CIB รวบแก๊งสแกมเมอร์อาชญากรรมข้ามชาติ หลอกเหยื่อโอนเงิน สูญ 1.8 หมื่น
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบแก๊งสแกมเมอร์อาชญากรรมข้ามชาติ หลอกเหยื่อโอนเงิน สูญ 1.8 หมื่นบาท
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม(กก.สสน.บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม พร้อมเจ้าหน้าที่ ร่วมกันจับกุม น.ส.พัทธนันท์ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1487/2568 ลงวันที่ 1 มีนาคม 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่อยู่ด้วยในขณะกระทำความผิดร้ายแรงหรือร่วมประชุม แต่ไม่ได้คัดค้านในการตกลงให้กระทำความผิดร้ายแรงนั้น รวมทั้งบรรดาหัวหน้า ผู้จัดการ และผู้มีตำแหน่งหน้าที่ในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาตินั้น, ร่วมกันเป็นอั้งยี่, ร่วมกันเป็นซ่องโจร ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน"
โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าโรงงานแห่งหนึ่ง ต.คลองใหม่ อ.สามพราน จ.นครปฐม พฤติการณ์ เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2567 เวลา 14.00 น. ขณะผู้เสียหาย อยู่ห้องพักในหอพักแห่งหนึ่ง ซ.เพชรบุรี 7 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร ผู้เสียหายได้ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัว โพสต์ขายใบจองคอนโดแห่งหนึ่ง เพชรบุรี-ทองหล่อ ในกลุ่มร้านค้าในเฟซบุ๊ก marketplace และกลุ่มเฟสบุ๊กขายใบจองคอนโดต่างๆ พบว่ามีคอมเมนต์ใต้โพสต์ขายและทักมาหาผู้เสียหายช่องทางกล่องข้อความเฟซบุ๊กของผู้เสียหาย จึงได้พูดคุยกับ ผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว
โดยได้คุยผ่านไลน์ (ทราบภายหลังคือ น.ส.พัทธนันท์ ผู้ต้องหารายนี้) พูดคุยสนทนาแนะนำตัวเองว่ามีเพื่อนสนใจจองคอนโด และดึงผู้เสียหายเข้ากลุ่มไลน์โอเพ่นแชท (Openchat) มีสมาชิกอยู่ในกลุ่ม ประมาณ 100 กว่าคน ชื่อไลน์กลุ่ม "STHREE THEONE THE BEST OF SHOPPING ONLINE" แนะนำให้ผู้เสียหายโพสต์ขายใบจองในกลุ่ม ผู้เสียหายจึงโพสต์ ปรากฏว่า ได้แจ้งให้ผู้เสียหายลงทะเบียนร้านค้าเพื่อโพสต์สินค้าก่อน
จากนั้น ผู้ใช้ไลน์ บอกว่าสนใจซื้อใบจองแต่ให้ผู้เสียหายลงทะเบียนกับฝ่ายบริการ พบว่าเป็นผู้ใช้ไลน์ "ฝ่ายบริการชื่อ… " เป็นผู้ขอข้อมูลส่วนตัวและเลขบัญชีธนาคารผู้ขาย กรอกข้อมูลให้ผ่านลิงก์ เมื่อลงทะเบียนเสร็จ ได้แจ้งรหัสเพื่อเข้าใจงาน และได้ให้ผู้เสียหายโอนเงินค่าลงทะเบียน 169 บาท ผู้เสียหายจึงโอนเงิน เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 เวลา 14.36 น. โอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย ไปยังบัญชีคนร้าย จำนวน 169 บาท ปรากฏว่าเป็นการทดลองระบบถอนเงิน สามารถถอนเงินออกมาจากระบบได้พร้อมกับกำไร รวมเป็นเงิน 204 บาท โอนเงินเข้าบัญชีอีกบัญชี ในวันเดียวกัน
จากนั้น คนร้ายแนะนำให้คุยกับผู้ใช้ไลน์ "วรรณณิษา" ผู้เสียหายจึงได้สนทนาด้วย และแจ้งว่ามีคนโอนเงินจองคอนโดแล้วพร้อมส่งสลิปการโอนเงินเป็นหลักฐาน โอนเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 เวลา 15.38 น. โอนจากบัญชีคนร้ายอีกคน จำนวน 30,000 บาท แต่ผู้เสียหายต้องการถอนเงิน แต่คนร้ายอ้างว่าให้ติดต่อ ผู้ใช้ไลน์แนะนำตัวว่าชื่อ น.ส.พรนภารัตน์ (สงวนนามสกุล) ผู้ชำนาญการการเงิน ผู้ดูแลระบบ Dropship MM ผลกำไร พร้อมแสดงบัตรพนักงานบริษัท และคนร้ายผู้ใช้ไลน์ดังกล่าว ขอหลักฐานการโอนเงินค่าลงทะเบียน ผู้เสียหายจึงส่งสลิปการลงทะเบียนไปให้ดูเพื่อเป็นหลักฐาน แล้วคนร้ายอ้างว่ายังถอนเงินจองคอนโดไม่ได้ ต้องร่วมทำกิจกรรมเปิดการมองเห็นสินค้ากับบริษัทก่อน
