มติเอกฉันท์ ‘กมธ.งบ 69’ ตัดงบสภาฯ 178 ล้านบาท
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 18 กรกฎาคม 2568 เวลา 22.39 น. • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทรัฐสภา 18 ก.ค.- ‘กมธ.งบ 69’ มติเอกฉันท์ตัดงบสภาฯ 178 ล้านบาท หวั่นถูกร้องเอาผิด ม.144
การประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะรองประธานกมธ.ฯ เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณางบประมาณของหน่วยงานของรัฐสภา
โดยก่อนการพิจารณา นายจุลพันธ์ ได้แจ้งว่า ในส่วนของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้มี สส.ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญกรณีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีส่วนในการเสนอแปรญัตติหรือการกระทำการใดๆ ที่มีส่วนในทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 และศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณา เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการพิจารณางบประมาณปี 2569 ของสภาฯ ระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มีคำวินิจฉัยดังกล่าวและเพื่อไม่ให้เป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำที่อาจจะฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144 จึงขอให้ที่ประชุมพิจารณาปรับลดงบประมาณในส่วนของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ซึ่งเป็นรายการภายใต้แผนงานยุทธศาสตร์และเสริมสร้างการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ผลผลิต การส่งเสริมการประชาสัมพันธ์เพื่อพัฒนาระบอบประชาธิปไตย และการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน งบเงินอุดหนุน เงินอุดหนุนทั่วไป ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน จำนวน 178 ล้านบาท ประกอบด้วย 3 รายการ ได้แก่ 1.โครงการพัฒนาศักยภาพเยาวชนและประชาชนในการปกครองระบอบประชาธิปไตย 2.โครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และ 3.โครงการส่งเสริมบทบาทของเสรีทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยสำนักงบประมาณได้มีหนังสือแจ้งมายังกมธ.ฯ ตนจึงขอปรึกษาหารือกับกมธ.ฯ ทุกท่าน
ด้านนายภัณฑิล น่วมเจิม สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะ กมธ.ฯ หารือว่า ตนในฐานะที่เป็นผู้ร้องศาลรัฐธรรมนูญ ตนมีความกังวลว่าหากเราพิจารณาปรับลดงบประมาณลงใันวันนี้ จะมีผลต่อการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 1 สิงหาคมนี้หรือไม่
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. ในฐานะกมธ.ฯ หารือว่า เพื่อให้เพื่อนสมาชิกที่ร้องศาลรัฐธรรมนูญนั้นมีความสบายใจอย่างน้อยให้สำนักกฎหมายได้มาช่วยอธิบายและยืนยันได้หรือไม่หากมีการปรับลดในวันนี้แล้วจะไม่มีผลต่อสถานะคำร้องที่ศาลรัฐธรรมนูญรับไป
ขณะที่ ว่าที่ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงว่า มีคำร้องที่เกิดขึ้นใน 2 ช่วงของกมธ.งบประมาณ ปี 68 โดยทั้ง 3 โครงการนั้นเกิดจากการแปรญัตติเพิ่มเติมของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ซึ่งได้มีการดำเนินการในงบประมาณปี 68 สำหรับคำร้องในปี 68 นั้นศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้รับคำร้อง ส่วนกรณีของปีื 69 นั้น สำนักงานเลขาธิการสภาฯ เสนอไปตามกระบวนการตามปกติคือต่อเนื่องจากโครงการที่เคยได้รับ ขอเรียนว่ากระบวนการปี 69 ไม่ได้เกิดในชั้นกมธ.ฯ วิสามัญตอนเริ่มพิจารณาร่าง แต่เป็นกระบวนการที่ร้องว่าสำนักงานฯ เสนองบประมาณทั้ง 3 โครงการเป็นกระบวนการที่ฝ่าฝืนต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 144 หรือไม่ เกิดตั้งแต่ตอนที่สำนักงานฯ มีคำขอไป ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้แจ้งให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ไปรับคำร้องเพื่อชี้แจง รวมถึงศาลรัฐธรรมนูญได้ขอเอกสารเพิ่มเติม ซึ่งเราได้ส่งไปตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วแล้วก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
แต่ กมธ.ฯ ยังมีการถกเถียงกันต่อถึงกรณีที่หากมีการลงมติแล้วจะมีผลต่อสถานะคำร้องของศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ ทำให้ ว่าที่ร.ต.ต.อาพัทธ์ กล่าวว่า ตนในฐานะเลขาฯ ขอถอนทั้ง 3 โครงการออกไป พวกท่านจะได้เดินหน้าต่อไม่ต้องมาเสียเวลา โดยจะทำหนังสือขอถอนโครงการตามมาอีกครั้ง
ทำให้นายจุลพันธ์ วินิจฉัยว่า ตนขอเดินหน้าในการลงมติว่าจะปรับลงงบประมาณในส่วนนี้หรือไม่
จากนั้นที่ประชุมกมธ.ฯ ลงมติ เห็นด้วยให้มีการปรับลง 45 ไม่เห็นด้วย 0 งดออกเสียง 2 และไม่ประสงค์ลงคะแนน 1 ถือว่าที่ประชุมเห็นด้วยกับการปรับลดงบประมาณจำนวน 178 ล้านบาทของสำนักเลขาธิการสภาฯ.-312 -สำนักข่าวไทย