‘แพท Klear’ เผยเป็นมือที่สามไม่รู้ตัว เปิดเส้นทางชีวิตรักสุดพังสู่แรงบันดาลใจเพลงฮิต!
สร้างความประหลาดใจและตกใจให้กับแฟนๆ อย่างมาก หลังล่าสุดนักร้องสาวเสียงทรงพลัง "แพท วง Klear" ได้ออกมาเปิดใจถึงชีวิตรักที่ล้มเหลวอย่างไม่คาดฝัน และเส้นทางชีวิตในวงการดนตรีที่เกือบจะไม่ได้แจ้งเกิด ในรายการ "เกิดมาเว่า" พร้อมเผยทุกความเจ็บปวดที่กลายเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์บทเพลง ซึ่งเธอเคยเจออุปสรรคมากมายทั้งการถูกปฏิเสธจากค่ายเพลง และความรักที่พังทลายกับการเป็นมือที่สามโดยไม่รู้ตัว
โดย แพท เผยว่า “มีลูกสาว น่ารักมาก ติดลูกมาก ชื่อ "น้องเรอารฎา" อายุ 6 เดือน เลี้ยงง่ายปกติค่ะ มีลูกทำให้ชีวิตและอารมณ์เปลี่ยนไปค่ะ อ่อนโยนขึ้น เริ่มเตรียมตัวตั้งแต่ท้อง เพราะรู้ว่าลูกจะรับรู้ความรู้สึกของแม่ ถ้าแม่เครียดลูกจะเลี้ยงยาก เราเลยพยายามรักษาอารมณ์ดีมากที่สุด รู้สึกว่าเรามีความเป็นผู้หญิงมากขึ้นพอมีลูก ถามถึงในพาร์ตของวงกระทบต่องานยังไง ถามว่ายังรับงานอยู่ไหม แพทท้องเดียวแต่เหมือนท้องทั้งวง แพลนไว้ว่าจะปล่อยให้ท้องแล้วนะ ถ้าท้องจะกระทบกับงานวงแน่นอน เพราะฉะนั้นก็จะต้องมีการเตรียมตัวคนทั้งวงไว้ แต่ที่วงก็คือเหมือนเราอยู่กันแบบครอบครัว ช่วงท้ายที่รับงานคือ แพทรับงานจนถึง 7 เดือน อย่างที่บอกว่าเราอยากอารมณ์ดี ถ้าเราหยุดอยู่บ้านเฉย ๆ ไม่ทำอะไรเลย เราเครียดแน่นอน ค่อนข้างมั่นใจว่าเราแข็งแรงพอสมควรเราออกกำลังกายเยอะ
ย้อนกลับไปตอนที่สนใจในการร้องเพลง คือโตมากับครอบครัวที่เล่นกีตาร์ คุณพ่อคุณแม่ชอบร้องเพลง ตอนเด็ก ๆ ก็ร้องเพลงตามคาราโอเกะ ไม่รู้ว่าตัวเองร้องเพราะไหม รู้แค่ว่าร้องไม่เพี้ยน ตอนเรียนเป็นเด็กกิจกรรม เป็นนักกีฬา ตัวแทนร้องเพลง และเชียร์ลีดเดอร์ด้วย แต่ก็ไม่ยอมให้การเรียนตก ถามว่าถ้าวันหนึ่งไม่ได้เป็นนักร้องคิดว่าจะทำอะไร คงเป็นสถาปนิกค่ะ เพราะเรียนจบสถาปัตย์ ถ้าคุณพ่อแพทไม่เสีย ถ้าท่านยังอยู่ วง Klear ไม่เกิดแน่นอน คุณพ่อมีบริษัทของตัวเองที่พัทยา ก็แปลว่าเรียนจบยังไงก็คือต้องกลับไปทำงานกับสถาปนิกแน่นอน ที่บอกว่านักร้องไม่เคยอยู่ในหัว เพราะว่าเราไม่สวย มันจะมีพิมพ์นิยมไม่ได้หลากหลายเหมือนทุกวันนี้ คิดว่าการที่จะไปเป็นดาราหรือไปเป็นนักร้อง ต้องมีหน้าตารูปร่างที่ดี เป็นปมตอนเด็ก ๆ ของเรา ก็จะโดนด่าเด็กดำ ตัวเล็ก ผอม ๆ
เส้นทางวง Klear เริ่มจากทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัย แคสละครสถาปัตย์ แคสเสียงเขาจะให้ไปเป็นนางเอก แต่เรากลัวโดนบูลลี่ก็เลยออกมา ไปแคสเสียงไว้ให้ร้องเพลงละครคณะ พี่ที่เขาเป็นคนคุมเป็นพี่กีตาร์วง Klear ทำวงขึ้นมาไปประกวดในมหาวิทยาลัย เขาหาคนร้องเพลง เราเดินผ่านเหมือนมีคนปล่อยคิว แต่งเพลงไปประกวดไม่ใช่เพลงที่มีอยู่ จนรวมได้เป็นอัลบั้มแต่ไม่ได้เซ็นสัญญาที่ไหน ลงประกวดจนกว่าจะชนะ เปลี่ยนเวทีไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเรียนจบก็ไปยื่นเดโม่ที่ค่ายต่าง ๆ ไม่มีใครเอาเลย เพราะว่าเขาบอกขายไม่ได้ หน้าตาไม่ดีด้วย สุดท้ายวงแตก แยกย้ายได้ 2 อาทิตย์แล้วก็มารวมกันใหม่ ไปซ้อมกันเล่น ๆ ที่ห้องพี่ต้า Paradox ซ้อมวันที่พี่ต้าอยู่พอดี เขาขอเดโม่ เขาให้เงินไปทำอัลบั้ม ทำไปได้ครึ่งอัลบั้ม พี่ต้าต้องไปส่งงานที่ Genie Records แต่ไม่มีเดโม่ไปส่งเขาทำไม่เสร็จแต่มีผลงานของวง Klear ซึ่ง Genie Records เป็นค่ายที่เราไม่ยื่นเพราะรู้สึกว่าเป็นค่ายที่ใหญ่เกินไป ตอนเย็นพี่ต้าก็โทรฯ มาว่ามาอยู่กับพี่ แล้วได้ขึ้นคอนเสิร์ตของ Bodyslam"
แพท เล่าต่อว่า "สาเหตุที่ตั้งชื่อวงว่า Klear คือตอนส่งใบสมัครยังไม่มีชื่อวง มีคนเห็นกระปุกแป้ง Clean and Clear ตั้งอยู่ เลยเอาชื่อนี้แหละ ผลตอบรับอัลบั้มแรกคือพังค่ะ เจ๊ง เพราะเพลงไม่ขาย ไม่เข้ากับตลาดเพลง พี่เขาให้โอกาสอีก 1 เพลง ถ้ารอดก็ไปกันต่อ เราเขียนเพลงเองมาตลอด จนวันหนึ่งได้มาลองเรียนเขียนเพลงกับพี่นิ่ม สีฟ้า ลองเขียนเพลงรัก เพราะเราเขียนเพลงเศร้ามาตลอด จนได้เพลง รักไม่ต้องการเวลา เพลงนี้ทำให้วงรอดชีวิตมาค่ะในตอนนั้น
ถามถึงประสบการณ์เกี่ยวกับความเจ็บปวดแบบที่แต่งในเพลงมีบ้างไหม เยอะ ผ่านมาเยอะ พูดได้เลยว่านอกเหนือจากแฟนคนแรกแล้วก็สามีคนปัจจุบัน นอกนั้นแย่หมดเลย หลังจากเสียคุณพ่อและเรื่องความรักที่ล้มเหลวหลายครั้ง บางความสัมพันธ์แย่มากจนเกือบเลิกทำวง เพราะเขาไม่ชอบที่เราทำวง เขากดดันเราเยอะ เกือบถึงขั้นที่ต้องเลือกระหว่างวงกับเขา เราตัดสินใจพักวงแล้วไปเรียนต่อ ตอนนั้นวงกำลังพีคเลย แต่อยากบอกทุกคนว่าในขนาดที่วงกำลังพีคข้างในแพทคือพังทลายมาก เขาไม่ชอบให้เราร้องเพลง ไม่ชอบให้เราไปร้องเพลงร่วมกับผู้ชาย เคยปฏิเสธพรีเซ็นเตอร์
สำหรับที่มาของเพลงมาจากเรื่องจริงเหรอ เพลงเจ็บไม่พังล่าสุด คืออยู่ในห้องน้ำอยู่ดี ๆ ความรู้สึกมาแล้ว เพลงถามเพื่ออะไรก็อยู่ในห้องน้ำ แฟนไปบวชเราจินตนาการว่าเขามีคนอื่น แต่จริง ๆ คือเขาไปบวช จินตนาการไปว่าเขาไปบวชแล้วเขาไม่กลับมาล่ะ ร้องไห้แต่เขาไปบวชแค่ 2 อาทิตย์ เราร้องไห้เหมือนเขาไปบวช 2 ปี ซึ่งเพลง “เจ็บให้พัง” MV อิงจากเรื่องจริง 90% เป็นเรื่องจริงค่ะ เป็นการถ่ายทอดความเจ็บปวดและความรู้สึกที่เคยผ่านมา จากพี่น้องที่อกหักมา เรารู้สึกว่าคนเราอยู่ในความสัมพันธ์ที่แย่ เรารู้นะ แต่ว่ามันออกมาไม่ได้เฉย ๆ ใครเตือนเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง ก็เลยต้องเจ็บให้มันพังไปเลย จะทำให้รู้ว่าเราต้องรักตัวเองเมื่อไหร่ ประชุมทำ MV ทุกคนก็เล่าเรื่องของตัวเอง แพทก็เล่าเรื่องของแพท จนเอาไปทำเป็นเรื่องราวใน MV"
นักร้องสาว เผยต่อว่า "หลังจากคุณพ่อเสีย มาคบกันคนหนึ่ง เขาก็ไปรับไปส่งเราตอนทำงาน เราเจอกันทุกวัน มีรุ่นพี่มาทักว่าได้ยินว่าเขาแต่งงานแล้วไม่ใช่เหรอ สุดท้ายก็มีเรื่องให้สงสัย เขาเป็นคนปิดมือถือตอนกลางคืน มีวันที่เรามีปัญหาตอนกลางคืน เราโทรฯ หาเขาไม่ติด ปิดเครื่อง เราเป็นเด็กต่างจังหวัด อยู่กรุงเทพฯ คนเดียว เขาก็ให้เหตุผลว่าเขาเป็นคนหลับสนิท แต่หลัง ๆ เราทะเลาะกับเขาพูดไปเลยว่ามีคนพูดแบบนี้จริงหรือเปล่า สุดท้ายเขายอมรับ เหตุผลคือแยกกันอยู่กำลังจะหย่า เราไม่ไหว เรารักมาก แต่ทำไมอยู่ดี ๆ เราถึงเป็นมือที่ 3 เราไม่โอเค ทะเลาะกันใหญ่โต จนกระทั่งเขาขอแต่งงาน เราก็เป็นผู้หญิง เราก็คิดว่าเขาคงจริงจังกับเราในระดับหนึ่ง คงมีเหตุผลของเขา เราก็เชื่อๆ ไป ทะเลาะไป
จนสุดท้ายต่อให้ขอแต่งงานก็ยังทะเลาะกันอยู่ เราเข้ากูเกิลค้นหาชื่อเขา มันก็จะขึ้นที่อยู่ เราก็เลื่อนดูไปเรื่อย ๆ จนเจอชื่อผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่เดียวกัน เขาทำงานในวงการเดียวกัน ซึ่งน่าจะใช่ ก็เลยตัดสินใจขับรถไปที่คอนโดฯ เขา พร้อมกับแหวนและสมุดที่เขียนด้วยกันไว้ไปคืนฝากให้ผู้ชายคนนี้ แล้วรีเซฟชั่นเขาบอกว่าพี่ชายออกไปแล้วแต่พี่ผู้หญิงอยู่ข้างบนจะขึ้นไปไหม เขาคงคิดว่าเราเป็นเพื่อน ในใจเราอยากขึ้นไปให้เอง หวังว่าเขาจะเปิดดูว่าของคืออะไร เพราะเราคิดว่าพี่ผู้หญิงควรได้รู้ความจริงเหมือนกับเรา เพราะเขาไม่ผิดเราก็ไม่ผิด ที่ผิดคือพี่ผู้ชาย เขาคู่ควรที่จะได้รู้ ไม่ควรโดนหลอกเหมือนกัน เราขึ้นไปแล้วก็ยื่นถุงให้เขาฝากให้พี่ผู้ชาย แต่ใน MV เราเพิ่มสีสันให้มีที่ตรวจครรภ์พร้อมกับแหวนไปด้วย"