมปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ "การพัฒนาบุคลากรของศาลยุติธรรมเพื่อพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต"
ว่าบทบาทของศาลยุติธรรมในฐานะเป็นกลไกหลักในการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน รวมถึงการธำรงความยุติธรรมในสังคม ความจำเป็นที่บุคลากรของศาลยุติธรรมต้องมีความรู้ทางกฎหมายที่ถูกต้อง ทันสมัย และสอดคล้องกับบริบทของสังคมที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
“การพัฒนาบุคลากรของศาลยุติธรรมจึงเป็นหัวใจสำคัญ เราต้องไม่เพียง “ก้าวให้ทันโลก” แต่ต้อง “ก้าวนำด้วยปัญญาและความยุติธรรม” เพื่อให้ศาลยุติธรรมไทย สามารถยืนหยัดท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ได้อย่างสง่างาม และให้ศาลยุติธรรมยังคงเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชนได้อย่างแท้จริง” นางชนากานต์กล่าว
ประธานศาลฎีกา ได้กล่าวถึงแนวทางการพัฒนาบุคลากรของศาลยุติธรรมในด้านการอบรมกฎหมายว่า ประกอบด้วย การอบรมเชิงรุกและเฉพาะทางเพิ่มหลักสูตรอบรมที่ตอบโจทย์ประเด็นทางกฎหมายสมัยใหม่ การใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ส่งเสริมการอบรมในรูปแบบ e-learning ในหัวข้อที่เหมาะสม การปลูกฝังวัฒนธรรมการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Life - long Learning)การพัฒนาทักษะด้าน soft skills และความร่วมมือระหว่างองค์กรเปิดพื้นที่ความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย องค์กรระหว่างประเทศ และภาคประชาสังคม เพื่อให้การอบรมมีมุมมองที่หลากหลาย รอบด้านและทันสมัย
ด้าน นางธารทิพย์ จงจักรพันธ์ อธิบดีศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ได้ร่วมกล่าวหัวข้อ"การดำเนินการตามนโยบายประธานศาลฎีกา เรื่อง การส่งเสริมความรู้กฎหมายเฉพาะด้าน" ว่าการลงนามในบันทึกความร่วมมือทางวิชาการระหว่างสามหน่วยงานในครั้งนี้เป็นพัฒนาการที่สำคัญอีกก้าวหนึ่ง ศาลในฐานะที่ใช้กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาและกฎหมายการค้าระหว่างประเทศกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น กับคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำ ที่มีองค์ความรู้ทางด้านทฤษฎี ได้ผสานความร่วมมือทางวิชาการ การจัดสัมมนาทางวิชาการในวันนี้ และการจัดทำหลักสูตรความรู้กฎหมายเฉพาะทางที่ตรงกับปัญหาของประเทศที่เกิดขึ้น จะเป็นก้าวแรกและผลงานที่สำคัญ ซึ่งได้รับความสนับสนุนอย่างดียิ่งจากท่านประธานศาลฎีกา ที่เล็งเห็นถึงการเสริมสร้างพัฒนาความรู้ความเชี่ยวชาญในกฎหมายเฉพาะด้าน และส่งเสริมโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิต อันนำไปสู่เป้าหมายตามนโยบายของประธานศาลฎีกา คือคุณภาพของคำพิพากษา เพื่อรักษาความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อศาลยุติธรรมให้คงอยู่ตลอดไป
ขณะที่ รองศาสตราจารย์ ดร.สุปรียา แก้วละเอียด คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กล่าวในหัวข้อ"บทบาทของคณะนิติศาสตร์ในการสนับสนุนการดำเนินงานของศาลและการส่งเสริมการเรียนรู้ทางกฎหมายแก่ประชาชน" ว่า ความร่วมมือครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่กระบวนการยุติธรรมไทยและยังสะท้อนถึงพันธกิจของคณะนิติศาสตร์ที่มุ่งมั่นจะผลิตนักกฎหมายคุณภาพควบคู่ไปกับการสนับสนุนภารกิจของศาล และการส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้ในด้านการผลิตนักกฎหมายคณะฯ ดำเนินการจัดการเรียนการสอนในหลักสูตรปริญญา (Degree Program) คณะฯ ตระหนักดีว่าการเรียนรู้กฎหมายไม่ควรถูกจำกัดอยู่เพียงในห้องเรียนหรือเฉพาะช่วงระยะเวลาของการศึกษาในมหาวิทยาลัย หากแต่ต้องเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต (Lifelong Learning) เพื่อให้สามารถรับมือกับพลวัตทางสังคมเศรษฐกิจ และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
