‘สส.พรรคประชาชน’ ยื่น กมธ.การศึกษา ปมครูทำร้ายร่างกายนักเรียน แนะหาแนวทางการแก้ไขปัญหา
เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ที่รัฐสภา นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ สส.ระยอง พรรคประชาชน ยื่นหนังสือถึง น.ส.พิมพ์กาญจน์ กีรติวิราปกรณ์ สส.กทม. พรรคประชาชน ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศึกษา เรื่องขอให้ตรวจสอบและดำเนินการกรณีครูทำร้ายร่างกายนักเรียนโรงเรียนวัดวังหิน ต.วังหว้า อ.แกลง จ.ระยอง
นายพงศธร กล่าวภายหลังการยื่นหนังสือว่า ด้วยปรากฏเหตุการณ์กรณีครูทำร้ายร่างกายนักเรียน ที่โรงเรียนวัดวังหิน กรณีดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์และสื่อท้องถิ่น ทำให้เกิดความสนใจและวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง โดยมีข้อเท็จจริงเบื้องต้น คือ ผู้ปกครองนักเรียนรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความสอบถามในสื่อสังคมออนไลน์ว่ามีวิธีช่วยเหลืออย่างไร เนื่องจากน้องชายตนถูกครูทำร้าย แต่ไม่ได้ระบุชื่อครูหรือโรงเรียน ทางโรงเรียนได้ติดต่อไปหาผู้โพสต์ และระบุว่าครูผู้เกี่ยวข้องรู้สึกผิดและต้องการขอโทษ พร้อมขอให้ลบโพสต์ดังกล่าว
นายพงศธร กล่าวอีกว่า ครูผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งเป็นครูสอนวิชาพละศึกษา ได้แจ้งว่าต้องการขอโทษ จึงนัดหมายให้ผู้ปกครองนักเรียนมาที่โรงเรียน แต่เมื่อถึงกำหนด ครูกลับไม่ได้มาพบตามนัดหมาย ต่อมามีน้องสาวของครูคนดังกล่าว ส่งข้อความไปยังผู้โพสต์ ซึ่งเป็นพี่สาวของนักเรียน ในลักษณะไม่เหมาะสม และเมื่อเกิดการโต้ตอบกัน จึงทำให้เรื่องราวถูกนำกลับมาเผยแพร่ใหม่อีกครั้ง รวมทั้งมีการขยายข่าวผ่านเพจท้องถิ่นและสื่อออนไลน์ ผู้ปกครองพยายามติดต่อโรงเรียนเพื่อขอคำชี้แจง แต่ไม่ได้รับการตอบสนองหรือการขอโทษอย่างเป็นทางการ
นายพงศธร กล่าวอีกว่า ส่งผลให้นักเรียนผู้เสียหายมีพฤติกรรมหวาดกลัว โดยเฉพาะเมื่อถูกบังคับให้ตัดผมสั้น เนื่องจากเคยถูกครูตบศีรษะเมื่อผมเกรียน หลังข่าวเผยแพร่ มีผู้ปกครองรายอื่นแจ้งว่าบุตรหลานของตนเคยประสบเหตุการณ์ลักษณะเดียวกัน ปัจจุบัน นักเรียนผู้เสียหาย ยังคงมาโรงเรียนตามปกติ แต่มีความหวาดระแวงเกรงว่าจะถูกครูทำร้ายอีก ครอบครัวผู้เสียหายมีแผนจะไปแจ้งความและลงบันทึกประจำวันต่อพนักงานสอบสอบสวน
นายพงศธร กล่าวอีกว่า นอกจากประเด็นดังกล่าว ก่อนหน้านี้ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีกรณีรองผู้อำนวยโรงเรียนแกลงวิทยสถาวร อ.แกลง จ.ระยอง มีการตัดผมนักเรียนหญิงจนสั้น ส่งผลกระทบกับจิตใจของนักเรียน ภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าว ทางโรงเรียนได้ออกมาชี้แจงและมีการตั้งกรรมการพิจารณาสอบสวนกรณีดังกล่าว จนถึงตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้า จึงขอให้คณะ กมธ.การศึกษา โปรดพิจารณาและดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งสองกรณีที่เกิดขึ้น รวมถึงกำหนดมาตรการป้องกันมีให้เกิดเหตุซ้ำ
นายพงศธร กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ในโรงเรียนในอำเภอแกลง เป็นเรื่องที่เกิดจากผู้ปกครองนักเรียนได้ร้องผ่านสื่อโซเชียล ว่ามีครูพละ ได้มีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงกับเด็กนักเรียน ชั้น ป.5 ผู้ปกครองจึงได้มาร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรม จากการตรวจสอบก็พบข้อเท็จจริงว่า ครูพละมีพฤติกรรมตบหัวเด็กนักเรียน โดยเฉพาะนักเรียนชั้น ป.5 คนนี้อยู่เป็นประจำ
นายพงศธร กล่าวอีกว่า จนกระทั่งเด็กเกิดความหวาดกลัว เกิดความไม่สบายใจที่จะไปโรงเรียน รวมถึงมีผู้ปกครองคนอื่นๆ ก็แจ้งว่ามีเด็กหลายคนต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกัน อย่างไรก็ตาม จะนำเรื่องดังกล่าวเข้ามาสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการการศึกษา เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อหาแนวทางในการป้องกันการใช้ความ
น.ส.พิมพ์กาญจน์ กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า ในพื้นที่ของโรงเรียนควรเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน ไม่ใช่เพียงนักเรียน จะต้องรวมถึงกับครูด้วย เหตุการณ์ครั้งนี้และเหตุการณ์หลายๆ ครั้งที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่ากระทรวงศึกษาธิการยังทำงานได้ไม่ดีพอในการสร้างพื้นที่ปลอดภัยในโรงเรียน และรากเหง้าของปัญหานี้ ที่แท้จริงคือความไม่เข้าใจกันระหว่าง 2 ฝ่าย
น.ส.พิมพ์กาญจน์ กล่าวอีกว่า ซึ่งทางพรรคประชาชนมีข้อเสนอมาตั้งแต่สมัยเป็นพรรคก้าวไกล ในแง่ของการจัดในเรื่องของนักจิตวิทยาเพื่อจะอบรม พัฒนาทักษะของคุณครูที่จะสังเกตพฤติกรรมรุนแรงต่างๆ พฤติกรรมที่อาจจะเกิดปัญหาจากที่บ้าน เพื่อหาทางที่จะช่วยเหลือนักเรียน รวมถึงพัฒนาทักษะในการเข้าไปให้เด็กสร้างกลไกที่ทำให้เด็กสามารถที่จะร้องเรียนกับผู้ใหญ่ได้อย่างปลอดภัย
น.ส.พิมพ์กาญจน์ กล่าวอีกว่า ดังนั้น ขอให้ประเด็นดังกล่าวข้างต้น ขอให้เป็นครั้งสุดท้ายที่เกิดความรุนแรงขึ้นในโรงเรียน แต่ยังต้องอาศัยความร่วมมือของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นสื่อมวลชน ผู้ปกครอง โรงเรียนจะต้องทำงานร่วมกันเป็นระบบเพื่อลดความรุนแรง จะรวบรวมทุกประเด็นปัญหาเพื่อนำมาเป็นข้อเสนอที่ชัดเจน และนำส่งไปยัง รมว.ศึกษาฯ เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง เพื่อที่จะปกป้องนักเรียน เยาวชนของชาติ รวมถึงบุคลากรทางการศึกษาต่อไป