ค่ายรถญี่ปุ่นโต้ข่าว ยันไม่ได้ขึ้นราคารถในสหรัฐฯ เพราะภาษีนำเข้า ย้ำเป็นการปรับราคาตามปกติ
ค่ายรถญี่ปุ่นโต้ข่าว ยันไม่ได้ขึ้นราคารถในสหรัฐฯ เพราะภาษีนำเข้า ย้ำเป็นการปรับราคาตามปกติ
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -22 ส.ค. 68 14:09 น.
ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่นออกมาปฏิเสธว่า ไม่ได้ขึ้นราคารถยนต์ในสหรัฐฯ เพราะผลกระทบจากภาษีทรัมป์ ตามที่สำนักข่าว Nikkei Asia รายงานไปก่อนหน้านี้ว่า บริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นกำลังผลักภาระค่าใช้จ่ายบางส่วนไปให้ผู้บริโภคในสหรัฐฯ จากเดิมที่ผู้ผลิตแบกรับต้นทุนส่วนนี้ไว้เอง
Toyota ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ชี้แจงว่า การที่บริษัทในเครือในสหรัฐฯ ขึ้นราคาจำหน่ายในเดือนก.ค. นั้น ไม่ใช่เพราะภาษีหรือทำไปเพราะมีความเป็นไปได้ที่ราคาจะเพิ่มขึ้น แต่เป็นการปรับขึ้นราคาประจำปีที่เกิดขึ้นตามปกติเพื่อสะท้อนถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทได้ระบุว่า จะยังคงรอดูสถานการณ์ด้านภาษี ซึ่งตอนนี้รัฐบาลยังคงอยู่ระหว่างการเจรจา จุดยืนของเราคือ จะยังไม่ขึ้นราคาเพื่อไม่ให้รถยนต์ของบริษัทมีราคาที่สูงเกินไปสำหรับลูกค้าที่รอซื้อ
ก่อหน้านี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อเดือนมิ.ย. ว่า Toyota มีแผนที่จะขึ้นราคาโดยเฉลี่ย 270 ดอลลาร์ในเดือนก.ค. แต่ตัวแทนของบริษัทก็ได้ออกมาปฏิเสธในตอนนั้นว่า การขึ้นราคาไม่ได้เป็นผลโดยตรงจากภาษีสหรัฐฯ
ขณะเดียวกัน Honda ระบุว่า บริษัทยังสามารถหลีกเลี่ยงการผลักภาระต้นทุนทางภาษีไปยังการขึ้นราคารถยนต์ ซึ่งที่แบรนด์สามารถทำเช่นนั้นได้เนื่องจาก Honda มีรถยนต์ติดอันดับ Top 20 ในดัชนีรถยนต์ที่ผลิตในสหรัฐฯ American-Made Index(AMI) ของ Cars.com มากกว่าแบรนด์อื่น ๆ ซึ่งมีการจัดอันดับรถโดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น สถานที่ประกอบขั้นสุดท้ายและเปอร์เซ็นต์ของชิ้นส่วนที่มาจากสหรัฐฯ และแคนาดา
Honda กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงราคาสำหรับรถยนต์ Honda รุ่นปี 2026 ที่วางขายในขณะนี้เป็นเพราะคุณสมบัติเพิ่มเติมที่เพิ่มมูลค่าให้กับลูกค้าและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผลิตภัณฑ์
ทางด้าน Nissan กล่าวว่า ไม่ได้มีการปรับขึ้นราคาเนื่องจากภาษีของสหรัฐฯ และจะใช้ประโยชน์จากรถยนต์ที่ผลิตที่โรงงานในสหรัฐฯ ให้มากที่สุดเพื่อช่วยชดเชยผลกระทบจากภาษี
ปัจจุบัน รถยนต์ที่ญี่ปุ่นส่งไปจำหน่ายยังสหรัฐฯ ถูกเก็บภาษีนำเข้าที่ 15% ภายใต้ข้อตกลงกับรัฐบาลทรัมป์เมื่อเดือนก.ค. ลดลงจาก 25% ที่ประกาศไปเมื่อเดือนเม.ย.
ที่มา CNBC
รายงาน โดย Supak Hopuengju เรียบเรียง โดย Supak Hopuengju
อีเมล์. supak@efinancethai.com
ดูข่าวต้นฉบับ