“เมย์ วาสนา” เผยคำพูดการันตี “เป็ก สัณณ์ชัย” จะบีบคั้น “ดิว” ให้มาจ่ายให้ได้! ไม่ยืดเยื้อและจบสวย ดีกว่าสู้ในศาล
หลังจากได้ของรักคืนครบทุกชิ้น ถอนฟ้องทุกคดี ล่าสุดนักธุรกิจสาว “เมย์ วาสนา อินทะแสง” ได้เปิดใจผ่านรายการแฉ มาพร้อมกับ “คุณปอม” ตัวแทนบริษัท แบรนด์เนมมันนี่ จำกัด ที่ดิวนำสร้อยบูการีไปจำนำเอาไว้ 7 ล้าน เมย์เผยสำหรับตนถือว่าจบสวย ดีกว่าไปสู้กันในศาล
-โดยเมย์เผยว่าจบดรามายืมของไปจำนำ เมย์ถอนฟ้อง แต่ก็ยังมีสัญญาผ่อนชำระหนี้ทั้งสองฝ่าย 1.75 ล้าน เมย์ให้เงินแบรนด์เนม มันนี่ 1.75 ล้าน ทางดิวก็ต้องให้ทางแบรนด์เนมมันนี่อีก 1.75 ล้าน ตีว่า 3.5 ล้าน นี่คือเงินที่ต้องผ่อนอีก 1 ปี
-เมย์แอบใส่สร้อยไปเล็กๆ ดีใจมากที่เขาเอามาให้ เพราะเขาเป็นลูกรัก รักเส้นนี้ที่สุดเลย มันเป็นมาสเตอร์พีชที่มีไม่กี่เส้นในไทย หลายคนถามว่าตรวจหรือยัง มีทีมงานบูการี ตรวจซีเรียลนัมเบอร์ถูกต้อง เป๊ะ ลูกได้กลับมาสู่อ้อมอก ดีใจมาก
-ไม่เชิงเอาเงินตัวเองซื้อของตัวเองกลับมา เพราะเดี๋ยวเขาก็ผ่อนคืน 1 ปี มันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ดีกว่าไปสู้กันในชั้นศาล เขาก็บอกว่าเขาสู้สุด ณ เวลานี้ได้เท่านี้
-สร้อยเส้นนี้อยู่กับแบรนด์เนมมันนี่ประมาณ 1 ปี ตั้งแต่ส.ค.ปีที่แล้ว ครบปีนึงพอดี
-แบรนด์เนมมันนี่เผยว่าเรื่องเกิด 6 ส.ค.อยู่กับแบรนด์เนมมันนี่ กลางเดือนส.ค.
-แบรนด์เนมมันนี่หลักๆ ทำ 3 บริการ คือขายฝาก แต่ง่ายๆ เรียกว่าจำนำ ต้องการใช้เงินด่วน ขาดสภาพคล่อง ต้องการเงินไปลงทุน ก็เอากระเป๋า สินค้าจิวเวลรี่มาฝากกับร้านได้
-วันนั้นคุณดิวนำมาจำนำ ไม่คิดว่าเป็นของใคร เพราะคุณดิวก็มีแบรนด์เนมอยู่แล้ว
-เขาคือดิวลักซูรี่ วันรับมาในราคา 7 ล้าน โอนให้เลยภายใน 1 ชม. ของเราทำสัญญาได้สูงสุด 3 เดือน แต่ต่อดอกเบี้ยได้ไม่จำกัด ต่อได้ไปเรื่อยๆ ดอกเบี้ยอยู่แค่ 1.25 เปอร์เซ็นต์
-โดยเมย์ไม่เคยรู้ว่าสร้อยเส้นนี้อยู่ที่ใคร รู้ตอนไปออกรายการโหนกระแส
-เมย์เผยว่าต้องให้เครดิตรายการโหนกระแส แบรนด์เนมมันนี่ก็เห็นจากโหนกระแสเหมือนกันเขาก็ตกใจ อ้าว เป็นของเมย์เหรอ รู้เรื่องจากวันที่เมย์ไปออกรายการวันนั้น อีกวันแบรนด์เนมมันนี่ก็ไปเลย แสดงเจตนาว่าเขาไม่รู้จริงๆ
-คุณปอมเผยต่อว่า จะให้คืนเลย 7 ล้านก็ใจคอไม่ดี ตอนนั้นโดนกระแสกดดันค่อนข้างเยอะ ทำไมไม่คืนพี่เมย์ไปเลย หลังจากที่รู้ออกโหนกระแส จริงๆ เราอยากคืนเลย แต่เราทำบริษัทถูกต้อง เราเสียเงินไปแบบถูกต้อง เรารับของมาถูกต้อง ถ้าเราคืนเลย ข้อแรกคือเขาจะมองว่าเอ๊ะ เรารับมาไม่ถูกต้องหรือเปล่า เรากลัวของโจรหรือเปล่า เราเลยต้องคืน