“ที่ผ่านมาคณะฯ ได้จัดทำหลักสูตรเฉพาะทางและหลักสูตรระยะสั้นที่ตอบสนองความต้องการของสังคมเช่นหลักสูตรอบรมด้านกฎหมายการเงิน กฎหมายภาษีกฎหมายการค้าระหว่างประเทศ หรือหลักสูตรที่จะจัดขึ้นร่วมกับศาลเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรศาลโดยตรงและการเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถเรียนรู้กฎหมายได้อย่างต่อเนื่องและทันต่อความเปลี่ยนแปลง ความร่วมมือกับศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง และสำนักงานศาลยุติธรรมในวันนี้เป็นการยืนยันอย่างชัดเจนว่า สถาบันการศึกษากฎหมายและองค์กรตุลาการจำเป็นต้องดำเนินงานเคียงข้างกัน ทั้งในการพัฒนานักกฎหมายที่มีคุณภาพสำหรับกระบวนการยุติธรรม และร่วมสร้างสังคมที่ตั้งอยู่บนฐานของความรู้และความเคารพกฎหมาย” รองศาสตราจารย์ ดร.สุปรียา กล่าว
จากนั้น ได้มีพิธีลงนาม "บันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการระหว่างศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง และสำนักงานศาลยุติธรรม กับคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์” เพื่อร่วมมือกันในการจัดการศึกษา ฝึกอบรม ประชุมทางวิชาการและการสัมมนา รวมถึงเสริมสร้าง องค์ความรู้ประสบการณ์และความชำนาญเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ และร่วมมือในการศึกษาค้นคว้าวิจัยแลกเปลี่ยนข้อมูลทางด้านกฎหมาย การฝึกอบรมสัมมนาการบรรยาย การทำกิจกรรม และการแบ่งปันประสบการณ์
พร้อมกันนี้ ได้จัดให้มีการสัมมนาวิชาการ เรื่อง "ทรัพย์สินทางปัญญากับการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล (Intellectual property and unfair competition in the digital economy)"
โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานสำคัญ ได้แก่ นายปุลวิทย์ วาณิชยเศรษฐกุล ผู้พิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เอมผกา เตชะอภัยคุณ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สาขากฎหมายเอกชนคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดร.เมษปิติ พูลสวัสดิ์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นางสาวปิยาพัชร ทับอินทร์ หัวหน้ากลุ่มบริหารงานคดี รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานคดี สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า และนายสรวิศ ลิมปรังษี รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ผู้ดำเนินรายการสัมมนา
โอกาสนี้ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เปิดตัวโครงการอบรมระยะสั้นสองหลักสูตรภายใต้ความร่วมมือระหว่างคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางได้แก่ หลักสูตรกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาสำหรับผู้ปฏิบัติงาน และหลักสูตรกฎหมายการค้าและเศรษฐกิจระหว่างประเทศสำหรับผู้ปฏิบัติงานซึ่งผู้ผ่านการอบรมจะได้รับประกาศนียบัตรรับรองจากทั้งสองหน่วยงาน โดยคาดว่าจะเริ่มมีการประชาสัมพันธ์ในเดือนกันยายน 2568 นี้ ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวและความคืบหน้าของหลักสูตรได้ผ่านทางเว็บไซต์ของคณะนิติศาสตร์ มธ https://law.tu.ac.th/ หรือเว็บไซต์ของศูนย์ฝึกอบรมและให้คำปรึกษาทางกฎหมายคณะนิติศาสตร์ มธ. (LeTEC ) https://letec.law.tu.ac.th/ หรือ Facebook : LeTEC.LawTU หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ line@leteclawtu