อัยการฯ เตรียมเรียก ‘แพทองธาร’ ให้ปากคำกรณีคลิปเสียงสนทนา ‘ฮุน เซน’
วันนี้ (1 ส.ค. 68) นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (ผบก.สอท.1) ประชุมหารือคณะกรรมการสอบสวน กรณีคลิปเสียงระหว่างนาย ฮุน เซน ฝ่ายกัมพูชา กับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร
โดยวันนี้เป็นการประชุมหารือระหว่างอัยการสูงสุดกับตำรวจไซเบอร์ครั้งแรก หลังจากที่มีการตั้งคณะกรรมการการสอบสวน กรณีที่นายสมคิด เชื้อคง เลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษสมเด็จ ฮุน เซน ในประเด็นปล่อยคลิปเสียงสนทนากับ น.ส.แพทองธาร โดยกล่าวหาไว้ 2 ข้อหา ประกอบด้วย ม.116 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินคดีหรือแจ้งข้อกล่าวหาใคร เป็นเพียงการพิจารณาว่าจะเข้าข่ายความผิดหรือไม่ ซึ่งคณะทำงานดังกล่าวจะเป็นผู้รวบรวมพยานหลักฐานส่งให้ทางอัยการสูงสุดพิจารณาสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง หากไม่สั่งฟ้องคดีก็เป็นอันสิ้นสุด
ส่วนการประชุมวันนี้เพื่อกำหนดทิศทาง และแนวทางสอบสวนว่าจะเรียกพยานคนไหนเข้ามาสอบปากคำบ้าง รวมถึงการพิจารณาเรียกนายกรัฐมนตรีเข้ามาสอบด้วยเช่นกัน แต่การสอบปากคำสมเด็จ ฮุน เซน โอกาสที่จะเรียกมานั้นยาก
สำหรับขั้นตอนหากอัยการสูงสุดชี้ว่ามีความผิด จะมีขั้นตอนการออกหมายจับ และเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดนต่อไป ส่วนที่บอกว่าข้อหาดังกล่าวเป็นเรื่องของการเมืองระหว่างประเทศ โอกาสที่ทั่วโลกจะจับกุมผู้กระทำความผิดมีหรือไม่ นายวัชรินทร์ เผยว่า เรื่องนี้เร็วเกินไป ไม่สามารถตอบได้
ส่วนหลักฐานที่ตำรวจพิจารณาสอบปากคำเบื้องต้นยังไม่มีน้ำหนักมากพอ ก็จะต้องหารือกันก่อน แต่หากอัยการสูงสุดมีการรับพิจารณาเป็นความผิดแล้ว ก็จะมีการเชิญนายสมคิดมาให้ปากคำเพิ่มเติม ยอมรับว่าคดีดังกล่าวเป็นคดีที่ประชาชนจับจ้อง ดังนั้นคณะพนักงานสอบสวนก็จะต้องมีการทำอย่างรอบคอบ แต่ไม่กดดัน เพียงแต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอน
ด้าน พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า เบื้องต้นจากการสอบปากคำผู้กล่าวหา ตำรวจได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมด โดยเฉพาะไทม์ไลน์ที่สมเด็จ ฮุน เซน ส่งให้คนใกล้ชิด 80 คน ส่วน ฮุน เซน จะเป็นคนโพสต์เองหรือไม่ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งขบวนการดังกล่าวมีการวางแผนเป็นขั้นตอน โดยเบื้องต้นพบว่ามีแอดมิน 4 คน ที่โพสต์จากกัมพูชา แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าสมเด็จ ฮุน เซน เป็นผู้โพสต์ด้วยหรือไม่