โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

ฟิทช์ ให้เรทติ้งหุ้นกู้สกุลบาท “ไทยเบฟ” วงเงิน 28,000 ลบ. ที่ AA นำเงินคืนหนี้

การเงินธนาคาร

อัพเดต 11 สิงหาคม 2568 เวลา 17.23 น. • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ฟิทช์ จัดอันดับเครดิตภายในประเทศหุ้นกู้ “ไทยเบฟ” สกุลบาท วงเงิน 28,000 ล้านบาท อายุ 10 ปี ที่ ‘AA’ นำเงินคืนหนี้เดิม

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศจัดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long Term Rating) หุ้นกู้ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิชุดใหม่ของบมจ.ไทยเบฟเวอเรจ (ThaiBev) (ซึ่งมีอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศที่ ‘BBB-’ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ ‘AA(tha)’ แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ)

หุ้นกู้ที่จัดอันดับเครดิตมีมูลค่าไม่เกิน 28,000 ล้านบาท ที่ระดับ ‘AA(tha)’ โดยหุ้นกู้ดังกล่าวอายุไม่เกิน 10 ปี เงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ครั้งนี้จะนำไปใช้สำหรับชำระคืนหนี้เดิม

หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับเครดิตในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ ThaiBev เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวมีสถานะเท่าเทียมกับหนี้ไม่มีหลักประกัน และไม่ด้อยสิทธิของ ThaiBev

ปัจจัยที่มีผลต่ออันดับเครดิต

อัตราส่วนหนี้สินลดลงอย่างต่อเนื่อง

ฟิทช์คาดการณ์ว่า ThaiBev จะรักษาอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย หรือ EBITDA net leverage ที่ 3.0-3.5 เท่า ในช่วงสองปีข้างหน้า แม้ว่า อัตราส่วนของหนี้สิน ณ มีนาคม 2568 (ครึ่งปีแรกของปีงบการเงิน 2568) ซึ่งอยู่ที่ 3.8 เท่า ซึ่งฟิทช์คาดว่าจะลดลงอยู่ที่ระดับ 3.4 เท่า ในสิ้นปีงบการเงิน สิ้นสุด กันยายน 2568 (ปีงบการเงิน 2568) หนี้สินสุทธิสูงกว่าระดับที่คาดในครึ่งปีแรกเนื่องมาจากช่วงเวลาของของการจ่ายเงินปันผล (การจ่ายปันผลในครึ่งปีแรกคิดเป็นร้อยละ 75-80 ของทั้งปี)

ฟิชท์คาดว่า EBITDA net leverage ของไทยเบฟ จะลดลงในช่วงครึ่งปีหลัง 2568 ซึ่งจะได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของตลาดเบียร์ จากการผ่อนผันกฎเกณฑ์การจำหน่ายและบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในประเทศไทย และการเติบโตอย่างต่อเนื่องในธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์

ในขณะที่ธุรกิจสุราจะยังคงเติบโตอยู่ในระดับต่ำ บริษัทฯ ได้เปิดตัวสุราใหม่เพื่อรองรับความต้องการในตลาดผลิตภัณฑ์พรีเมียม ซึ่งจะสนับสนุนการเติบโตของปริมาณจำหน่ายในธุรกิจสุรา แม้ว่าจะมีแรงกดดันทางเศรษฐกิจและการแข่งขันจากผลิตภัณฑ์ทางเลือกอื่น ๆ ก็ตาม

อัตรากำไรคงที่

ฟิทช์คาดว่า ThaiBev จะสามารถรักษาอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย ต่อรายได้สุทธิหลังหักภาษีสรรพสามิต (EBITDA margin) ที่ร้อยละ 22 ในปีงบการเงิน 2568-2569

EBITDA margin ครึ่งปีแรกงบการเงิน 2568 ปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ระดับร้อยละ 22.7 จากร้อยละ 21.6 ในปีงบการเงิน 2567 จากราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวลดลงและปริมาณการขายที่เติบโตในตลาดเบียร์

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยดังกล่าวอาจถูกลดทอนด้วยการเติบโตของปริมาณการขายที่ต่ำในธุรกิจสุราซึ่งเป็นธุรกิจที่มีอัตรากำไรสูง แรงกดดันจากเงินเฟ้อ และต้นทุนแรงงานที่สูงขึ้น

กระแสเงินสดจากการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้น

ฟิทช์คาดว่ากระแสเงินสดสุทธิ (Free cash flow) ของ ThaiBev จะปรับตัวดีขึ้นเป็น 1.0-1.5 หมื่นล้านบาทต่อปี ในปีงบการเงิน 2568-2569 จากจากกระแสเงินสดสุทธิที่เป็นลบ 0.7 พันล้านบาทในครึ่งปีแรก

ของปีงบการเงิน 2568 ซึ่งจะได้รับการสนับสนุนจากรอบการรับเงินปันผลจากบริษัทลูก และการจ่ายเงินปันผลทั้งปี ค่าใช้จ่ายในการลงทุนของ ThaiBev น่าจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 1.2-1.4 หมื่นล้านบาทต่อปี ในปีงบการเงิน 2568-2569 เนื่องจากการขยายโรงงานผลิตนมของ F&N เพื่อสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจ

ฟิทช์คาดว่า ThaiBev จะใช้กระแสเงินสดสุทธิเพื่อลดหนี้ แม้ว่าหากมีโอกาสในการเข้าซื้อกิจการเกิดขึ้นในอนาคต แผนการเข้าซื้อกิจการของบริษัทฯ อาจทำให้การลดหนี้ช้ากว่าที่คาดการณ์

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องกับ สถานการณ์หุ้นไทย-ตลาดหุ้นไทย ได้ที่นี่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก การเงินธนาคาร

ดีลอยท์ เปิดตัว GenAI ใหม่ พลิกโฉมตรวจสอบบัญชี รับมือธุรกิจซับซ้อน

21 นาทีที่แล้ว

HSBC คาดกนง.จะ “ลด” ดอกเบี้ยลง 0.25% แต่ภาษีสหรัฐฯ 19% ที่ดีกว่าคาดอาจเปลี่ยนใจให้ “คง”

24 นาทีที่แล้ว

ธ.ก.ส. เปิดตัว “โรงเรียนเกษตรธนากร” มุ่งเพิ่มเกษตรกรเยาวชน นำร่อง 18 โรงเรียนทั่วประเทศ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ดร.อมรเทพ คาด กนง. หั่นดอกเบี้ยเหลือ 1.50% วันที่ 13 ส.ค. 2568

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความหุ้น การลงทุนอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...