อายัดชิ้นส่วนไก่สดแช่แข็ง 2 ตู้คอนเทนเนอร์ น้ำหนักกว่า 50 ตัน
ด่านกักกันสัตว์ประจวบคีรีขันธ์ สนธิกำลัง อายัดชิ้นส่วนไก่สดแช่แข็ง 2 ตู้คอนเทนเนอร์ น้ำหนักกว่า 50 ตัน ตรวจสอบ ขณะที่คนขับหายไปจากที่เกิดเหตุ
วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวรพงษ์ รังผึ้ง หัวหน้าด่านกักกันสัตว์ประจวบคีรีขันธ์ สนธิกำลังร่วมกับด่านกักกันสัตว์เพชรบุรี, นายพิทยา คณะมะ ปศุสัตว์อำเภอหัวหิน, ฝ่ายปกครองอำเภอหัวหิน, กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. หัวหิน ร่วมกันตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ต้องสงสัยบริเวณจุดพักรถ กรมทางหลวง กม. 31+200 ถนนหมายเลข 37 (บายพาสชะอำ-ปราณบุรี) ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
มีรายงานเบื้องต้นว่า ด่านกักกันสัตว์ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ต้องสงสัย จำนวน 2 คัน คาดว่าจะมีสิ่งของผิดกฎหมาย อาจขับผ่านเข้ามาในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จึงได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการออกตรวจสอบ กระทั่งมาพบตู้คอนเทนเนอร์จำนวน 2 ตู้ ถูกจอดทิ้งบริเวณจุดพักรถกรมทางหลวง โดยส่วนหัวรถหายไปจากจุดเกิดเหตุ คาดว่าคนขับรถจะไหวตัว จึงถอดตู้ส่วนพ่วงออก และขับรถหลบหนีไป โดยไม่ทราบทิศทาง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ฯ จึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบ โดยได้ร่วมกันเปิดตู้คอนเทนเนอร์ ตู้ที่ 1 จอดชิดขวาติดถนนบายพาส เมื่อเปิดออกดู พบเป็นตู้ห้องเย็น ด้านในมีกล่องกระดาษสีขาว เรียงอัดแน่นเต็มตู้ เปิดออกดู พบชิ้นส่วน ไก่สดแช่แข็ง น้ำหนักประมาณ 28 ตัน ส่วนตู้ที่ 2 จอดชิดในด้านซ้าย เมื่อเปิดออกดูพบกล่องกระดาษสีน้ำตาลบรรจุอยู่เต็มคันรถ ด้านในเป็นชิ้นส่วนไก่สดแช่แข็งเช่นเดียวกัน น้ำหนักประมาณ 25 ตัน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจดบันทึกข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ ที่ระบุอยู่บนกล่องบรรจุชิ้นส่วนไก่สดแช่แข็ง รวมถึงข้อมูลของตู้คอนเทนเนอร์ทั้ง 2 คัน เพื่อเป็นหลักฐานสำคัญในการแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจภูธรหัวหิน สำหรับติดตามตัว เจ้าของตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าว รวมถึงคนขับรถตู้คอนเทนเนอร์ทั้งสองคันที่หายไปจากที่เกิดเหตุมาสอบสวน ตามขั้นตอนของกฎหมาย
สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ประจวบคีรีขันธ์ จะทำการอายัดตู้คอนเทนเนอร์ทั้งสองตู้ไว้เป็นหลักฐาน ขณะเดียวกันจะนำชิ้นส่วนไก่สดแช่แข็งไปตรวจโรค เพื่อป้องกันโรคระบาด ตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 หากพบจะต้องถูกทำลายตามขั้นตอนกฎหมาย แต่หากไม่พบโรคระบาดก็จะอายัดไว้เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย พร้อมรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับ.