รายงานพิเศษ : จับตาถ้อยแถลงที่ `Jackson Hole` ชี้ชะตาเศรษฐกิจสหรัฐ - ตำแหน่งของ `เจอโรม พาวเวลล์`
รายงานพิเศษ : จับตาถ้อยแถลงที่ Jackson Hole ชี้ชะตาเศรษฐกิจสหรัฐ - ตำแหน่งของ เจอโรม พาวเวลล์
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -22 ส.ค. 68 15:56 น.
ตลาดเงินตลาดทุนทั่วโลก กำลังจับตาการประชุม Jackson Hole Symposium ว่าถ้อยแถลงของ "เจอโรม พาวเวลล์" ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในค่ำคืนนี้ ว่าจะส่งสัญญาณล่วงหน้าของนโยบายการเงินในอนาคตออกมาอย่างไร โดยเฉพาะนโยบายดอกเบี้ยของเฟด ที่ในปีนี้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมาแล้วถึง 3 รอบ จากการประชุม 5 ครั้ง
สำนักข่าว "อีไฟแนนซ์ไทย" จึงชวนมาย้อนดูการประชุม Jackson Hole Symposium เมื่อ 7 ครั้งก่อนหน้านี้ (ปี 2018-2024) ว่า สัญญาณสำคัญ ที่ ประธานฟดส่งออกมา และทิศทางอัตราดอกเบี้ยหลังจากการประชุมเป็นอย่างไร
ย้อนดูไทม์ไลน์ การประชุม Jackson Hole Symposium ตั้งแต่ปีแรกของ "เจอโรม พาวเวลล์" ปี 20182024
*** 2018 ส่งสัญญาณ ขึ้นดอกเบี้ยค่อยเป็นค่อยไป
เป็นปี ที่ พาวเวลล์ กล่าวสุนทรพจน์ที่ Jackson Hole ครั้งแรก โดยเน้นแนวคิดการใช้อัตราว่างงานและอัตราดอกเบี้ยที่เป็นกลาง เป็นเข็มทิศนโยบาย และเตือนถึงความเสี่ยงทั้งจากการขึ้นดอกเบี้ยเร็วไปและช้าไป โดยสรุปว่านโยบายการขึ้นดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไปนั้นเหมาะสมเพื่อป้องกันทั้งความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวก่อนเวลาและเศรษฐกิจร้อนแรงเกินไป
สรุป : เฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยรวม 4 ครั้ง สิ้นปีอยู่ที่ 2.252.50%
*** 2019 ยังดำเนินการตามความเหมาะสม
สุนทรพจน์ของพาวเวลล์ในปีนี้ ได้วิเคราะห์ผลกระทบจากสงครามการค้าของรัฐบาลทรัมป์ที่เริ่มสร้างความไม่ชัดเจนต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ เขาเน้น ถึงเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว, ความไม่แน่นอนทางการค้า และเงินเฟ้อที่ต่ำ กำลังเป็นตัวถ่วงเศรษฐกิจ และย้ำว่าเฟดจะดำเนินการตามความเหมาะสมเพื่อประคับประคองการขยายตัวทางเศรษฐกิจต่อไป
สรุป : เฟดลดดอกเบี้ย 3 ครั้ง สิ้นปีอยู่ที่ 1.501.75%
*** 2020 ช่วงโควิด
การประชุมปีนี้จัดแบบออนไลน์เนื่องจากโควิด พาวเวลล์ได้เสนอกรอบนโยบายการเงินใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการจ้างงานที่ทั่วถึงมากขึ้น โดยระบุว่าเฟดจะไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ยเพียงเพราะการว่างงานต่ำกว่าระดับที่ประเมินไว้ หากไม่มีสัญญาณเงินเฟ้อเกินควร นอกจากนี้ เขายังประกาศนโยบายเป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย (average inflation targeting) ที่จะยอมให้เงินเฟ้อสูงกว่า 2% ชั่วคราวหลังจากที่เงินเฟ้อต่ำกว่าเป้ามานาน
ซึ่งภายหลังการประชุมดังกล่าว ในเดือนก.ย. 2020 เฟดได้ประกาศใช้หลักเกณฑ์ใหม่ 3 ข้อในการพิจารณาขึ้นดอกเบี้ย (ได้แก่ การจ้างงานเต็มศักยภาพ, เงินเฟ้อแตะ 2%, และคาดการณ์เงินเฟ้อเกิน 2% ชั่วระยะหนึ่ง) ซึ่งช่วยหนุนความเชื่อมั่นในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วงโควิด แต่เฟดยังคงดอกเบี้ยระดับใกล้ 0% ต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขที่เข้มงวดดังกล่าวถูกมองภายหลังว่าเป็นสาเหตุให้เฟดตอบสนองต่อเงินเฟ้อที่สูงขึ้นช้าไปในปีถัดมา)
สรุป : เฟดลดดอกเบี้ยฉุกเฉินลงสู่ 0.000.25%
*** 2021 ย้ำว่าเงินเฟ้อเป็นเรื่องชั่วคราว
รอบนี้ประชุมผ่าน ระบบออนไลน์อีกครั้งในปี โดย พาวเวล ยืนยันมุมมอง ว่าเงินเฟ้อสูงเป็นแค่สถานการณ์ชั่วคราว และเตือนว่าการรีบขึ้นดอกเบี้ยจะส่งผลเสียมากกว่า เนื่องจากผลของนโยบายการเงินจะเกิดขึ้นช้าและอาจกระทบเศรษฐกิจหลังวิกฤตผ่านพ้นไป โดยมองว่าตลาดแรงงานยังมีแรงงานที่ยังไม่กลับเข้ามาในระบบอย่่งเต็มที่ และโควิดยังไม่ยุติ การขึ้นดอกเบี้ยเร็วเกินไปอาจทำให้การฟื้นตัวสะดุดได้
ซึ่งหลังการประชุมครั้งนั้น เฟดเริ่มชะลอการเข้าซื้อพันธบัตร (QE Tapering)แต่ยังคงอัตราดอกเบี้ยใกล้ 0% ไว้จนถึงเดือนมี.ค. 2022
สรุป : ทั้งปีไม่มีการปรับดอกเบี้ย (ยังอยู่ที่ 0.000.25%)
*** 2022 กระหน่ำขึ้นดอกเบี้ย สกัดเงินเฟ้อ
ครั้งนี้พาวเวลล์ ย้ำถึงความมุ่งมั่นของเฟดในการฉุดเงินเฟ้อให้ลดลง แม้จะต้องทำให้เศรษฐกิจและตลาดแรงงานชะลอตัวลง พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะยังคงขึ้นดอกเบี้ยต่อไปเพื่อคุมเงินเฟ้อ และเฟดจำเป็นต้องรักษานโยบายการเงินแบบเข้มงวดต่อเนื่อง
หลังการประชุมปี 2022 เฟดได้ขึ้นดอกเบี้ยอีกสองครั้งติดต่อกันครั้งละ 0.75% (ในเดือนกันยายนและพฤศจิกายน 2022 มาที่ 4.25-4.50%) จากนั้นจึงปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ลดลงในการประชุมถัดๆ มา จนกระทั่งอัตราดอกเบี้ยของเฟดแตะระดับ 5.25%5.50% ในเดือนก.ค. 2023
สรุป : ทั้งปีเฟดขึ้นดอกเบี้ย 7 ครั้ง ดันดอกเบี้ยสิ้นปีสู่ 4.254.50%
*** 2023 เริ่มคุมเงินเฟ้ออยู่ แต่ยังต้องทำต่อ
ในปีนี้ ท่าทีของ พาวเวลล์ ดูผ่อนคลายกว่าปี 2022 โดยยอมรับว่านโยบายที่ดำเนินมาเริ่มเห็นผลในการชะลอเงินเฟ้อ แต่ยังไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จะขึ้นดอกเบี้ยหากจำเป็น จะย้ำถึงการดำเนินการด้วยความระมัดระวังในการพิจารณาอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น และยืนยันว่าการนำเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายเป็นเรื่องจำเป็น
หลังการประชุม Jackson Hole ปีนี้เฟดได้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 5.25%5.50% ต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 1 ปี
สรุป : เฟดขึ้นดอกเบี้ยอีก 4 ครั้งในครึ่งปีแรก ก่อนหยุดที่ 5.255.50%
*** 2024 ถึงเวลาปรับนโยบาย
ในปีที่ผ่านมา พาวเวลล์ส่งสัญญาณชัดเจนว่าจะเปลี่ยนท่าทีทางนโยบาย จากเป้าหมายที่เงินเฟ้อไปสู่การพยุงการจ้างงาน เนื่องจากมีความเชื่อมั่นว่าเงินเฟ้อกำลังกลับสู่เป้าหมาย 2% พร้อมกลับแถลงว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องปรับนโยบาย ซึ่งคือการเตรียมลดดอกเบี้ยในเวลาต่อมา
หลังการประชุมรอบนี้ เฟดได้ยุติการคงอัตราดอกเบี้ย ด้วยการปรับลดดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนก.ย. 2024 และปรับลดอีก 0.50% รวมในสองการประชุมสุดท้ายของปี
สรุป : เฟดเริ่มลดดอกเบี้ย 3 ครั้งรวดในไตรมาส 4 สิ้นปีลงมาที่ 4.504.75%
*** จับตาปี 2025 - ทิศทางดอกเบี้ย - การเมือง ระอุ
สำหรับปี 2025 หรือในปีนี้ แน่นอนว่าเฟดเองได้ ดำเนินการปรับนโยบายต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2024 ด้วยการปรับลดดอกเบี้ยไปแล้ว 3 ครั้ง ทำให้ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยสหรัฐอยู่ที่ 3.754.00%
ส่วนการประชุม Jackson Hole ประจำปี 2025 ที่กำลังจะมีขึ้นในค่ำคืนนี้ โดยทั่วโลกจับตาถึงทิศทางดอกเบี้ย ว่าเฟดเองมีมุมมองอย่างไรต่อไป เพราะก่อนหน้านี้ตลาดมีความมั่นใจว่าเฟดเองจะลดดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนก.ย.นี้ แต่ล่าสุด เมื่อเห็น ภาคการผลิตยังคงแข็งแกร่ง ก็ทำให้การคาดการณ์เรื่องทิศทางดอกเบี้ยผันผวนอีกครั้ง
ขณะที่ ล่าสุดมุมมองของประธานเฟดหลายสาขายังกังวลต่อความเสี่ยงเงินเฟ้อที่จะสูงขึ้นจากภาษี และทำให้ตลาดยังลดความคาดหวังต่อการปรับลดดอกเบี้ยของระยะถัดไป โดยสำหรับเดือน ก.ย. ตลาดลดความน่าจะเป็นเหลือราว 75% จากช่วงก่อนหน้าที่มั่นใจสูงถึง 90%
ซึ่งไม่ว่าการคาดการณ์ในการประชุมวันนี้ จะมองกันแบบไหน คนที่จะให้ความชัดเจนได้มากที่สุด คงหนีไม่พ้น ประธานเฟด "เจอโรม พาวเวลล์" ที่จะออกมากล่าวถ้อยแถลงในคืนนี้
ส่วนอีกหนึ่งเรื่อง ที่ปธ.เฟด อาจจะต้องทำการบ้านเพิ่มอย่างมากในคืนนี้ ก็คือท่าที หรือการเอ่ยถึงการดำเนินนโยบายของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่สร้างความปั่นป่วนกับเศรษฐกิจทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมาผ่านมาตรการภาษีการค้า เพราะไม่ใช่แค่ผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจเท่านั้น แต่หากกล่าวพาดพิงถึงนโยบายหรือการบริหารงานมากเกินไป หรือไปขัดหูขัดตาท่านประธานาธิบดีเข้า อาจจะเป็นเหมือนการสุมไฟแห่งความตึงเครียดระหว่างกัน ที่เดิมก็มีมากอยู่แล้วให้เพิ่มมากขึ้นไปอีก
ส่วนจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ เศรษฐกิจสหรัฐ - การทำงานระหว่างธนาคารกลางสหรัฐ และทำเนียบขาว จะไปด้วยกันอย่างราบรื่นหรือไม่ ถ้อยแถลงของปธ.เฟด ค่ำคืนนี้ น่าจะเป็นตัวตัดสินที่ชัดเจนที่สุด … 21.00 น. (ตามเวลาไทย) จะได้รู้กัน
เรียบเรียง โดย สุรเมธี มณีสุโข
อีเมล์. suramatee@efnancethai.com
ดูข่าวต้นฉบับ