เทศกาล “วราลักษมี วรัทตัม” บูชาเทวี แห่งความมั่งคั่ง!
โชคลาภ การเงิน
สำหรับครั้งนี้ God’s City ในเว็บต์ไซต์และเพจ Ticy City โดย Nai Mu กรูรูสายมูผู้มีเรื่องเล่ามากมายทั้งความรู้และความเพลิดเพลิน จะพาบรรดาสายมูและไม่มูทุกเพศ ทุกวัยทั้งหลาย ไปบูชาเทพฮินดูสัญลักษณ์โชคลาภและการเงินในเทศกาล “วราลักษมี วรัทตัม” บูชาเทวี แห่งความมั่งคั่ง ปักหมุดวัน เวลาที่ Nai Mu แจ้งไว้ได้เลย
เอาละสำหรับวันที่ Nai Mu ขอให้ปักหมุดเพื่อเตรียมตัวไปมูกันก็คือในวันที่ 8 สิงหาคมนี้ เพราะ เป็นวันสำคัญของชาวฮินดูที่จะบูชา“วราลักษมี” (Varalakshmi Vratam) ปกติแล้วคนที่เคารพในเทพฮินดูจะสวดมนตร์ กราบไหว้พระลักษมีเป็นกิจที่ทำกันทุกวันอยู่แล้ว เพราะพระนางเป็นสัญลักษณ์ของ “โชคลาภ การเงิน” คนทำการค้าขาย นักการธนาคาร คนปล่อยเงินกู้ ไปจนถึงชาวบ้านหาเช้ากินค่ำต่างต้องการ “เงินทอง” เพื่ออำนวยความสะดวกให้มีสภาพคล่อง ส่วนใครจะมีเป้าหมายใดในการใช้จ่าย เช่น จ่ายหนี้สิน , เพิ่มพูนดอกเบี้ย , มีผลผลิตที่เพิ่มพูน ก็ว่ากันไป …
ประเพณีการบูชาพระลักษมี นอกจากวันวราลักษมีแล้ว ก็ยังมีวันอื่นๆ เช่น ดีปาวลี คืนแห่งแสงสว่าง ที่ตามบ้านเรือน เคหาสน์ต่างๆ รวมถึงราชวังในโบราณนิยมกัน เพราะแสงสว่างช่วยขจัดความมืด ส่องให้เห็นเส้นทางต่างๆได้กระจ่างชัด นี่คือ ความนัยที่แฝงอยู่กับวันดีปาวลี ซึ่งปีนี้ คือ วันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม และวันอื่นๆ ที่เป็นปางอวตารตามความเชื่อ และรวมถึงวันที่พระลักษมีอวตารไปเป็นชายาพระวิษณุในปางต่างๆ อีกด้วย
ทั้งนี้ชายาทั้ง 3 องค์ของมหาเทพ “อุมา-ลักษมี-สรัสวดี” เชื่อว่า ทั้งสามคือ หนึ่งเดียวกัน ส่วนรูป-นาม- หน้าที่ต่างกัน แต่ทางตำนานความเชื่อแล้วพระอุมา (รวมถึงปางอื่นๆ) คือมหาอำนาจย่อมมีเรื่องราวมากที่สุด พระลักษมี พระชายาที่เป็นกำลังของพระวิษณุเทพ มีเรื่องราวน้อยมาก พระสรัสวดี ก็น้อย เล่ากันว่า พระลักษมี และ พระสรัสวดี ทั้งคู่ต่างเป็นเมียของพระวิษณุ ต่อมาพระเป็นเจ้าโบ้ยพระสรัสวดีให้พระพรหม ถ้าว่ากันในทางโลก ระหว่างความรู้ กับ ความรวย อย่าว่าแต่คนเลย พระเป็นเจ้ายังเลือกเอาความรวยไว้ก่อน ผิดกับพระศิวะ ที่เลือกเมียที่มีพลังอำนาจ บารมี ครบ เก่งรอบด้าน จะให้เป็นนางงาม นางเอก อย่างปราวตีก็เป็นได้ แบบ ดุ เด็ด เผ็ด มัน บู๊ล้างผลาญ อย่างอวตารปาง ทุรคา หรือ กาลี ก็ทำได้หมด
สำหรับ พระลักษมี คือ เทพธิดาแห่งความมั่งคั่ง อุดมสมบูรณ์ และเป็นแบบอย่างของกุลสตรี ผู้หญิงที่สมบูรณ์พร้อม เรื่องราวของนาง มีมาเนิ่นนานก่อนจะมาเป็นชายาพระวิษณุ ในจารึกโบราณ Burhut Incription ซึ่งทำขึ้นในสมัยรชวงศ์ศุงคะ เรียก เทพธิดาองค์นี้ว่า “ศิริมา” มีเหรียญสมัยโบราณเป็นหลักฐาน ต่อมาในสมัยคุปตะ พระนามของนาง ถูกเปลี่ยนเป็น “ลักษมี”
ส่วนการกำเนิดของพระลักษมี ในคัมภีร์รามายณะเขียนไว้ว่า เกิดจากการกวนเกษียณสมุทร , บางคัมภีร์ว่า นางคือ ธิดาของพระฤาษี ภฤคุกับนางชยาติ
แต่คนส่วนใหญ่เชื่อและให้น้ำหนักจากฟองคลื่นของการกวนเกษียณสมุทรมากที่สุด !
จากหนังสือ พระเป็นเจ้าของศาสนาพราหมณ์ พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 กล่าวว่า
“ครั้นเวลาล่วงไปได้หลายปีแล้ว จึงมีดอกบัวหลวงดอก ๑ ลอยขึ้นมา ในกลางดอกบัวนั้นมีนางงามอยู่นาง๑ พึ่งแรกรุ่น รูปร่างแน่งน้อย ผุดผ่องทั่วสรรพางค์กาย ประดับด้วยเครื่องถนิมพิมพาภรณ์อย่างนางกษัตริย์ ทรงทองกรกอบแก้วนพรัตนทั้งสองข้าง บนเศียรนางนั้นมีมงกุฎประดับเพชรรัตน ภายใต้มงกุฎนั้นเห็นเกษาอันยาวงามยิ่งนัก ทรงสร้อยสังวาลแก้วมุกดา แลดูนางนั้นผิวพรรณผุดผ่องเหมือนทองทาฯ ครั้นบัวลอยมาใกล้ฝั่ง เทวีก้าวขึ้นฝั่ง หัตถ์ถือดอกบัวหลวง และนางปัทมา (ลักษมี) ก็ตรงเข้าไปเฝ้าพระปัทมปาณี (นารายณ์) โดยความจงรักภักดียิ่งฯ อันนางนี้ไซร้ทวยเทพในเมืองแมนและฝูงชนในแดนมนุษย์ พร้อมกันสมมุติพระนามว่า พระลักษมีภควดี”
พระลักษมีเป็น เศรษฐีนียืนหนึ่ง ! ทำหน้าที่ชายาของพระวิษณุเทพ วันๆ เอาแต่นั่งพับเพียบเรียบร้อย ปรนนิบัติพัดวี ทำสปาฝ่าเท้าให้สวามี ขณะทำโยคนิทราบนลังลังก์อนันตนาคราช
ชาวบ้านทั้งหลายเมื่อรู้ว่า พระนางคือ เศรษฐีนี ! จึงนิยมมาอ้อนวอนร้องขอเงินขอทองจากท่าน แต่ความจริง ท่านจะประทานพรได้อย่างใด ในเมื่อนางโบกสะพัดพัดวีตลอดเวลา ครั้นจะบอกว่า มนุษย์ทั้งหลายจงคิด และกระทำ เพื่อสร้างมูลค่าให้แก่ตัวเองเถิด ก็อาจจะดูแคลนน้ำใจของผู้ศรัทธาเกินไป จึงมีนิทานต่อไปว่า พระกุเบรา (ท้าวกุเวร หรือ เวสสุวรรณ เจ้าแห่งทรัพย์) คือ เลขานุการของพระลักษมี ทำหน้าที่แทนพระลักษมีในการอนุมัติเรื่องเงินๆ ทองๆ ให้กับผู้ศรัทธาที่มาร้องขอต่อนาง
นอกเหนือจากการโบกพัดแล้ว ยังทำหน้าที่ประกาศตัวเป็นเมียถูกต้องตามกฎหมายอีกด้วย เมื่อใดที่พระวิษณุเทพ ถึงกำหนดอวตารลงไปปราบยุคเข็ญในโลก นาง พร้อมอนันตนาคราชก็จะเฮโลกันไปเกิดด้วยทุกครั้ง เรียกว่า“สามีเดี๊ยนใครห้ามแตะ ห้ามฉก เด็ดขาด” !
ยกตัวอย่าง อวตารเป็น พระปรศุราม-นางธรณี, พระวามน (พราหมณ์แคระ)- นางกมลา หรือในภายหน้า เมื่อพระวิษณุ อวตารเป็น “บุรุษขี่ม้าขาว” พระกัลกี – พระลักษมีก็อวตารเป็นนางปัทมวดี เป็นต้น
เหตุที่นางมีชาติกำเนิดเป็นของวิเศษจากเกษียรสมุทร จึงนิยมสร้างรูปของนางให้มีพระวรกายสีทอง พร้อมเครื่องทรง และสนิมพิมพาภรณ์อันวิจิตร งดงาม เลอค่า !ไม่ว่าจะเดิน – นั่ง-ยืน จะมีดอกบัวรองรับ มือข้างหนึ่ง หรือสองข้างจะถือดอกบัวไว้เสมอ เพราะยืนยันถึงชาติกำเนิดของพระนาง เหตุนี้ ผู้บูชา จึงนิยมถวาย “ดอกบัวหลวง” แก่พระนาง ยิ่งเทศกาล ดีปาวลี ดอกบัวแดง ที่ปากคลองตลาดจะมีราคาแพงที่สุด และอาจจะหาไม่ได้ด้วย !
ชื่อของพระลักษมี มีหลากหลาย เช่น พระศรี, พระศิริมา, พระชลธิชา (ผู้เกิดแต่น้ำ), พระภควดี, โลกมาตา (มารดาโลก) , ปัทมา (ดอกบัว) ,ปัทมาลัย (ผู้มีดอกบัวเป็นที่อยู่), หริปรียา (ที่ระลึกแห่งพระหริ), อินทิรา (งาม) ฯลฯ
ทั้ง 3 โลก หมายถึง สวรรค์ โลกมนุษย์ และโลกบาดาล ล้วนต้องการให้นางมาสถิตย์ เพราะการมาของนาง หมายถึงความเจริญรุ่งเรือง ไม่ขาดแคลน ! `
ปางบูชา “พระลักษมี” มี 8 ภาค (ปาง) เรียก “อัษฏลักษมี” ซึ่งทั้ง 8 ปางนี้ สื่อถึงคุณสมบัติที่เป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของพระนาง อันได้แก่
อธิลักษมี (จิตวิญญาณ ) , ธนลักษมี (ความมั่งคั่ง), ธัญญลักษมี (แม่โพสพ -เกษตรกรรม) , คชลักษมี (อำนาจ วาสนา บารมี) , สันตนลักษมี (บุตรหลาน) , วิชัยลักษมี (ชัยชนะ) , วีระลักษมี (กล้าหาญ), วิทยาลักษมี (ความรู้) พระลักษมี 8 ปางนี้ บางแห่งอาจจะหยิบบางปางออก และเอาปางอื่นเข้าตามความเหมาะสม เรื่องปางต่างๆนี้ ตามคัมภีร์บางสำนักก็มีชื่อเพิ่มจาก 8 เป็น 15 เช่น เมธาลักษมี,ภาคยลักษมี, กีรติลักษมี, อโรคาลักษมี, สิทธาลักษมี, สุนทรียลักษมี และ สัมราชยลักษมี เป็นต้น
ส่วนพิธีบูชา เชิญได้ที่วัดแขกสีลม ในวันปกติและวันที่ 8 สิงหาคมนี้ , หรือที่อื่นๆ ที่มีพระลักษมีประดิษฐาน เช่น ห้างเกษรวิลเลจ , เซ็นทรัล ลาดพร้าว, วัดพระวิษณุ , วัดเทพมณเฑียร, วัดไผ่เงิน ฯ
“Happy Varalakshmi Vratam 2025” ขออำนวยพรให้พระลักษมี ประทานเงินทองแก่ทุกท่าน อย่าได้มีความแร้นแค้น ขาดแคลนใดๆ มาเยือนชีวิตและบ้านเรือนเลย
เรื่อง : โดย Nai Mu
ภาพ ; จากอินเทอร์เนต