สองมีลูกค้าที่เขาฝากกับเราไว้เป็นร้อยๆ พันๆ สัญญา เขากังวลว่าโดนเรื่องนี้ไป 7 ล้านบาท จะขาดสภาพคล่องไหม ของจะปลอดภัยไหม เราเลยต้องบอกว่าไม่ต้องกังวล เราจะเก็บไว้อย่างดี และเราจะดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
-ประเด็นที่สาม เรากลัวมากที่สุด ถ้าเราคืนง่าย จะเป็นการชี้ช่องให้คนคิดไม่ดีกับบริษัทเรา เราอยากให้เคสนี้เป็นตัวอย่างให้สังคม
-เมย์เผยว่า จริงๆ เรื่องนี้ได้รับบทเรียนกันทุกๆ คน เป็นทอดๆ
-ถ้าไม่ออกรายการพี่หนุ่ม ก็คงไม่รู้ว่าสร้อยอยู่ไหน ขอบคุณพี่หนุ่มมาก ขอบคุณคนแรกคือพี่มดดำ คชาภา ถ้าพี่ไม่ดึงหนูให้กล้าออกมา มันก็จะไม่เริ่ม พี่หนุ่มเป็นกระบอกเสียงสำคัญ เขาก็ทรงอิทธิพล เหมือนศูนย์ร้องทุกข์จริงๆ
-ตอนนั้นไม่ได้คุยกับดิว มาคุยตอนหลัง ส่วนใหญ่ทนายคุยกันมานาน บางทีคุยอะไรไป เขาเรียกว่าภาษากฎหมาย อย่าพูดนะ พูดอันนี้ออกไปเป็นยอมความแล้วนะ เราก็อ้าว เหรอ มันก็ต้องระมัดระวัง ส่วนใหญ่ให้ทนายคุย
-เราควักเงินรวมไป 1.75 ล้าน แค่นั้นเลย คนที่ดิวนำกระเป๋าไปจำนำก็คือเพื่อนเขา เขาไปผ่อนกับทางเพื่อนเขา
-ตอนดิวกลับมา หนูไม่ได้คุยเลย จนมาได้คุยก่อนจบเรื่อง และมีโอกาสได้คุยกับพี่เป็ก (สัณณ์ชัย เองตระกูล) และเพิ่งได้คุยกัน 2-3 วันนี้ก่อนจบเรื่อง ก่อนหน้านี้ยอมรับว่าไม่พร้อมที่จะคุย น้องแชตมาเยอะมาก และโทร.มา แต่จิตใจเราไม่พร้อม แต่พอเวลาผ่านไป เราก็ละไว้ได้ เราไม่พร้อมเพราะเมย์ก็บอบช้ำเยอะ เราเสียใจ เสียความรู้สึกมากๆ แต่ก็เห็นใจเขา เรารู้สึกว่าเราขอพักก่อน เราไม่พร้อมฟัง เพราะไม่รู้ว่าสิ่งที่เราจะฟัง จะเหมือนหนึ่งปีที่ฟังมาหรือเปล่า ไม่คุยดีกว่า แต่พอเรื่องเยอะขึ้น หลายอย่างก็เกินไป สิ่งที่น้องได้รับเขาก็บอบช้ำพอสมควร
-พี่มดพูดตั้งแต่วันแรกว่าต้องให้พื้นที่เขาหายใจ วันนี้เขาก็ได้กลับมาแก้ไขจริงๆ อยากบอกดิวตั้งแต่แรกว่ากลับมาเถอะ หลังจากนั้นจิตใจเราดีขึ้น จนเรื่องมันจบแล้ว กว่าจะจบมันยืดเยื้อมานานมาก พอจบเมย์ก็รู้สึกว่าไม่ติดค้างอะไรแล้ว
-พี่เป็ก สัณณ์ชัย เพิ่งเคลียร์เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว พี่เป็กโทร.มาบอกว่าเขาเป็นผู้ใหญ่ เมย์ก็รู้จักพี่ เขาก็มีผลิตภัณฑ์ที่โรงงาน เมย์ไม่รู้มาก่อนว่าพี่เขาเองจะเป็นคนช่วยประสาน เอาง่ายๆ คำพูดดิวกับคำพูดพี่เป็ก คำพูดพี่เป็กก็น่าเชื่อถือกว่า อย่างน้อยๆ พี่เขาก็ให้ความเชื่อมั่น รับปากว่าจะวางใจได้ว่าเขาจะช่วยเจรจา พี่จะบีบคั้นมันมาให้จ่ายแกให้ได้ พี่จะบังคับให้ได้ พี่จะจัดการให้ พี่รับปาก
-พูดประมาณว่าจะบีบจากดิวให้ได้ ก็บอกว่าเฮ้ยพี่จัดการให้ มันจะได้จบ หนูก็บอกว่าหนูพร้อมจบมาก พร้อมถอย พร้อมสั่งให้ถอนฟ้องหมดเลยทันที ขอแค่ให้จบและได้ของคืน เขาก็บอกว่าโอเค เขามี 3.5 ล้านนะ มากกว่านี้คงไม่ไหว ก็มาคุยกับแบรนด์เนมมันนี่ ว่าไม่มีใครผิด งั้นเราคนละครึ่งไหม
-สร้อยเส้นนี้ตอนเอาไป 7 ล้าน ดิวบอกมีตอนนี้ 3.5 ล้าน คนกลางก็คนละครึ่ง คนละ 1.75 ล้าน ดีกว่าไปสู้กันในศาล สำหรับเมย์รู้สึกว่าไม่ยืดเยื้อและจบสวย เรารับได้ คิดว่าค่าทนาย ค่าต้องไปสู้ ตัวเขาเองคิดว่าเจตนาน้องไม่อยากโกงอยู่แล้ว แต่มันไม่พร้อม ไม่มี จะให้ยังไง เขาก็ได้กลับมาทำงาน ได้แก้ไขปัญหาคิดว่าทุกอย่างน่าจะคลี่คลายขึ้น
-คุณปอม เล่าต่อ แบรนด์เนมมันนี่ ไม่เชิงเรียกว่าควัก ทำสัญญาให้ดิวผ่อนต่อ การทำธุรกิจเงินออกไป 7 ล้าน ต้องคืนมา 7 ล้านของถึงจะถูกส่งออกไป แต่อันนี้เราไกล่เกลี่ยกันได้ ว่าคนละ 1.75 ล้านนะ ให้ดิวผ่อนใน 1 ปีให้หมด ถือว่าเป็นจุดลงที่เราไม่จำเป็นต้องไปบีบคั้น ให้โอกาสเขาหายใจหาเงินมาคืนเราดีกว่า
-6 เดือนแรกเดือนละ 1 แสน ดิวให้เมย์ 1 แสน แบรนด์เนมมันนี่ 1 แสน 6 เดือนหลังเดือนละ 2 แสน จนครบ ทำสัญญาเรียบร้อยที่กองปราบ ถ้าไม่ได้ก็ค่อยว่ากัน
-เราได้ยินว่าเป็นเพราะดิวหรือเปล่า เป็นคนมีชื่อเสียงทำไมไม่ติดคุก ทำไมจบง่ายจัง ถ้าตาสีตาสาคงไม่จบ แต่ไม่ใช่ ถ้ามีการผิดนัดชำระเราก็ปฏิบัติเหมือนสถาบันการเงิน ฟ้องร้อง ไกล่เกลี่ย พอหาจุดลงได้ก็จบ ไม่ได้หมายความว่าเรา 2 มาตรฐาน เป็นคุณดิวถึงจบ
-เป็นแคสแรกที่เจอแบบนี้ ก็ตกใจนิดนึง เราไม่มีนโยบายยึดของอยู่แล้ว ไม่เคยเจอหนี้เสียอะไรเลย
-หลังจากนี้ เมย์ วาสนา เผยไม่ให้ใครยืมแล้ว เป็นบทเรียนมาก เชื่อไหม เหตุการณ์นี้มีคนทักมายืมเงินเป็นพันๆ คน หนูอ่านข้อความแล้วร้องไห้ ทำไมทุกคนเห็นฉันเป็นอะไรวะ สามปีเจอมาหลายเรื่อง ไม่ใช่แค่นี้ อันนี้เรื่องเล็กจริงๆ ตอนนี้ยังเป็นพันข้อความ ในติ๊กต๊อกอีกเป็นพัน ขอยืมเงิน ยืมง่ายๆ คนไม่รู้จักเลย อ่านแล้วจะเซอร์ไพรส์ 1, 500 ข้อความ
-เป็นบทเรียนราคาแพง เป็นคนรักเพื่อน แต่บางครั้งต้องมีกรอบ ก็ไม่โทษใครนะ ถ้าตัวเองไม่ยื่นมือจะไปช่วยเขา มันอาจไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็ได้ เงินทำให้เราเสียเพื่อนได้หลายคนมากๆ เงินหมื่นนึงเสียเพื่อนที่คบมาเป็นสิบปี เงินแสนนึงยืมไปไม่ได้คืน ไม่กล้าแม้กระทั่งมองหน้าก็เสียเพื่อนไปเลย เมย์ว่าความสัมพันธ์ต้องมีกรอบ
-เรื่องที่เกิดขึ้น ต้องแยกความสัมพันธ์ ความถูกต้องกับข้อเท็จจริง ถ้าเราใช้อารมณ์มันจะวิบัติ ต้องมีสติ ไม่คล้อยไปตามคำพูด สิ่งนึงที่เรียนรู้ได้เลยคือต่อไปนี้อย่าใจง่าย เอาไปเลย เพื่อนยืมรถก็ให้เอาไปเลย เพื่อนรถเสียก็บอกว่าแกเอารถฉันไปเลยก็ได้ พอเจอคนไม่ดีก็ทำให้เสียเพื่อน จุดนึงที่เขาลำบากมากๆ เขาไม่ได้อยากทำหรอก แต่อาจทำให้เสียสิ่งเหล่านั้นไปก็ได้ ก็เป็นบทเรียนราคาแพงของชีวิตตัวเองหลายเรื่อง
-ชีวิตหลังมีข่าว สิ่งหนึ่งที่อยากขอบคุณมากจริงๆ ขอบคุณผ่านรายการเลย ขอบคุณคนไม่รู้จักที่ให้กำลังใจ เมย์ไม่มีพ่อไม่มีแม่แล้ว เป็นลูกคนเล็กที่เป็นหัวหน้าครอบครัว เลยไม่ค่อยมีที่ปรึกษานอกจากเพื่อน ครอบครัวให้คำปรึกษาไม่ได้มาก เพราะเขาไม่ได้เข้าใจในชีวิตเรา แต่ว่าทุกข้อคามทุกแมสเซสที่คนให้กำลังใจ อ่านแล้วฟูมาก เนกาทีฟอย่าไปคิดถึงแล้วกัน เราได้เรียนรู้และได้กำลังใจเยอะมาก ขอบคุณทุกคนจริงๆ สองเปลี่ยนไปเยอะมาก ไปไหนคนรู้จัก ไปฝรั่งเศสคนก็มาทัก ไปเกาะยาวใหญ่เขาก็ให้กินอาหารฟรี (หัวเราะ) ชีวิตเปลี่ยนไปเยอะจริงๆ นะ มีคนติดต่อเป็นพรีเซ็นเตอร์ มีโทรศัพท์ เพชร รถก็มี เดี๋ยวจะรับแล้ว
- กับดิว ได้คุยกับน้อง หนูก็ให้กำลังใจน้อง อยากให้เขาลุกขึ้นมาเข้มแข็งกว่าเดิม เชื่อว่าเขาจะทำได้ และเขาจะเติบโตอย่างแข็งแรง ครั้งนี้ก็เป็นบทเรียนสำหรับเขาเหมือนกัน เขารู้ว่าเขาพลาดอะไร เป็นสิ่งที่ทำให้ดิวแข็งแรง เขาก็เดินทางมาในชีวิตระดับนึงแล้ว ก็อยากให้กำลังใจให้เขาแข็งแรงขึ้น มูฟอัป และมูฟออน ให้กลับมาเป็นดิวอริสราในเวอร์ชั่นใหม่ ดิวคนใหม่ในเวอร์ชั่นที่ทุกคนให้กำลังใจ สตรอง และคนไม่เคยเห็นดิว
-ความน่ารักของเขามีนะ เขาเป็นน้องที่น่ารัก ถ้าไม่ติดเรื่องนี้ ความน่ารักเขามีจริงๆ หนูไม่โกรธ ไม่เคืองแค้น อโหสิ ไม่คิดอะไรแล้ว
-ถ้าเรื่องธุรกิจคิดก่อน เจอกันได้ แต่ถ้าเจอตามงานอีเวนต์ไม่มีปัญหา เรื่องธุรกิจให้เวลา เรื่องอื่นไม่มีปัญหา ทุกอย่างก็จบแล้ว ไม่ติดใจจริงๆ
-เมย์บอกมันเป็นจังหวะชีวิต โลกออนไลน์อย่าไปเหลิงกับมัน เราก็เป็น มีผีบ้าผีบอไปซื้อของเยอะแยะ เราก็ระมัดระวังด้วย ด้วยเศรษฐกิจแบบนี้ ยิ่งต้องระมัดระวังมากๆ
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO