เคยสงสัยไหม? ทำไมราคาสินค้าต่างๆ ถึงมักลงท้ายด้วย "เลข 9" ไม่ใช่แค่ไทย แต่ทั่วโลก
ทำไมราคาสินค้าถึงมักลงท้ายด้วยเลข 9?
เคยสังเกตไหมว่า… ไม่ว่าจะเดินห้างหรือช้อปออนไลน์ เรามักเห็นป้ายราคาสินค้าที่ลงท้ายด้วยเลข 9 อยู่เสมอ เช่น 99 บาท, 199 บาท, หรือแม้แต่ 9,999 บาท แต่เคยสงสัยไหมว่าทำไมราคาถึงไม่ทำเป็นตัวเลขกลมๆ ไปเลย? คำตอบอยู่ที่เทคนิคที่เรียกว่า "Charm Pricing" หรือการตั้งราคาด้วยเสน่ห์ของตัวเลข
Charm Pricing คืออะไร?
Charm Pricing คือกลยุทธ์ทางจิตวิทยาที่ผู้ค้าหลายรายใช้ในการตั้งราคา โดยตั้งใจให้ราคาสินค้าลงท้ายด้วยเลข 9 เพื่อสร้างความรู้สึกว่า “ถูกกว่า” หรือ “คุ้มค่า” แม้จะต่างจากราคาจริงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ตัวอย่างเช่น การตั้งราคา iPhone X ที่ 999 ดอลลาร์ แทนที่จะเป็น 1,000 ดอลลาร์เต็มๆ แม้จะห่างกันเพียง 1 ดอลลาร์ แต่ในสายตาผู้บริโภค ตัวเลข 999 ดู "ถูกกว่า" อย่างเห็นได้ชัด
ทำไมสมองเราถึงมองว่า 999 ถูกกว่า 1,000?
เพราะสมองมนุษย์มีแนวโน้มที่จะอ่านตัวเลขจากซ้ายไปขวา และจดจำตัวเลขแรกได้มากที่สุด นักวิจัยเรียกสิ่งนี้ว่า "left-digit effect" หรือ "เอฟเฟกต์ตัวเลขด้านซ้าย"
การศึกษาหนึ่งในปี 2005 พบว่า การเปลี่ยนราคาจาก 200,000 บาทเป็น 199,999 บาท แม้ต่างกันแค่ 1 บาท แต่ทำให้ผู้ซื้อรู้สึกว่าสินค้าดูถูกลงอย่างมีนัยสำคัญ
แม้รู้ว่า 99 = เกือบ 100 แต่ก็ยังเลือกซื้อ
ผู้บริโภคจำนวนมากรู้ดีว่าราคา 99 บาท ก็แทบไม่ต่างจาก 100 บาท แต่ก็ยังมีแนวโน้มที่จะเลือกซื้อสินค้าในราคาลงท้ายด้วย 9 อยู่ดี
ศาสตราจารย์ Subimal Chatterjee จากมหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮมอธิบายว่า คนเรามักไม่อยากรู้สึกว่าใช้เงิน "เกินจำเป็น" ดังนั้นแม้จะถูกกว่าแค่ 1 หน่วย ก็สามารถเปลี่ยนการตัดสินใจซื้อได้
เลข 9 ไม่ได้ใช้แค่ตอนลดราคา
นอกจากใช้ในการลดราคาแล้ว ตัวเลข 9 ยังถูกใช้ในเวลาขึ้นราคาด้วย เพราะยังคงช่วยกระตุ้นความรู้สึกว่าราคานั้นคุ้มค่าหรืออยู่ในช่วงที่ “ยอมรับได้”
นิตยสาร Harvard Business Review ระบุว่า เลข 9 มีบทบาทสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ “ราคาต่ำสุด” ในสายตาผู้บริโภค แม้ส่วนต่างของราคาจะเล็กน้อย แต่ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกเหมือน "ประหยัด" ได้
ระวังถูกเลข 9 หลอกแบบไม่รู้ตัว
แม้ Charm Pricing จะไม่ใช่กลลวง แต่ก็เป็นการเล่นกับจิตวิทยาผู้บริโภค ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า หากไม่ระวัง คุณอาจใช้จ่ายเกินงบโดยไม่รู้ตัว เพราะการซื้อของหลายชิ้นที่ราคาลงท้ายด้วย 9 บาท อาจรวมกันกลายเป็นเงินก้อนโตได้
ตัวอย่างเช่น เสื้อราคา 199 บาท กับอีกตัวที่ 299 บาท ฟังดูต่างกันมาก แต่ความจริงต่างกันแค่ 100 บาท และถ้าซื้อหลายรายการก็อาจเกินงบที่วางไว้
สรุป
Charm Pricing คือเทคนิคทางจิตวิทยาที่ช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ และแม้จะดูเหมือนเป็น “ราคาที่ถูกกว่า” แต่แท้จริงแล้วต่างกันเพียงเล็กน้อย
คำแนะนำง่ายๆ คือ: อย่าปล่อยให้เลข 9 หลอกคุณได้ง่ายๆ! ก่อนจะตัดสินใจซื้อ ลองรวมราคาทั้งหมดให้ดี แล้วดูว่า "คุ้มจริงหรือแค่รู้สึกว่าคุ้ม"