ACEเฮ!รับยิลด์เพิ่ม ต้นทุนการเงินลดลง ลุยเต็มสูบเพิ่มพอร์ต
#ACE #ทันหุ้น – ACE รับเต็มอานิสงส์ดอกเบี้ยขาลง ชี้มีเงินกู้ส่วนหนึ่งผูกกับดอกเบี้ย THOR ลดตามดอกเบี้ยนโยบายทันที ยิ้มแบงก์เร่งลด MLR ประกาศขยายพอร์ตพลังงานสะอาดเต็มสูบ ล่าสุด COD โซลาร์ฟาร์ม 2 โครงการใหม่ เสริมกำลังผลิตหนุนรายได้ปีนี้ แย้มคุย M&A เพียบแต่จะคัดสรรให้ดีที่สุด
นายธนะชัย บัณฑิตวรภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE ผู้นำด้านธุรกิจพลังงานสะอาดของไทย เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า การที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเอกฉันท์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเหลือ 1.50% จะส่งผลดีต่อ ACE อย่างชัดเจน เนื่องจากบริษัทมีการกู้เงินจากสถาบันการเงินเพื่อลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าต่างๆ จำนวนมาก
ซึ่งเงินกู้ของบริษัทมีทั้งที่ผูกกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (MLR) และที่ผูกกับอัตราดอกเบี้ย THOR (THBFIX Overnight Repurchase Rate) ซึ่งอ้างอิงกับดอกเบี้ยนโยบาย ดังนั้นเมื่อดอกเบี้ยนโยบายลดลง THOR ก็จะปรับลดลงทันที ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ก็ได้มีการปรับลดดอกเบี้ย MLR ลงเช่นกัน ก็จะส่งผลให้ภาระดอกเบี้ยที่ ACE ต้องจ่ายลดลงโดยธรรมชาติ
“ในการลงทุนแต่ละโครงการ ACE ใช้เงินกู้จากสถาบันการเงินประมาณ 70% และเงินลงทุนของบริษัทเองประมาณ 30% ซึ่งดอกเบี้ยธนาคารมีทั้ง MLR- และ THOR+ ซึ่งเป็นดอกเบี้ยลอยตัว ดังนั้นดอกเบี้ยที่ลดลงจะได้รับประโยชน์มาก โดย THOR จะลดลงทันที ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทมีเงินกู้ที่เป็น MLR ต้องรอแบงก์ลดดอกเบี้ย อย่างไรก็ดีแต่ก็ได้มีการเจรจา และมีบางส่วนผูกกับ THOR ซึ่งเป็นบริหารจัดการความเสี่ยง”
@ ผลตอบแทนสูงขึ้น
นายธนะชัย กล่าวด้วยว่า นอกจากโครงการปัจจุบันของบริษัทแล้ว บริษัทยังมีการเดินหน้าลงทุนโครงการอื่นๆ อีกจำนวนมาก มีโครงการที่ยังไม่ก่อสร้าง ดังนั้นลดลงของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จึงส่งผลให้การประมาณผลตอบแทนจากการการลงทุน (Project IRR) สูงขึ้น
ทั้งนี้บริษัทยังคงมุ่งมั่นขยายพอร์ตพลังงานสีเขียวอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้เริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (โซลาร์ฟาร์ม) เพิ่มอีก 2 โครงการ กำลังผลิตเสนอขายรวม 7.38 เมกะวัตต์ ซึ่งจะช่วยหนุนการเติบโตของผลประกอบการในปีนี้อย่างมีนัยสำคัญ
@ COD โรงไฟฟ้าเพิ่ม
โรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มทั้ง 2 โครงการ ดำเนินการโดยบริษัทย่อยที่ ACE ถือหุ้นทางอ้อม 100% ได้แก่ บริษัท โรงไฟฟ้าชุมชนหนองบัวลำภูพัฒนา จำกัด และบริษัท อัลไลแอนซ์ คลีน เพาเวอร์ จำกัด ซึ่งมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้เริ่ม COD เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 และวันที่ 7 สิงหาคม 2568 ตามลำดับ
โครงการเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ ACE ชนะการประมูลโครงการพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565 – 2573 รวม 18 โครงการ กำลังการผลิตเสนอขายรวม 112.73 เมกะวัตต์ บริษัทคาดว่าจะสามารถทยอยเปิด COD โรงไฟฟ้าในกลุ่ม 18 โครงการนี้เพิ่มเติมได้อีกหลายโครงการภายในไตรมาส 3 ปีนี้
“จากสัญญาที่ทำไว้ มี 10 โครงการ ที่กำหนดต้อง COD ภายในปีนี้ ซึ่ง ACE จะเร่งดำเนินการ COD โครงการที่พร้อมก่อน เพื่อให้สามารถรับรู้รายได้ ได้เร็วขึ้น”
@ดีล M&A
ปัจจุบัน ACE มีโครงการโรงไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 92 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 758.25 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น โครงการที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว 37 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 366.16 เมกะวัตต์ และ โครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 55 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 392.09 เมกะวัตต์ ในจำนวนโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา อาทิ โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล VSPP จำนวน 9 โครงการ ที่ได้รับ PPA คืนมาจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนจำนวน 7 โครงการ
นายธนะชัย กล่าวว่า จากการ COD ที่มากขึ้นปีนี้ ACE จะมีการเติบโตของรายได้เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน นอกจากนี้ บริษัทกำลังพิจารณา การควบรวมกิจการ (M&A) และการลงทุนในโครงการใหม่ๆ โดยมีการพูดคุยอยู่หลายโครงการ ซึ่งจะพิจารณาด้วยความละเอียดรอบคอบและเลือกสรรมากขึ้น รวมถึ ยังคงมุ่งมั่นสู่เป้าหมายการเป็น “ต้นแบบผู้นำด้านธุรกิจพลังงานสะอาดของโลก” และบรรลุการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ให้ได้ภายในปี พ.ศ. 2593