'ประเสริฐ' มอบรางวัล OTOD#2 ปลุกเกษตรอัจฉริยะ พลิกชุมชน
'ประเสริฐ' มอบรางวัล OTOD#2 จุดไฟเกษตรอัจฉริยะ ดึงโดรน-แทรกเตอร์อัจฉริยะ-IoT พลิกชุมชน คาดสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาทต่อปี
เมื่อวันที่ 6 ส.ค.68 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลแก่กลุ่มชุมชนและธุรกิจชุมชนในกิจกรรม Digital Agriculture Final Pitching Day กิจกรรมภายใต้โครงการ 1 ตำบล 1 ดิจิทัล (One Tambon One Digital: OTOD#2) โดยมี ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า พร้อมด้วย ดร.ปรีสาร รักวาทิน ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหาร หน่วยงานพันธมิตร เกษตรกร และตัวแทนชุมชนเข้าร่วมคึกคัก
นายประเสริฐ เปิดเผยว่า ภาคเกษตรคือเสาหลักเศรษฐกิจไทย รัฐบาลขับเคลื่อนการยกระดับด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลการเกษตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และเพิ่มรายได้ สร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันของประเทศ โดย OTOD#2 ที่ดีป้าดำเนินการ เป็นกลไกสำคัญในการแปลงแนวคิดสู่การใช้จริง
"โครงการนี้ผลักดันการประยุกต์ใช้ดิจิทัลใน 5 ภูมิภาค ผู้รับการส่งเสริมกระจายตัว ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 54.83% ภาคเหนือ 18.88% ภาคกลาง 14.16% ภาคตะวันออก 8.31% และภาคใต้ 3.82% เทคโนโลยีที่ได้รับความสนใจสูงสุดคือ IoT ภาคการเกษตรอัจฉริยะ โดรนเกษตร และแทรกเตอร์อัจฉริยะ" นายประเสริฐ กล่าว
ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวว่า OTOD#2 มุ่งพัฒนาทักษะดิจิทัลเพื่อการเกษตรครอบคลุมตั้งแต่เพาะปลูก ดูแลรักษา ไปจนถึงจัดการผลผลิต เตรียมชุมชนก้าวสู่เกษตรอัจฉริยะผ่าน 3 เทคโนโลยีมาตรฐาน dSURE ที่ขึ้นทะเบียนในบัญชีบริการดิจิทัล ได้แก่ โดรนเพื่อการเกษตร แทรกเตอร์การเกษตรอัจฉริยะ และ IoT ภาคการเกษตรอัจฉริยะ กระบวนการเริ่มจากสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ ก่อนเข้าสู่การยกระดับทักษะเข้มข้น (Accelerate) โดยดีป้าลงพื้นที่ 11 จังหวัด จัดอบรม จับคู่ธุรกิจ เขียนข้อเสนอโครงการ และพรีสกรีนใน 5 จังหวัดตัวแทน 5 ภูมิภาค แล้วจึงสู่เวทีตัดสินระดับประเทศ
"หัวใจคือทำให้ชุมชน คิดเอง ทำเป็น ทำได้ ดีป้าเป็นพี่เลี้ยงเท่าที่จำเป็น ผลลัพธ์คือมีผู้เรียนออนไลน์ต่อเนื่องกว่า 550,000 ราย ผู้ร่วมกิจกรรมเข้มข้นกว่า 1,300 ราย จากเป้าหมาย 1,000 ราย และผู้ผ่านสู่รอบ Final Pitching กว่า 500 ราย คาดสร้างมูลค่าเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาทต่อปี" ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าว
เวที Digital Agriculture Final Pitching Day ซึ่งจัดช่วงวันที่ 5-6 ส.ค.68 เปิดโอกาสให้ชุมชนจาก 5 ภูมิภาคแสดงศักยภาพ แบ่งการสนับสนุน 2 ประเภท ได้แก่ 1.กลุ่มชุมชนประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 350 ราย วงเงินสนับสนุนสูงสุด 150,000 บาทต่อโครงการ และ 2.พัฒนาธุรกิจชุมชน 50 ราย วงเงินสูงสุด 200,000 บาทต่อโครงการ พร้อมรางวัลดีเด่นรวม 6 รางวัล โดยทีมชนะเลิศรับ 50,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 รับ 30,000 บาท และรองชนะเลิศอันดับ 2 รับ 20,000 บาท ผลการตัดสินรางวัลดีเด่น ประเภทกลุ่มชุมชนประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนหอมเชียงม่วน (ภาคเหนือ) ส่วนประเภทพัฒนาธุรกิจชุมชน ได้แก่ นายอรันดร์ จันโท
ภายในงานยังมีโซนสาธิต 3 เทคโนโลยีล้ำสมัย โดรนเกษตร แทรกเตอร์อัจฉริยะ และ IoT ภาคการเกษตรอัจฉริยะ ถ่ายทอดองค์ความรู้แก่เกษตรกรและชุมชน พร้อมเวทีเสวนาจากภาครัฐ เอกชน และเกษตรกรตัวจริง แลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวทางยกระดับสู่เกษตรอัจฉริยะแบบครบวงจร
ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวว่า ก้าวต่อไป ดีป้าจะขยายผลต่อเนื่องผ่านชุดโครงการ OTOD ได้แก่ OTOD AI Transformation ช่วยชาติ เร่งการประยุกต์ใช้ดิจิทัลในชุมชน ผู้ประกอบการ เกษตรกร และโรงงาน รวม 10,000 ราย เพื่อหนุนเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาล และ OTOD ทุเรียนดิจิทัล ที่เดินหน้าเฟส 2 พร้อมร่วมกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง ผลักดันมาตรการลดหย่อนภาษี 200% ให้การลงทุนดิจิทัลเกิดผลในทางปฏิบัติ
"คนไทยต้องรู้ เข้าใจ และใช้ดิจิทัลได้จริง เศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศจึงจะเติบโตอย่างมั่นคง" ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าว
ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารโครงการ OTOD#2 รวมถึงโครงการอื่นๆ จาก ดีป้า ได้ที่ Facebook Page: depa Thailand
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO