คลังยืดเวลายื่นภาษี สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เยียวยาผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา
สถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชาจนถึงช่วงเช้าวันที่ 29 กรกฎาคม มีประชาชนที่ได้รับผลกระทบต้องอพยพออกจากบ้านเรือนกว่า 1.88 แสนคน พลเรือนเสียชีวิต 15 ราย บาดเจ็บสาหัส 12 ราย บาดเจ็บเล็กน้อยถึงปานกลาง 26 ราย ส่วนสถานพยาบาลที่ได้รับผลกระทบมีทั้งหมด 20 แห่ง โดยปิดให้บริการ 13 แห่ง และปิดให้บริการบางส่วน 7 แห่ง
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)เปิดเผยว่า สถานพยาบาลได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะบริเวณชายแดนเกือบ 20 แห่ง มีความเสียหายรวมประมาณ 285 ล้านบาท ซึ่งได้มีการเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ไปแล้ว โดยรพ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เสียหายมากที่สุด ต้องทำใหม่หมดและต้องใช้เวลาฟื้นฟูเป็นปี
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่า กระทรวงการคลังได้ออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา 2 ส่วนคือ มาตรการในระดับพื้นที่ และมาตรการของสถาบันการเงินของรัฐ
มาตรการในระดับพื้นที่
- ขยายวงเงินทดรองราชการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดละ 100 ล้านบาท และพร้อมพิจารณาขยายเพิ่มหากไม่เพียงพอ เพื่อให้จังหวัดสามารถบริหารจัดการได้อย่างคล่องตัวและตอบโจทย์ความต้องการในพื้นที่
- อำนวยความสะดวกในการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่เกี่ยวข้องกับภารกิจด้านความมั่นคงให้สามารถดำเนินการได้อย่างเร่งด่วน ผ่านวิธีเฉพาะเจาะจง
- เตรียมมาตรการด้านสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือประชาชนผ่านธนาคารของรัฐ เช่น ธ.ก.ส. โดยจะให้สินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องแก่เกษตรกร รวมถึงสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ (soft loan) สำหรับผู้ได้รับความเสียหาย
มาตรการด้านภาษี
- เลื่อนเวลาการยื่นแบบและการชำระภาษี ได้แก่ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ จากเดิมระหว่างวันที่ 24 กรกฎาคม-31 สิงหาคม 2568 เป็นภายในวันที่ 30 กันยายน 2568
- ประชาชนสามารถหักลดหย่อนค่าซ่อมแซมที่อยู่อาศัยจากเหตุการณ์ความเสียหายได้ตามจริงไม่เกิน 100,000 บาท และสำหรับยานพาหนะไม่เกิน 30,000 บาท
มาตรการจากสถาบันการเงินของรัฐ
ธนาคาร ออมสิน
- พักชำระเงินต้นให้กับลูกหนี้ที่อยู่ในพื้นที่ได้รับผลกระทบจนถึงงวดเดือนธ.ค. 68 และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยบางส่วน
- สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำไม่ต้องมีหลักประกัน วงเงิน 20,000 บาท/ราย ผ่อนชำระ 12 เดือน ดอกเบี้ย 0.60%/เดือน
- สินเชื่อเพื่ออาชีพ ผ่อนชำระ 60 เดือน ดอกเบี้ย 0.75%/เดือน
- สินเชื่อ SMEs ลูกค้าเดิมไม่เกิน 5 ล้านบาท รายใหม่ไม่เกิน 3 ล้านบาท ผ่อนชำระ 7 ปี ดอกเบี้ยปีแรก MLR -2.65%, ปีถัดไป MLR
- ยกเว้นค่าธรรมเนียม Front End Fee และ Prepayment Fee
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรร์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
- สินเชื่อฉุกเฉิน วงเงินไม่เกิน 50,000 บาท/ราย ดอกเบี้ย MRR (6.725%) ผ่อน 3 ปี ปลอดดอกเบี้ย 6 เดือน
- สินเชื่อฟื้นฟูชีวิตและทรัพย์สิน วงเงินไม่เกิน 500,000 บาท ดอกเบี้ย MRR -2% ต่อปี ผ่อนสูงสุด 15 ปี
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)
- มาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ เช่น ลดดอกเบี้ยเหลือ 0.01% นาน 5 ปี
- ผู้ที่บ้านเสียหายทั้งหลัง หรือทุพพลภาพ/เสียชีวิต ได้สิทธิอัตราดอกเบี้ย 0.01% ตลอดอายุสัญญา
- กรณีกู้สร้างบ้านใหม่ ดอกเบี้ย 0% 6 เดือนแรก เดือนที่ 7-12 = 0.50% ต่อปี
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME D Bank)
- พักชำระเงินต้น ลดค่างวด ขยายเวลา
- สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เช่น "ปลุกพลัง SME" และ "Beyond ติดปีก SME" ดอกเบี้ย 3% ต่อปี ผ่อน 10 ปี
- สินเชื่อรีไฟแนนซ์ SMEs เริ่มต้นที่ 2.99%
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank)
- ขยายเวลาชำระหนี้ 365 วัน ลดดอกเบี้ยสูงสุด 20%
- เพิ่มวงเงินชั่วคราว 1 ปี สูงสุด 30 ล้านบาท
- มาตรการเสริม เช่น เงินทุนหมุนเวียนเพื่อออกงาน, Safe Trade, Export Credit Insurance ฯลฯ
ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (IBank)
- พักชำระเงินต้นและกำไรสูงสุด 6 เดือน ขยายได้อีก 6 เดือน
- สินเชื่อเพื่อซ่อมบ้าน เริ่มต้น 1.99% ต่อปี วงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท
- สินเชื่อฟื้นฟูธุรกิจ เริ่มต้น 3.25% วงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท
บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)
- โครงการ PGS11 "SMEs ยั่งยืน" ค้ำประกันรายละ 0.5-10 ล้านบาท สูงสุด 7 ปี ยกเว้นค่าธรรมเนียม 3 ปีแรก
- โครงการ SMEs Micro Biz ค้ำประกัน 10,000-500,000 บาท ยกเว้นค่าธรรมเนียม 3 ปีแรกเช่นกัน
- เปิดรับคำขอจนถึง 30 ธ.ค. 68
ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)กล่าวว่า พม.เตรียมเสนอมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ขอกู้ยืมเงินกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย -กัมพูชา7 จังหวัด ได้แก่ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี จันทบุรี ตราด และสระแก้ว
นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า คปภ.อยู่ระหว่างประสานความร่วมมือกับบริษัทประกันชีวิต บริษัทประกันวินาศภัยและชมรมประกันชีวิตต่างๆ ลงพื้นที่ตามศูนย์พักพิง/หรือศูนย์อพยพต่างๆ เพื่อสำรวจความต้องการของประชาชนที่ได้รับผลประสบจากเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างไทย-กัมพูชา
“ต้องบอกว่า “คนไทย” รวมใจกันดูแลอย่างดีทุกศูนย์ฯ รวมทั้งธนาคารและมูลนิธิต่างไปลงพื้นที่กันมากมาย ซึ่งคปภ.ได้ประสานหน่วยงานเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุการณ์"
ทั้งนี้ วันแรกๆ อาจจะได้ข้อมูลไม่ถึง 1 แสนรายแต่ก็ได้รวมกับทางจังหวัดลงพื้นที่แจกสิ่งของที่จำเป็น เพราะบางคนมาที่ศูนย์อพยพ โดยไม่ได้มีเสื้อผ้าสำรองเลย แม้ไม่มีสาขาหรือสำนักงานตัวแทนในพื้นที่ตอนนี้เร่งทำสำรวจภัย เพราะเรามีฐานข้อมูลอยู่แล้ว
หน้า 1 หนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,118 วันที่ 31 กรกฎาคม - 2 สิงหาคม พ.ศ. 2568