"ปูติน" หารือ "สี จิ้นผิง" ตอกย้ำสัมพันธ์ รัสเซีย-จีน แนบแน่น
วันนี้ (2 ก.ย.2568) วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย พบหารือทวิภาคีกับ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ที่มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง หนึ่งวันก่อนที่สองผู้นำจะร่วมพิธีสวนสนามของกองทัพจีน เนื่องในโอกาสครบรอบ 80 ปี การสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในวันที่ 3 ก.ย.2568
วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย และ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ที่ทำเนียบผู้นำจงหนานไห่ ในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2568
ผู้นำรัสเซีย กล่าวขอบคุณจีนที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นและย้ำถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศ โดยระบุว่า การสื่อสารกันอย่างใกล้ชิดระหว่างรัสเซียและจีน สะท้อนให้เห็นถึงยุทธศาสตร์ของความสัมพันธ์ที่อยู่ในระดับสูงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน พร้อมทั้งยกย่องสายสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างประชาชนของสองประเทศ ซึ่งอยู่เคียงข้างและสนับสนุนกันมาตลอด ตั้งแต่อดีตและจะยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป
ด้าน ผู้นำจีน ระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและรัสเซีย ได้ผ่านความท้าทายที่เกิดขึ้นมากมายท่ามกลางโลกที่เปลี่ยนแปลง พร้อมทั้งย้ำว่า จีนยินดีที่จะร่วมมือกับรัสเซียเพื่อส่งเสริมโลกที่ยุติธรรมและสมเหตุสมผลมากขึ้น รวมถึงยืนหยัดที่จะต่อต้านลัทธิใช้อำนาจครอบงำอย่างแน่วแน่
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย (ซ้าย) ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงแห่งจีน (ขวา) กำลังร่วมประชุม ณ มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2568
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ผู้นำรัสเซีย เพิ่งหารือกับผู้นำอีกหลายชาติ ทั้ง อิหร่าน ตุรกี และอินเดีย ซึ่งปรากฏภาพที่ ผู้นำรัสเซียจับมืออย่างแนบแน่น กับ นเรนดรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดียด้วย โดยผู้นำรัสเซีย ย้ำว่า ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและอินเดีย พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว
ขณะที่ ในการประชุมสุดยอดองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ หรือ เอสซีโอ ที่เทียนจินเมื่อวานนี้ (1 ก.ย.) ผู้นำรัสเซียใช้โอกาสนี้กล่าวปกป้องปฏิบัติการทางทหารของตนเองในยูเครนและโทษชาติตะวันตก ว่า เป็นต้นเหตุของความขัดแย้ง ขณะที่ผู้นำจีนกล่าวโจมตีรัฐบาลบางประเทศว่ากลั่นแกล้งชาติอื่นๆ แต่ไม่ได้เอ่ยถึงสหรัฐอเมริกาโดยตรง
อ่านข่าว :เก็บหลักฐานเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา วันที่ 2 พิสูจน์ความเสียหาย "โบราณสถาน-ศาสนสถาน"
"พล.ท.บุญสิน" จ่อนั่งที่ปรึกษา ทบ.หลังเกษียณ ยันไม่รื้อรั้ว-ปิดตายตาเมือนธม
พ่อแม่ควรรู้ ลูกไม่ผ่านการคัดกรองการได้ยิน "หูหนวก" จริงหรือ ?