โดยคนร้าย จะส่งรูปภาพสินค้ามี 6 ชิ้น และให้ผู้เสียหายเลือกซื้อสินค้าและโอนเงินจำนวนราคาสินค้ามาให้ผ่านบัญชีพนักงานบริษัท ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อโอนเงิน ตามรายการโอนเงิน จำนวน 6 ครั้ง ดังต่อไปนี้
ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 เวลา 15.53 น. โอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย ไปยังบัญชี น.ส.สุนิศา (สงวนนามสกุล) จำนวน 999 บาท ปรากฏว่าไม่สามารถถอนเงินพร้อมกำไร ออกมาจากระบบได้ คนร้ายอ้างว่ายังทำกิจกรรมไม่ครบและหลอกให้โอนเงินอีก
ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 เวลา 16.02 น. โอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย ไปยังบัญชี น.ส.สุนิศา (สงวนนามสกุล) จํานวน 999 บาท ปรากฏว่าสามารถถอนเงินออกมาจากระบบได้พร้อมกับกำไร รวมเป็นเงิน 2,396 บาท โอนเงินเข้าอีกบัญชี ในวันเดียวกัน
ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 เวลา 16.25 น. โอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย ไปยังบัญชี น.ส.สุนิศา (สงวนนามสกุล) จำนวน 2,076 บาท ปรากฏว่าไม่สามารถถอนเงินพร้อมกำไรออกมาจากระบบได้ คนร้ายอ้างว่ายังทำกิจกรรมไม่ครบและหลอกว่าได้อัปเดทผู้เสียหายเป็น VIP และหลอกให้ทำกิจกรรมอีกจะถอนเงินได้ทั้งหมด
ครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 เวลา 16.35 น. โอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย ไปยังบัญชี น.ส.สุนิศา (สงวนนามสกุล) จำนวน 4,152 บาท ปรากฏว่าไม่สามารถถอนเงินพร้อมกำไรออกมาจากระบบได้ คนร้ายอ้างว่ายังทำกิจกรรมไม่ครบและหลอกให้โอนเงินอีก
ครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 เวลา 17.09 น. โอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย ไปยังบัญชี นายเชิดชัย (สงวนนามสกุล) จำนวน 12,456 บาท ปรากฏว่าไม่สามารถถอนเงินพร้อมกำไรออกมาจากระบบได้ คนร้ายอ้างว่าระบบมีปัญหา เนื่องจากผู้เสียหายใส่จำนวนเงินผิด
คนร้ายได้ให้โอนเงินมาแก้ไขระบบ จำนวน 52,420 บาท แต่ผู้เสียหายไม่มีเงินในบัญชีธนาคาร จึงได้ไปถอนเงินสด หักชำระผ่านบัตรเครดิต จำนวน 52,420 บาท โดยแบ่งการถอนเป็น 2 ครั้ง ครั้งแรก จำนวน 30,000 บาท ครั้งที่ 2 จำนวน 22,500 บาท เพื่อจะได้โอนมาไว้ที่บัญชีผู้เสียหายก่อน จึงจะโอนเงินต่อไปยังบัญชีบัญชีคนร้ายที่จะส่งมาให้ใหม่ จำนวน 52,420 บาท แต่ในระหว่างถอนเงินจากบัตรเครดิตในครั้งแรก จำนวน 30,000 บาท ได้สำเร็จแล้ว ระหว่างถอนเงินครั้งที่ 2 จำนวน 22,500 บาท ผู้เสียหายได้รับสายโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ธนาคาร แล้วเจ้าหน้าที่ธนาคาร มาสอบถามว่าถอนเงินจากบัตรเครดิตไปใช้เพื่อทำอะไร ผู้เสียหายจึงบอกไปว่าเพื่อทำกิจกรรม จึงแจ้งว่าเป็นมิจฉาชีพ ห้ามโอนเงิน ผู้เสียหายจึงไม่ได้โอนเงินจำนวนที่ถอนมาจากบัตรเครดิตที่ได้มาครั้งแรกดังกล่าว จึงทราบว่าถูกหลอกลวง เป็นเหตุได้รับความเสียหาย รวมเป็นเงิน 18,455 บาท
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงติดตามจับกุม น.ส.พัทธนันท์ ทำงานอยู่ที่โรงงานแห่งหนึ่่ง จ.นครปฐม จึงนำกำลังเข้าไปตรวจสอบ ก่อนจะพบตัวผู้ต้องหาอยู่บริเวณหน้าโรงงาน จึงเข้าแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ แสดงหมายจับ พร้อมแจ้งสิทธิให้ทราบ ก่อนควบคุมตัวส่ง สน.พญาไท ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป