'มหาเศรษฐีลึกลับ' พร้อมซื้อ TikTok ทรัมป์เตรียมเปิดตัวใน 2 สัปดาห์
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับรายการ "Sunday Morning Futures with Maria Bartiromo" ของ Fox News เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน 2568 โดยกล่าวว่า "เรามีผู้ซื้อสำหรับ TikTok แล้ว ผมคิดว่าน่าจะต้องได้รับการอนุมัติจากจีน และผมคิดว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง น่าจะทำให้สำเร็จ"
เมื่อถูกถามว่าใครเป็นผู้ซื้อ ทรัมป์ตอบว่า "ผมจะบอกคุณในอีกประมาณ 2 สัปดาห์ พวกเขาเป็นคนที่รวยมากๆ เป็นกลุ่มคนที่รวยมาก"
TikTok ซึ่งเป็นเจ้าของโดยบริษัทจีน ByteDance ได้เผชิญกับความกดดันจากรัฐสภาสหรัฐฯ เนื่องจากความกังวลด้านความมั่นคงแห่งชาติ สภาคองเกรสผ่านกฎหมายในเดือนเมษายน 2567 บังคับให้ ByteDance ขาย TikTok ให้กับผู้ซื้อที่ไม่ใช่ชาวจีนหรือเผชิญกับการแบนจากร้านแอปในสหรัฐฯ
กฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม 2568 และ TikTok ได้หยุดให้บริการชั่วคราวในคืนวันที่ 18 มกราคม แต่กลับมาออนไลน์อีกครั้งหลังจากทรัมป์เซ็นคำสั่งบริหารเพื่อชะลอการบังคับใช้กฎหมาย ทรัมป์ได้ขยายเวลาไปแล้วสามครั้ง โดยล่าสุดขยายเส้นตายไปถึงวันที่ 17 กันยายน 2568
การขาย TikTok เผชิญกับอุปสรรคหลายประการ รวมถึงการที่รัฐบาลจีนไม่ยินยอมให้ขายอัลกอริธึมหลักของแอป ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ควบคุมการแสดงเนื้อหาให้ผู้ใช้
การเจรจาก่อนหน้านี้เพื่อโอนความเป็นเจ้าของให้กับกลุ่มนำโดยสหรัฐฯ ล้มเหลวหลังจากจีนคัดค้านภาษีศุลกากรใหม่ของทรัมป์และปฏิเสธที่จะอนุญาตให้ขายอัลกอริธึมหลักของ TikTok
แม้ทรัมป์จะไม่เปิดเผยตัวตนของผู้ซื้อ แต่มีการคาดเดาว่าอาจรวมถึงบุคคลสำคัญในแวดวงธุรกิจเทคโนโลยี เช่น อีลอน มัสก์ เจ้าของ Tesla และ SpaceX หรือ แลร์รี เอลลิสัน ประธานกรรมการบริษัท Oracle
นอกจากนี้ยังมี โครงการ "The People's Bid for TikTok" นำโดย Frank McCourt และ Kevin O'Leary ที่เสนอราคา 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นเงินสดเพื่อซื้อ TikTok
TikTok มีผู้ใช้ในสหรัฐฯ มากกว่า 170 ล้านคน และมีธุรกิจ 7.5 ล้านแห่งที่พึ่งพาแพลตฟอร์มนี้ การแก้ไขปัญหานี้จึงมีความสำคัญต่อทั้งผู้ใช้งานและภาคธุรกิจ
ทรัมป์ซึ่งเคยวิพากษ์วิจารณ์ TikTok ในช่วงวาระแรก ปัจจุบันเปลี่ยนจุดยืนและสนับสนุนให้แอปนี้ดำเนินการต่อไปในสหรัฐฯ หลังจากเห็นว่าช่วยเพิ่มการสนับสนุนจากกลุ่มเยาวชนในการเลือกตั้งประธานาธิบดี 2567
การประกาศครั้งนี้เป็นความพยายามล่าสุดในการแก้ไขปัญหาที่ยืดเยื้อของ TikTok ซึ่งทำให้แพลตฟอร์มยอดนิยมแห่งนี้ต้องอยู่ในสภาวะไม่แน่นอนมาหลายเดือน