“หุ้นเวียดนาม” พุ่งทำ “All Time High” ปีนี้บวกกว่า +21.27%... แต่ “กองหุ้นเวียดนาม” ผลงานไม่วิ่ง +3.65% “แพ้ตลาด” เหตุพลาดลงทุน “หุ้น Vingroup” + “ขาดทุนค่าเงิน” !!!
สาระ Fund วันละนิด: ปิดดีล “ภาษี Trump”ไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับ “เวียดนาม” ที่ 20% ถือว่าน่าพอใจและรัฐบาลเวียดนามเองมีการปรับเป้าการเติบโตในปีนี้ขึ้นเป็น 8.5% จากเดิม 8.3% ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่เศรษฐกิจโตร้อนแรงสุดประเทศหนึ่งของโลก ล่าสุดไตรมาส2/25 ก็ยังโตถึง 7.96%
“หุ้นเวียดนาม”(VN30) ปีนี้ก็พุ่งขึ้นมาจนทำ “สถิติสูงสุดใหม่” (All Time High) ไปเรียบร้อยแล้ว มาอยู่ระดับ 1,630 จุด ในปัจจุบัน หรือบวกจากต้นปีมาแล้วกว่า +21.27%
ในขณะที่ราคายัง “ไม่แพง” มี Forward P/E 12 เดือน 11.71 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีเล็กน้อยที่ 11.29 เท่า ในขณะที่คาดกำไรบจ.ปีนี้ยังโตสูง +23.84% (ที่มา: Bloomberg, วันที่ 18 ก.ค. 25)
ตอบรับข่าวดีที่เตรียมขยับจาก “ตลาดชายขอบ” (Frontier Market) สู่ “ดัชนีตลาดเกิดใหม่” (Emerging Market) ของ “FTSE” คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือน ก.ย. 25 หลังมีการพัฒนาระบบการซื้อขายหลักทรัพย์ให้เป็นสากลมากขึ้น
ทำให้ “กองหุ้นเวียดนาม” ผลงานฟื้นตัวขึ้นมา ปีนี้ทำผลตอบแทนเฉลี่ยได้ +3.65% โดยกองทุนส่วนใหญ่ 98% มีผลตอบแทนเป็น “บวก” แต่ก็ยัง “แพ้ตลาด”
สำหรับ 5“กองหุ้นเวียดนาม” ที่มีผลงาน“ดีสุด-แย่สุด” ปีนี้ มีกองอะไรบ้างนั้น ทีมงาน‘Wealthy Thai’ สรุปเอาไว้ให้แล้ว ตามไปดูพร้อมๆ กันได้เลย
“กองหุ้นเวียดนาม” ผลงานปีนี้ฟื้น โชว์ผลตอบแทนเฉลี่ย +3.65%…“KT-VIETNAM RMF” แชมป์ผลตอบแทนสูงสุด +9.93% ส่วน “KKP VGF-UI” ดิ่งหนักสุด -5.11%
สำหรับ “กองหุ้นเวียดนาม” ทั้งหมด 46 กอง ปีนี้ทำผลตอบแทนเฉลี่ย +3.65% (ดีสุด +9.93%, แย่สุด -5.11%) โดยมี 45 กอง คิดเป็น 98% ที่ผลตอบแทนเป็น “บวก”
สำหรับ 5 “กองหุ้นเวียดนาม” ที่มีผลงาน “ดีสุด” ปีนี้ (ไม่นับรวมชนิดหน่วยลงทุนของกองทุนหลักเดียวกัน) ทำผลตอบแทนได้เฉลี่ย +7.29%ได้แก่
1) “KT-VIETNAM RMF” ของบลจ.กรุงไทย +9.93%
2) “PRINCIPAL VNEQ-USD” ของบลจ.พรินซิเพิล +9.39%
3) “ASP-VIET-SSF” ของบลจ.แอสเซท พลัส+7.98%
4) “KFVIET-A” ของบลจ.กรุงศรี +5.13%
5) “ONE-VIETNAMRMF-A” ของบลจ.วรรณ +4.03%
ส่วน 5 “กองหุ้นเวียดนาม” ที่มีผลงาน “แย่สุด” ปีนี้ ทำผลตอบแทนเฉลี่ยติดลบ -0.48% ประกอบด้วย
“KKP VGF-UI” ของบลจ.เกียรตินาคินภัทร -5.11%
“B-VIETNAMSSF” ของบลจ.บัวหลวง +0.13%
“SCBVNALPHA” ของบลจ.ไทยพาณิชย์ +0.43%
“ES-VIETNAM” ของบลจ.อีสท์สปริง+0.61%
“DAOL-VIETGROWTH” ของบลจ.ดาโอ +1.55%
“กองหุ้นเวียดนาม” แพ้ตลาด…เพราะพลาด “หุ้น Vingroup” & “ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน”
แม้ “หุ้นเวียดนาม” (VN30) ปีนี้จะพุ่งแรงขึ้นมาทำ “จุดสูงสุดใหม่” (All Time High) ไปเรียบร้อยแล้ว ปีนี้บวกมากว่า +21.27% อยู่ที่ระดับ 1,630 จุด แต่ผลงาน “กองหุ้นเวียดนาม” กลับให้ผลตอบแทนเฉลี่ยเพียง +3.65% เท่านั้น “แพ้ตลาด”
(ปิยะทัศน์ พาโสมนัสสกุล)
ทางด้าน “ปิยะทัศน์ พาโสมนัสสกุล” ผู้ช่วยผู้อำนวยการ และหัวหน้าฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน บล.ไพน์ เวลท์ โซลูชั่น บอกว่า เหตุผลที่ทำให้ “กองหุ้นเวียดนาม” ผลงานแพ้ตลาด แม้ตลาดหุ้นเวียดนามจะปรับตัวขึ้นมาอย่างร้อนแรงก็ตาม หลักๆ มาจาก 2 สาเหตุด้วยกัน คือ 1) กองทุนส่วนใหญ่ไม่ได้ลงทุนในหุ้น “Vingroup” ซึ่งเป็นหุ้นใหญ่นำตลาดในตลาดหุ้นเวียดนาม คล้ายกับหุ้น “DELTA” ในตลาดหุ้นไทยนั่นเอง ซึ่งอาจเป็นเรื่องของธรรมาภิบาลของบริษัทเองทำให้กองทุนเลี่ยงที่จะลงทุนกัน และ 2) ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน สำหรับกองทุนที่ลงทุนระหว่าง “บาท-ดองเวียดนาม” ปีนี้เงินดองอ่อนค่าก็ทำให้ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนไปแล้วไม่ต่ำกว่า 10% ส่วนกองที่ลงทุนระหว่าง “บาท-ดอลลาร์สหรัฐ-ดองเวียดนาม” ก็เจอ 2 เด้งเลย เพราะบาทแข็งค่า ซึ่งถือเป็นเรื่องที่นักลงทุนไทยเองก็ไม่เคยเจอ ทำให้ภาพรวมผลงานของ “กองหุ้นเวียดนาม” ในปีนี้ “Underperform” ดังกล่าว
“อย่างไรก็ตาม ‘หุ้นเวียดนาม” ยังเป็นตลาดที่น่าสนใจ มีศักยภาพในการเติบโตสูงทั้งเศรษฐกิจและกำไรบจ. ยังสามารถลงทุนได้ Upside มากกว่า 10% ในขณะที่เรื่องค่าเงินบาทที่จะแข็งค่าจากปัจจุบันคงมีไม่มากแล้ว เช่นเดียวกับค่าเงินดองเองก็คงอ่อนค่าไปไม่มากไปกว่านี้เช่นกัน จึงเป็นโอกาสสำหรับการลงทุนที่น่าสนใจด้วยเช่นกัน”
“ตลาดหุ้นเวียดนาม” ถือเป็นอีกตลาดที่มี Story of Growth ทั้งเศรษฐกิจและพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นเอง แต่ก็มี “ความผันผวนสูง” เป็นบุคลิกของ“ตลาดชายขอบ” (Frontier Market) สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและมองหาโอกาสลงทุนในตลาดที่มีศักยภาพสูง เชื่อว่า “หุ้นเวียดนาม” เป็นอีกหนึ่งตลาดที่สามารถมีไว้ติดพอร์ตได้เป็นอย่างดีผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต